พัทยาฟู้ด-รพ.สัตว์ทองหล่อ ปั้นแบรนด์ “เรมี่” ชิงตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง

18 มี.ค. 2566 | 04:59 น.

“อาหารสัตว์เลี้ยง” โตก้าวกระโดด พัทยาฟู้ดร่วมทุนรพ.สัตว์ทองหล่อ ขยายพอร์ตธุรกิจปั้นแบรนด์ “เรมี่” ส่งอาหาร-ขนมตีตลาดไทย ก่อนปูพรมเวียดนาม มาเลเซีย จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เล็งแตกไลน์สู่อาหารปลาและ Exotic Pet

นางสาวสุดาทิพ เกียรติศรีชาติ กรรมการ กลุ่มบริษัทพัทยาฟู้ด เปิดเผยว่า ในปี 2565 ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในเมืองไทยมีการเติบโตต่อเนื่องสอดคล้องกับตลาดโลก โดยพบว่า ตลาดอาหารสุนัขมีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็นอาหารเม็ด 60% ขนม 25% และอาหารเปียก 5-10% ส่วนตลาดอาหารแมวมีมูลค่าราว 1 หมื่นล้านบาทแบ่งเป็นอาหารเม็ด 60% อาหารเปียก 30% และขนมแมวเลีย 10% 

ขณะที่มีการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงกว่า 7 หมื่นล้านบาทต่อปี โดยมีสหรัฐอเมริกาและเยอรมนีเป็นตลาดที่สำคัญ โดยในแต่ละปีกลุ่มพัทยาฟู้ด มีการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงเกือบ 2,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอาหารแมว 95% โดยมีอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมสำหรับสุนัขและแมวแบรนด์ “Regalos” เป็นเรือธง

พัทยาฟู้ด-รพ.สัตว์ทองหล่อ ปั้นแบรนด์ “เรมี่”  ชิงตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง

ล่าสุดบริษัทได้จับมือกับ รพ.สัตว์ทองหล่อ ร่วมทุนตั้งบริษัท เรมี่ เพ็ท จำกัด (Remy Pet) ขึ้น เพื่อทำธุรกิจอาหารและขนมสัตว์เลี้ยงกลุ่มฟังก์ชั่นนอลภายใต้แบรนด์ “เรมี่” จำนวนกว่า 12 รายการ โดยในระยะแรกนำร่องวางจำหน่ายขนมแมวเลียและอาหารสุนัขในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อทำตลาดกลุ่มพรีเมียมแมสมูลค่า 3,300 ล้านบาท ผ่านช่องทางออนไลน์ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อและเพ็ทช็อปก่อนจะขยายไปช่องทางโมเดิร์นเทรด ในช่วงปลายปีนี้

อย่างไรก็ตามบริษัทคาดหวังว่าเรมี่จะสามารถก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นในระดับโลกได้ภายใน 3 ปี โดยในระยะแรกจะเริ่มทำตลาดในประเทศเวียดนามซึ่งทั้งพัทยาฟู้ดและรพ.สัตว์ทองหล่อมีธุรกิจอยู่ ประกอบศักยภาพในการเติบโตค่อนข้างสูงจากรายได้ที่สูงขึ้นของชนชั้นกลางและตลาดสัตว์เลี้ยงที่เริ่มเติบโต ก่อนจะขยายไปยัง มาเลเซีย จีน อินเดียและอินโดนีเซีย นอกจากนี้ยังมีแผนขยายพอร์ตสินค้าจากอาหารและขนม สำหรับสุนัขและแมวไปยังสัตว์เลี้ยงประเภทอื่นเช่นอาหารปลาและ Exotic Pet ด้วย

พัทยาฟู้ด-รพ.สัตว์ทองหล่อ ปั้นแบรนด์ “เรมี่”  ชิงตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง

สพ.ญ.กฤติกา ชัยสุพัฒนากุล ประธานกรรมการบริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ กล่าวว่า ปัจจุบันเทรนด์ Pet Parents ในประเทศไทยเติบโตอย่างรวดเร็วเพราะคนรุ่นใหม่แต่งงานช้า และน้อยลง หรือไม่มีลูกหรือมีลูกน้อย รวมทั้งแต่งงานกับเพศเดียวกัน สัตว์เลี้ยงจึงเป็นทางเลือกในการเติมเต็มครอบครัว และพยายามมองหาโซลูชั่นให้สัตว์เลี้ยงมีสุขภาพที่ดีและอยู่ด้วยกันไปนานๆ จึงพิถีพิถันเรื่องความเป็นอยู่ สุขภาพ อาหารและขนมมากเป็นพิเศษเพื่อรองรับดีมานด์ของ Pet Parents

ในปีนี้มีแผนเปิดโรงพยาบาลเพิ่ม 2 แห่งคือสาขาพระราม 6 และสาขาประชาชื่นภายใต้งบลงทุน 100 ล้านบาท รวมทั้งมีแผนรีโนเวทขยายพื้นที่โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อสาขาทองหล่อโดยใช้งบ 20 ล้านบาท และในปี 2567 จะเปิดโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อในจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มจากปัจจุบันมี 16 สาขาทั่วไทยและ 1 สาขาในประเทศเวียดนาม

ขณะเดียวกันยังขยายความร่วมมือไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆในกลุ่ม Non-food เช่น อุปกรณ์จำเป็นสำหรับสัตว์เลี้ยง เช่น แผ่นรองซับ ทรายแมว เสื้อผ้าต่างๆ ภายใต้ “DR.CHOICE” (ดร.ช้อยส์) ซึ่งเป็นสินค้าภายใต้แบรนด์ (Own brand) ของโรงพยาบาลเอง และในปีนี้ขยายธุรกิจไปยังกลุ่มโภชนาการหรืออาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง ซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตสูง 30-40% ขณะที่เพ็ท แคร์ เติบโต 15% ภายใต้แบรนด์ Remy Pet ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนกับกลุ่มพัทยาฟู้ดในสัดส่วน 50:50% ในระยะแรกจะวางจำหน่ายสินค้าในช่องทางออนไลน์และเพ็ทช้อปของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อทุกสาขา

พัทยาฟู้ด-รพ.สัตว์ทองหล่อ ปั้นแบรนด์ “เรมี่”  ชิงตลาดอาหารสัตว์เลี้ยง

“อาหารและขนมแมวเลียที่จะออกสู่ตลาด จะตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะแมวที่มีความไวต่อกลิ่นและรสชาติ ขณะที่คนเลี้ยงจะกังวลเรื่องสารอาหาร โซเดียม,ไขมันและแคลเซียมสูงทำให้สุขภาพสัตว์ไม่ดี ดังนั้นโปรดักต์ของเราจะเน้นฟังก์ชั่นเติมซัพพลีเมนต์หรือวิตามินที่ดีต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงลงไปในปริมาณที่กินทุกวันแล้วปลอดภัย”

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,871 วันที่ 19 - 22 มีนาคม พ.ศ. 2566