KEY
POINTS
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็กจำกัด หรือ GBS ประเมินแนวโน้มดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ในสัปดาห์นี้ (23-26 ธ.ค. 68) ว่า ดัชนี SET Index มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ออกข้าง
ได้รับแรงหนุนจากปัจจัยบวกในต่างประเทศ หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ สร้างความหวังให้กับนักลงทุนว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในปีหน้า
โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 58% ในการคาดการณ์ว่า FED จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก 0.25% ในการประชุมเดือนมี.ค.69 จากเดิมที่ให้น้ำหนักเพียง 32.9% เมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกันปริมาณการซื้อขายของนักลงทุนต่างชาติจะเบาบาง เนื่องจากเข้าสู่ช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งอาจทำให้แรงซื้อขายโดยรวมไม่คึกคักเท่าช่วงปกติ จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนี SET อยู่ในกรอบ 1,230 - 1,280 จุด
โดยปัจจัยลบกดดันตลาดการเงินโลกและเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้เวเนซุเอลาคืนสินทรัพย์ที่ถูกยึดจากบริษัทน้ำมันสหรัฐฯ พร้อมสั่งปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตร และประกาศให้รัฐบาลเวเนซุเอลาเป็น 'องค์กรก่อการร้ายต่างชาติ'
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ขู่ใช้กำลังทางทหารเข้ายึดครองดินแดนยูเครนเพิ่มเติม หากไม่มีการหารือร่วมกับสหรัฐฯ และผู้นำยุโรปรวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอน โดยสมาคม MBA รายงานจำนวนผู้ยื่นขอสินเชื่อลดลง 3.8% หลังอัตราดอกเบี้ยจำนองปรับตัวสูงขึ้น
สำหรับไทย กนง. ปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 2569 เหลือ 1.5% จากเดิม 1.6% สะท้อนการชะลอตัวของการบริโภคและการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐ ขณะที่ภาคท่องเที่ยวฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป
นายวัชเรนทร์ จงยรรยง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า สำหรับคำแนะนำการลงทุนในสัปดาห์นี้ ทางฝ่ายแนะกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มสินเชื่อรายย่อยและบริหารหนี้ ได้แก่ MTC, SAWAD, TIDLOR และ BAM เป็นต้น
เนื่องจากมีแนวโน้มได้รับประโยชน์โดยตรงจากการที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.50% เหลือ 1.25% ต่อปีเนื่องจากช่วยให้บริษัทเหล่านี้มีต้นทุนทางการเงินลดลงส่งผลบวกต่อกำไรสุทธิ