บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ปัจจุบันทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า EV ด้วยการนำเข้ามาจากเยอรมนี ทั้ง BMW i5, iX2, i4, i7 และ iX ขณะที่ iX3 และ iX1 L นำเข้าจากจีน (เช่นเดียวกับ MINI Cooper SE, ACEMAN)
ล่าสุดปรับพอร์ตรถกลุ่มนี้ด้วยการลดราคาลงหลักล้านบาท เช่น BMW i5 eDrive 40 M Sport จากราคา 4.999 ล้านบาท เหลือ 3.499 ล้านบาท iX xDrive 50 เดิมราคา 6.349 ล้านบาท เหลือ 3.999 ล้านบาท ส่วน i7 ราคา 8.149 ล้านบาท เหลือ 5.699 ล้านบาท
ส่วนการประกอบ EV รุ่นแรกในไทย ที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง จ.ระยอง กับรุ่น BMW i5 ยังเดินหน้าตามแผน คาดเปิดตัวภายในเดือนตุลาคมนี้ ด้วยราคากว่า 3 ล้านบาท
สำหรับ BMW i5 เป็นรถพลังงานไฟฟ้า 100% ที่พัฒนาร่วมกับ 5 Series G60 เปิดตัวในไทย ปลายปี 2566 โดย i5 eDrive40 M Sport ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลังให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 83.9 kWh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 582 กิโลเมตร(WLTP)
อย่างไรก็ตาม บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังเดินแผนนำเข้า EV รุ่นใหม่ๆ มาทำตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยไฮไลต์สำคัญของแบรนด์อย่าง โฉมใหม่ BMW iX3 Neue Klasse ที่เพิ่งอวดโฉมในตลาดโลก กับเอสยูวีสถาปัตยกรรม 800 โวลต์ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 108.7 kWh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 805 กม. เตรียมนำเข้ามาเปิดตัวในไทย เดือนมีนาคมปี 2569 หรือภายในงานบางกอก มอเตอร์โชว์ 2026
ปัจจุบันโรงงานของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ที่เพิ่มการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สามารถประกอบรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นต่างๆ ทั้งหมด 19 รุ่น ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 2 ซีรีส์ 3 ซีรีส์ 5 ซีรีส์ 7 ในจำนวนนี้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อินไฮบริด 4 รุ่น คือ 330e 530e 750e xDrive M Sport และ M760e xDrive เอสยูวีประกอบ X1 X3 X5 X6 และ X7 รวมถึงมินิ คันทรีแมน ตลอดจนบิ๊กไบค์บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด อีกหลายรุ่น โดยถือเป็นสายการผลิตแห่งเดียวในโลกของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ที่สามารถประกอบรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จากทั้งแบรนด์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด
นอกจาก EV แล้ว กลุ่มรถสมรรถนะสูง บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย ยังนำเข้ามาทำตลาดอย่างต่อเนื่องล่าสุด เปิดตัว M2 CS ใหม่ และ M3 CS Touring
BMW M2 CS ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ กำลัง 530 แรงม้า แรงบิด 650 นิวตันเมตร (เพิ่มขึ้น 50 แรงม้าจาก M2 รุ่นมาตรฐาน) ส่งกำลังลงสู่ล้อหลังด้วยเกียร์ M Steptronic 8 สปีด อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ 3.4–3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 302 กม./ชม. ราคาเริ่มต้น 7,999,000 บาท
ด้าน M3 CS Touring กับเครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบแถวเรียง ขนาด 3.0 ลิตร เทอร์โบ กำลังสูงสุด 551 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 300 กม./ชม. ราคา 15,499,000 บาท
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม 2568 บีเอ็มดับเบิลยู มียอดจดทะเบียน ประมาณ 7,700 คัน ลดลง 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีแล้ว ขณะที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ ทำได้ 5,293 คัน ลดลง 9% ดังนั้นจบปี 2568 บีเอ็มดับเบิลยู จึงมีโอกาสรักษาแชมป์ตลาดรถหรูเมืองไทย ไว้ได้เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกัน
ในส่วนเมอร์เซเดส-เบนซ์ เตรียมขึ้นไลน์ประกอบ EV รุ่นใหม่ CLA 250+ with EQ Technology ที่โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ ปลายปีนี้เช่นกัน ก่อนจะพร้อมส่งมอบต้นปี 2569
สำหรับ CLA EV ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อนล้อหลัง กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 335 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุ 85 kWh ชาร์จไฟเต็มหนึ่งครั้งวิ่งได้ระยะทาง 792 กม. (WLTP) คาดว่าราคาขายจะอยู่ในช่วง 2.5-2.9 ล้านบาท