“วัชระ”ฉะ“ธนาธร”อย่าวิจารณ์เหมาเข่งหลังศาลไม่ให้ประกันเด็กทำผิด ม.112

24 ต.ค. 2564 | 08:31 น.

“วัชระ” เตือน “ธนาธร”อย่าวิพากษ์กระบวนการยุติธรรมแบบเหมาเข่ง จากปมไม่ให้ประกันเด็กทำผิด ม.112 ย้อนแสบฝากแม่อบรมเปลี่ยนทัศนคติใหม่ ให้สำนึกในบุญคุณแผ่นดินนี้

วันนี้ (24 ต.ค.64) นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงกรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ออกมาวิจารณ์วันนี้เป็นยุคมืดของกระบวนการยุติธรรม การทำงานของตำรวจ อัยการ ศาล ราชทัณฑ์ บิดเบี้ยว รับใช้กลุ่มอำนาจที่ไม่ได้มาจากประชาชน กรณีศาลไม่ให้ประกันผู้ต้องหาคดี ม.112 คนหนึ่งว่า นายธนาธร กำลังหาเสียงกับเยาวชนกลุ่มหนึ่งโดยโจมตีกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ซึ่งไม่เป็นธรรมต่อศาลยุติธรรม

 

หาก นายธนาธร กล่าวหาตำรวจ อัยการ ก็พอเข้าใจได้ เพราะประชาชนเห็นอยู่ทุกวัน อยากให้นึกกรณีของนายสกุลธร  จึงรุ่งเรืองกิจ น้องชายของตัวเองซึ่งเป็นผู้จัดการบริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด  ก็ได้ประโยชน์จากตำรวจ และอัยการบางคนด้วยมิใช่หรือ 

 

ส่วนกรมราชทัณฑ์ก็ถูกกล่าวหาด้วยทั้งๆ ที่อยู่กับนักโทษและผู้ต้องหานับแสนคน ศาลไม่ให้ประกันตัวนักกิจกรรมคดี ม.112 คนหนึ่ง นายธนาธรก็หาว่าศาลบิดเบี้ยวรับใช้กลุ่มอำนาจ คิดว่าน่าจะเข้าข่ายหมิ่นศาล  แต่อยากจะอธิบายให้นายธนาธรเข้าใจว่า การที่ศาลไม่ให้ประกันอาจเป็นเพราะเกรงว่าจะไปกระทำความผิดซ้ำๆ ไปก่อม็อบ ร่วมม็อบกระทำความผิดในม.112 อีก

“นายธนาธร ก็น่าจะรู้ดีว่าใครหรือคนคณะไหนไปชี้นำ-ปลูกฝัง-ครอบงำทางความคิดให้กับเยาวชนกลุ่มหนึ่งให้กระทำการในสิ่งที่ผิดกฎหมาย โดยคณะคนชักใยเป็นสปอนเซอร์ดูแลตั้งแต่ในมหาวิทยาลัย ในม็อบจนถึงในคุก เหมือนๆ กับบางคนที่ชักนำมวลชนไปในที่ผิดแล้วตัวเองร่ำรวยลอยนวลโดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไร”

 

นายวัชระ ชี้ว่า การทำงานของตำรวจบิดเบี้ยว เห็นด้วยกับนายธนาธร แต่ตำรวจดีๆ ส่วนมากต้องเสียชื่อไปด้วย ตำรวจเป็นเอามาก มาถึงยุคที่พ่อผู้เสียชีวิตจากโควิด-19ไปแจ้งความรัฐมนตรีแล้ว ปรากฏว่าใบแจ้งความก็ไม่ได้  ต้องปฏิรูปตำรวจอย่างจริงจังได้แล้วขนาดไปแจ้งความ ตำรวจยุคนี้ยังไม่ให้สำเนาบันทึกประจำวันเลย

 

เรื่องอัยการบิดเบี้ยว ก็เห็นสั่งไม่อุทธรณ์ตั้งแต่คดีนายพานทองแท้ ชินวัตร คดีเงินกู้ธนาคารกรุงไทยจนถึงสั่งไม่ฟ้องน้องชาย นายธนาธร คดีสินบน 500 ล้านบาทใช่หรือไม่ ส่วนที่กรมราชทัณฑ์ที่ว่าบิดเบี้ยวก็น่าจะจริงเพราะรัฐมนตรีโยกย้ายเด็กเส้นข้ามหัวลูกหม้อมา3-4คน ข้าราชการรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจริงๆ

“นายธนาธร เคยได้รับเกียรติเป็นถึงผู้ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีควรที่จะสร้างความสามัคคีภายในชาติ  ไม่ควรมีแนวความคิดสุดโต่งเช่นนี้  หากนายธนาธร เป็นแบบนี้  ขอไม่เห็นด้วยกับนายธนาธร และคณะ  อยากขอร้องให้นางสมพร  จึงรุ่งเรืองกิจ มารดาของนายธนาธร  ช่วยปรับทัศนคติบุตรชายด้วย เพื่อเป็นการแสดงความสำนึกในบุญคุณแผ่นดินนี้”