“บังหลี”สารภาพหมดเปลือก ฆ่าแหม่มสวิสคลี่คลาย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินหน้า

08 ส.ค. 2564 | 06:05 น.

“บังหลี”สารภาพหมดเปลือก ฆ่าแหม่มสาวที่ภูเก็ต คดีคลี่คลาย ชี้เหตุชิงทรัพย์ เคยต้องโทษยาเสพติด โทษจำคุก รอลงอาญา 2 ปี ขณะสินบนนำจับของ 14 องค์กรภาคเอกชนที่ร่วมลงขัน รางวัล 2 แสนบาท ไม่มีใครแจ้งเบาะแส ยกให้ตำรวจใช้ในกิจการ

คดีฆ่านักท่องเที่ยวสาวชาวสวิสเซอร์แลนด์ที่ จ.ภูเก็ตที่เป็นกระแสข่าวไปทั่วโลกกระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทย เริ่มคลี่คลายตามลำดับ

 

ล่าสุด พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)ได้นำคณะเปิดแถลงข่าว (8 ส.ค.64) ความคืบหน้าคดี ระบุว่า จากการสืบสวนทราบว่าเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 เวลาประมาณ 11.30 น. ผู้เสียชีวิต(นางนิโคล ซอเวน ไวซคอฟ)ได้ออกจากโรงแรมที่พักบริเวณอ่าวยนเพียงลำพัง เดินเท้าไปตามถนนมุ่งหน้าน้ำตกโตนอ่าวยน ได้ไปถึงบริเวณทางขึ้นเวลาประมาณ 11.49 น. โดยระหว่างทางมีกล้องวงจรปิดจับภาพผู้เสียชีวิตได้ตลอดเส้นทาง และไม่ได้กลับออกมาจากที่เกิดเหตุอีกเลย

 

“บังหลี”สารภาพหมดเปลือก ฆ่าแหม่มสวิสคลี่คลาย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินหน้า

 

จากข้อมูลกล้องวงจรปิดบริเวณทางขึ้นน้ำตกฯ พบผู้ต้องสงสัยได้ขับขี่รถจักรยายนต์กลับออกจากที่เกิดเหตุ จากการสืบสวนทราบว่าจักรยานยนต์คันดังกล่าว หมายเลขทะเบียน ขมข 493 ภูเก็ต ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง มีนายธีรวัฒน์  ท่อทิพย์ (บังหลี)อายุ 27 ปีเป็นผู้ขับขี่ อยู่บ้านเลขที่ 11/7 หมู่ที่ 3 ต.ปากคลอง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต แต่มีที่พักอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่เกิดเหตุ

 

จึงได้เชิญตัวมาทำการซักถาม ให้การรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏอยู่ในภาพวงจรปิด ตรวจตามร่างกายพบมีร่องรอยบาดแผลที่เพิ่งเกิดหลายแห่ง สภาพบาดแผลเกิดมาประมาณ 4-5 วัน จากการซักถามพบว่ามีพิรุธต้องสงสัยให้ถ้อยคำไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงหลายประการ ต่อมาจึงให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าด้วยตนเอง

“บังหลี”สารภาพหมดเปลือก ฆ่าแหม่มสวิสคลี่คลาย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินหน้า

 

โดยให้การว่า หลังจากที่ได้เดินขึ้นไปบริเวณชั้นบนของน้ำตกโตนอ่าวยน เมื่อได้เดินทางกลับพบผู้เสียชีวิตนั่งอยู่บริเวณโขดหิน ได้แอบดูอยู่ซักครู่ แล้วได้เดินเข้าไปที่บริเวณด้านหลัง ได้ใช้มือทั้งสองข้างล็อกคอผู้เสียชีวิต ผู้เสียชีวิตได้ดิ้นรนต่อสู้แล้วตกลงไปที่บริเวณแอ่งน้ำด้วยกันจนผู้เสียชีวิตแน่นิ่ง

 

จากนั้นได้จับผู้เสียชีวิตคว่ำหน้า และใช้พลาสติกสีเข้มที่อยู่ในบริเวณนั้นมาคลุมปิดศพไว้ และใช้ก่อนหินทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อไม่ให้ผู้ใดพบเห็น แล้วนำกระเป๋าเป้ไปซ่อนไว้ที่บริเวณหลังต้นไม้ ส่วนรองเท้าของผู้เสียชีวิตได้โยนทิ้งห่างจากศพผู้ตายออกไป จากนั้นได้หลบหนีออกจากที่เกิดเหตุ โดยขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว

 

ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต จึงได้จับกุมนายธีรวัฒน์ฯ ผู้ต้องหา ตามหมายจับที่ 219/2564 ลง 7 สิงหาคม 2564

 

“บังหลี”สารภาพหมดเปลือก ฆ่าแหม่มสวิสคลี่คลาย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินหน้า

 

โดยกล่าวหาว่า “ฆ่าผู้อื่น” นายธีรวัฒน์ฯผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

 

จากการสอบสวนเพิ่มเติม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ไปรื้อค้นกระเป๋าเป้เอาทรัพย์สิน ซึ่งเป็นเงินสดของผู้เสียชีวิตไปจำนวน 300 บาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมว่า “ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

“บังหลี”สารภาพหมดเปลือก ฆ่าแหม่มสวิสคลี่คลาย ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์เดินหน้า

อนึ่ง นอกจากนี้ยังพบว่า นายธีรวัฒน์ฯ ผู้ต้องหาเคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง จ.ภูเก็ตจับกุมเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 ในความผิด “ครอบครองยาเสพติดให้โทษ (แมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย” ตามคดีอาญาที่ 1278/2563 ลง 5 ตุลาคม  2563 ศาลพิพากษาจำคุก 9 เดือน ปรับ 15,000 บาท โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี อยู่ระหว่างการควบคุมความประพฤติ 1 ปี

 

ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นประสิทธิภาพการทำงานของเจ้าหน้าตำรวจในการดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยวโครงการ “ Phuket Sandbox” ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน

 

ขณะที่รายงานข่าวระบุ กรณี 14 องค์กรภาคเอกชนลงขัน รางวัล 2 แสนบาท เพื่อจับกุมคนร้ายคดีนี้ แต่สุดท้ายไม่มีผู้แจ้งเบาะแส จึงมอบให้ตำรวจใช้ในกิจการพร้อมมอบช่อดอกไม้