เมื่อเวลา 17.29 น.วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสครบ 150 ปี กรมศุลกากร ณ ลานหน้าอาคารที่ทำการกรมศุลกากร เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร
เมื่อเสด็จฯ ถึง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงศีล พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กราบบังคมทูลรายงาน โครงการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ กรมศุลกากร
จากนั้น เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังแท่น ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นลานพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ ทรงเจิมแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงวางพุ่มดอกไม้ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ
แล้วตั้งเป็นกรมศุลกากรให้ทำหน้าที่จัดเก็บภาษีขาเข้า - ขาออก เพื่อเป็นรายได้แผ่นดินนำพาประเทศเข้าสู่ความเจริญรุ่งเรืองทัดเทียมนานาอารยประเทศจวบจนทุกวันนี้ จึงจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ขึ้น ณ กรมศุลกากร เพื่อเป็นการน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระราชสักการะ และเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อกรมศุลกากรและปวงชนชาวไทย
ต่อมาเสด็จเข้าอาคาร 1 ทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและพัฒนาการของการศุลกากรในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยที่มีการกล่าวถึง "จกอบ" (อ่านว่า จะ-กอบ) หรือการจัดเก็บภาษีจากสัตว์และสิ่งของที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศ สมัยกรุงศรีอยุธยา มีการตั้ง "พระคลังสินค้า" เมื่อ พุทธศักราช 2054 เป็นผู้ทำการค้าขายกับต่างประเทศและกำหนดประเภทสินค้าที่จะเข้ามาซื้อขาย
ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า ทรงแก้ไขวิธีเก็บภาษีอากรเป็น "ระบบเจ้าภาษีนายอากร" โดยมีพระคลังสินค้ารับผิดชอบจัดการเรื่องภาษีอากร จากนั้น ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ตั้ง "หอรัษฎากรพิพัฒน์" ขึ้นในพระบรมมหาราชวัง ทำหน้าที่รวบรวมรายได้ รวมถึงวางระเบียบการ รับส่งและเบิกจ่ายเงินงบประมาณแผ่นดิน อันเป็นจุดกำเนิดของกรมศุลกากรในปัจจุบัน