ใครไปเที่ยวภูเก็ตช่วงนี้ บอกเลยว่าพลาดไม่ได้กับการไปชมโชว์ที่ทั้งอลังการและตื่นตาตื่นใจ “อควาเซอคัสภูเก็ต” Aqua Circus Phuket ที่จะนำคุณท่องโลกปาฎิหาริย์เหนือสายน้ำ ภายในโดมการแสดงสูง 15 เมตร เพื่อร่วมค้นหาโลกที่สาบสูญไปกับนักแสดงระดับโลกกว่า 50 ชีวิต ด้วยการแสดงสุดยิ่งใหญ่สนุกสนาน ตื่นเต้นตลอด 1.20 ชม.
การแสดง Aqua Circus Phuket ได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่อง “เกาะมหาสมบัติ” และ “โจรสลัดแห่งแคริบเบียน” นำมาปรุงแต่งให้กลมกล่อมลงตัว 20 ฉาก ในรูปแบบการแสดงกายกรรม มายากล บัลเล่ย์ นักร้อง และสัตว์ ด้วยนักแสดงมืออาชีพ ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี
ไม่ว่าจะเป็น ชุดการแสดงที่ตระการตา เทคนิคต่างๆ เหาะเหินเดินอากาศ สลิง น้ำพุดนตรี แสงเสียงตื่นตาตื่นใจ ระหว่างชมการแสดงทำเราแทบจะไม่กระพริบตา ซึ่งไม่ว่าจะนั่งอยู่มุมไหนก็สัมผัสได้ถึงความอัศจรรย์อย่างเต็มอิ่ม
อควา เซอร์คัส ภูเก็ต จัดว่าเป็นจุดขายใหม่ของการท่องเที่ยวภูเก็ตที่เพิ่งเปิดให้บริการ ใครจะไปชมโชว์สุดปังนี้ แวะไปกันที่ได้ ณ ถนนพระภูเก็ตแก้ว กะทู้ ภูเก็ต บนเนื้อที่ 8 ไร่ โดมการแสดงจุได้ 800 ที่นั่ง เปิดการแสดงทุกวัน (เว้นวันจันทร์) รอบเวลา 14:30 และ 19:30 น. เข้าไปดูรายละเอียด คลิ๊ก
นับถอยหลังการเปิดให้บริการ “จูราสสิค เวิล์ด เอเชียทีค " หรือ "Jurassic World The Experience Bangkok” ครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบอิมเมอร์ซีฟ ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ที่จะนำเราย้อนไปสู่โลกของไดโนเสาร์เสมือนจริง ผ่านเทคโนโลยีอิมเมอร์ชีฟซึ่งจะเปิดให้บริการในราวเดือนกรกฏาคมนี้
Jurassic World The Experience Bangkok ณ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น มีขนาดพื้นที่ร่วม 1 หมื่นตารางเมตร ภายในพื้นที่ 2 ชั้น ใหญ่กว่าที่เคยจัดในเซี่ยงไฮ้ถึง 5 เท่า และจะเปิดให้บริการกึ่งถาวร โดยไฮไลท์ของที่นี่
เราจะตื่นตาไปกับหุ่นยนต์ไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริง คุณภาพเทียบเท่ากับที่จัดแสดงในธีมปาร์คทั่วโลก อย่าง จูราสสิค เวิล์ด ในยูนิเวอร์แซล ของสิงคโปร์ ทั้งในด้านขนาด พื้นผิว (Texture) และการเคลื่อนไหว (Movement) เหมือนไดโนเสาร์จริงเป๊ะเลย
อีกทั้งเราจะยังได้เห็นไดโนเสาร์ จากทุกภาคของภาพยนตร์ในแฟรนไชส์ Jurassic World ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 30 ปี มารวมอยู่ในที่เดียวกัน ผ่านการใช้เทคโนโลยีอิมเมอร์ซีฟ (Immersive Technology) ล้ำสมัยให้ฟีลเหมือนหลุดเข้าไปในโลกของจูราสสิค เวิลด์ จากการจำลองฉากสำคัญจากภาพยนตร์ ทั้งแสง สี เสียง และสัมผัสที่สมจริง
ทั้งยังมีพื้นที่พิเศษสำหรับแฟนคลับ จูราสสิค เวิลด์ (Jurassic World Community) ให้เราสามารถทักทายและสัมผัสกับน้องๆ เบบี้ไดโนเสาร์ได้อย่างใกล้ชิด สร้างประสบการณ์แบบ Interactive ที่ไม่เหมือนใคร
รวมถึงมีโซนอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ไม่ได้อยู่ในธีมปาร์ค และมีการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะที่ประเทศไทยเท่านั้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ต้องการของนักสะสมและแฟนพันธุ์แท้ของแฟรนไชส์จูราสสิค เวิลด์ทั่วโลก
ยิ่งภาพยนตร์ภาคใหม่ล่าสุด “Jurassic World Rebirth” ที่จะเข้าฉายใน วันที่ 2 กรกฏาคมนี้ ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้มีความพิเศษสำหรับประเทศไทย เนื่องจากมีการเลือกประเทศไทยเป็นหนึ่งในโลเคชั่นหลักในการถ่ายทำ ซึ่งในช่วงที่มีการถ่ายทำได้สร้างกระแสในโซเชียลมีเดียอย่างกว้างขวาง
เพราะมีนักแสดงชื่อดังระดับฮอลลีวูดอย่าง สการ์เล็ตต์ โจแฮนส์สัน เดินทางมาถ่ายทำในไทย และยังมีแผนที่จะเดินทางมาร่วมเปิดตัวภาพยนตร์ในไทยด้วย
การเปิดให้บริการของ “จูราสสิค เวิล์ด เอเชียทีค ” ในช่วงกลางเดือนก.ค.นี้ จึงเป็นไทม์มิ่งที่ดี เพราะนอกจากดึงดูดนักท่องเที่ยวแล้ว ยังได้กลุ่มคนที่เดินทางมาตามรอยภาพยนตร์ที่ถ่ายทำในไทย และสนใจเข้ามาชมนิทรรศการนี้
ในช่วงปลายปีนี้ เชียงใหม่ เตรียมจะเปิดตัว “ลานนาทีค” (Lannatique) ที่จะพลิกโฉมย่านช้างคลาน สู่ไลฟ์สไตล์ แลนด์มาร์กด้านศิลปวัฒนธรรมระดับโลก ซึ่งหลอมรวมวิถีชีวิต ศิลปะวัฒนธรรมล้านนาอันทรงคุณค่ากว่า 700 ปี และวัฒนธรรมร่วมสมัยมาไว้ในพื้นที่เดียวกัน ในรูปแบบ “หมู่บ้านศิลปะร่วมสมัย” เชื่อมโยงมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับการสร้างสรรค์ในโลกปัจจุบันอย่างกลมกลืนผสานกับไลฟ์สไตล์ด้านสุขภาพ และผลิตภัณฑ์ชุมชนคุณภาพระดับโลก
ภายในลานนาทีค เชียงใหม่ จะประกอบไปด้วย “ลานนาทีค กาแล” ศูนย์การค้ากว่า 17,500 ตารางเมตร ถ่ายทอดเสน่ห์แห่งศิลปวัฒนธรรมล้านนาและศิลปะสมัยใหม่ผ่าน 3 หมู่บ้านศิลป์ ได้แก่ หมู่บ้านศิลปะไทยและหัตถกรรมทรงคุณค่า Cultural Village หมู่บ้านวัฒนธรรมหลากหลายของชาติพันธุ์ และ Creative Art Village หมู่บ้านสร้างสรรค์ศิลปะแบบใหม่
รวมถึงพื้นที่ Experiential Shop ครั้งแรกกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์จากไทยที่ออกแบบมาเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้
ไม่ว่าจะเป็น “6ixcret Show” โดย “กันตภณ เนียมมณี” นักออกแบบการแสดง เจ้าของผลงานสร้างสรรค์ในเชียงใหม่ และระดับประเทศ ร่วมกับทีมผู้บริหารและทีมงานผู้มีประสบการณ์จากเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งจะเข้าร่วมพัฒนาภายในโครงการลานนาทีค กาแล ที่จะเปิดโรงละครภายใต้แบรนด์ STARGANZA LIVE นำเสนอการแสดง Cabaret Show ร่วมสมัยที่หลอมรวมศิลปะ แฟชั่น วัฒนธรรมล้านนาท้องถิ่น ถ่ายทอดออกมาในมิติที่ใหม่แบบอิมเมอร์ซีล้ำสมัย ยกระดับการแสดงศิลปะในเชียงใหม่สู่มาตรฐานระดับสากล บนพื้นที่รวมมากกว่า 500 ตารางเมตร
“ร้านเอกฉันท์” โดย “เชฟเอก เอกพล พิชวงค์” ผู้สร้างสรรค์อาหารไทยท้องถิ่นชื่อดังจากมิชลินไกด์ในเชียงใหม่ ที่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบจากแหล่งออร์แกนิกท้องถิ่นและรสชาติที่สะท้อนเอกลักษณ์ของภูมิภาค เตรียมเปิดโมเดลใหม่ใน ลานนาทีค กาแล ที่จะนำเสนออาหารไทยที่เปี่ยมด้วยอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมผ่านวัตถุดิบพื้นถิ่นคุณภาพดี ถ่ายทอดรสชาติและเรื่องราวจากทุกภูมิภาคของประเทศในมิติใหม่ที่ยังคงความดั้งเดิมไว้อย่างกลมกลืน บนพื้นที่รวมมากกว่า 500 ตารางเมตร โดยจะเปิดให้บริการเฟสแรกในช่วงปลายปี 2568 นี้
นอกจากนี้ยังมี “ลานนาทีค บาซาร์” ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 22,500 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด Contemporary Art กับพื้นที่ศิลปะร่วมสมัย และ “ลานนาทีค มาร์เก็ต” ครอบคลุมพื้นที่ศูนย์การค้ากว่า 87,000 ตารางเมตร ที่อยู่ระหว่างการศึกษาภายใต้คอนเซ็ปต์ในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชนเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างยั่งยืน
รู้ยังเชียงใหม่ กำลังจะมีรถแทรมไฟฟ้านำเที่ยว “Chiang Mai Tram by Lannatique” ซึ่งจะเชื่อมเส้นทางวัฒนธรรมทั่วตัวเมืองเชียงใหม่ คาดว่าจะเปิดให้บริการในปลายปีนี้ Chiang Mai Tram by Lannatique จะเป็น รถแทรมไฟฟ้าล้อยางนำเที่ยวแห่งแรกของประเทศไทย ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด Innovative and Sustainable Tourism เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม และชุมชนท้องถิ่น รวมถึงร้านอาหาร คาเฟ่ ชื่อดัง รวมกว่า 40 แห่งตลอดสาย
อาทิ ประตูท่าแพ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ตลาดวโรรส คลองแม่ข่า โครงการ “Lannatique” พันธุ์ทิพย์ ไลฟ์สไตล์ ฮับ เชียงใหม่ และโรงแรมในเครือ AWC เป็นต้น
รถแทรมไฟฟ้านำเที่ยว จะเปิดให้บริการฟรี มีบริการรถแทรมไฟฟ้าราว 1,500 คัน โดยจะทำให้นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ได้สะดวกมากขึ้น โดยสามารถนำรถส่วนตัวมาจอดไว้ ในจุดจอด และใช้บริการรถแทรมไฟฟ้าได้เลย ทั้งยังช่วยลดการปล่อยมลภาวะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากการใช้พลังงานไฟฟ้าอีกด้วย และช่วยลดปัญหาลดติดในเขตเมือง
สำหรับรายละเอียดในเรื่องของเส้นทางและจุดจอดรถแทรมไฟฟ้า จะมีการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้งในช่วงปลายปีนี้ โดยจะเปิดให้บริการพร้อมๆกับลานนาทีค เชียงใหม่นั่นเอง
ใครเป็นสายชอบเดินเที่ยวชมวิวมุมสูง เชื่อว่าหลายคนกำลังรอคอยจะมาเยือนสกายวอล์คยาวที่สุดในประเทศไทย นั่นก็คือ “SKY WALK เมืองโบราณอู่ทอง” อำเภออู่ทอง แลนด์มาร์กใหม่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี ที่เตรียมจะเปิดให้บริการภายในปี 2568 นี้ หลังเริ่มก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2563 พิกัดจะอยู่ใน “วัดเขาทำเทียม” จุดแกะสลักพระใหญ่อู่ทอง
อลังการมากกับสกายวอล์คยาวกว่า 500 เมตร สูงประมาณ 32 เมตร เทียบเท่าตึก 12 ชั้น และไร้เสาค้ำยัน ที่เดียวในไทย กระจกนิรภัยแต่ละแผ่นรองรับน้ำหนักได้ ราว 500 กิโลกรัม รวมถึงมีลิฟต์แก้วให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ได้ด้วย
แม้สกายวอล์คจะยังไม่ได้เปิดให้บริการ แต่ในขณะนี้ก็สามารถแวะมาสักการะ “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” (หลวงพ่ออู่ทอง) พระพุทธรูปหินแกะสลักลอยนูน ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน สร้างจากเหมืองหินบนหน้าผาเหมืองร้าง ที่ชื่อว่า “ผามังกรบิน” วัดเขาทำเทียม พุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ในเขตโบราณสถานเมืองอู่ทอง
อันเป็นเขตพื้นที่ ที่กรมศิลปากรยืนยันว่า เป็นจุดเริ่มต้นของการเผยแพร่พระพุทธศาสนาในดินแดนสุวรรณภูมิ และหลักฐานทางโบราณคดีว่า พระเจ้าอโศกมหาราชแห่งอินเดีย พระองค์ส่งพระธรรมทูตออกเผยแผ่พระพุทธศาสนา 9 สาย สายที่ 8 ส่งทรงพระโสณะและพระอุตตรเถระ เข้ามาดินแดนสุวรรณภูมิเมื่อต้นพุทธศตวรรษที่ 3 ซึ่งปรากฏร่องรอยพระพุทธศาสนาในอู่ทองนั่นเอง