จุดเด่นด้านโภชนาการของ "ส้มตำ-พล่ากุ้ง" Top10 เมนูสลัดดีที่สุดในโลก

24 เม.ย. 2566 | 07:24 น.

เปิดเหตุผลทางโภชนาการ ทำไม “ส้มตำ-พล่ากุ้ง” ถึงติด Top10 เมนูสลัดดีที่สุดในโลก จัดโดย TasteAtlas เว็บไซต์รวบรวมสูตรอาหารและรีวิวจากนักวิจารณ์อาหารทั่วโลก

 

ในการจัดอันดับ 10 Best Rated SALADS in the World (2023) หรือ เมนูสลัดที่ดีที่สุดในโลก ของ TasteAtlas เว็บไซต์รวบรวมสูตรอาหารและรีวิวจากนักวิจารณ์อาหารทั่วโลกในปีนี้ ปรากฏว่า ผลการจัดอันดับ มี 2 เมนูอาหารไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งได้แก่ ส้มตำ เข้ามาเป็นอันดับที่ 6 และ พล่ากุ้ง อันดับ 9

ทั้งนี้ 10 Best Rated SALADS in the World จัดอันดับโดยการใช้ผลคะแนนจากนักรีวิวทั่วโลก ประกาศเมื่อวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา      

เมนูส้มตำเข้าอันดับมาเป็นที่ 6

สำหรับเมนู ส้มตำ ที่ได้รับอันดับ 6 ในการจัดอันดับครั้งนี้ ทางเว็บไซต์ได้ให้คำนิยามว่า:

ส่วนผสมของเมนูส้มตำ ประกอบไปด้วย มะละกอดิบที่ฝานเป็นเส้นบางๆ ถั่วลิสง ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ กุ้งแห้ง รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆ ตามต้องการ ผสมด้วยซอสหรือน้ำปรุงรสที่มีส่วนประกอบของกระเทียม พริก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว หรือน้ำมะขาม โดยเมนูนี้มีรสชาติเผ็ด หวาน และเปรี้ยว

ประโยชน์ที่มาพร้อมกับวัตถุดิบในส้มตำ

  • มะละกอ อุดมไปด้วยวิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส และเหล็ก ช่วยป้องกันและรักษาอาการหวัด โรคเลือดออกตามไรฟัน นอกจากนี้ยังช่วยชะลอความแก่ เพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน ป้องกันกระดูกพรุน และเป็นยาระบายอ่อน ๆ อีกด้วย
  • มะเขือเทศสีดา มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความแก่ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่าง ๆ
  • ถั่วฝักยาว มีแร่ธาตุ แคลเซียม ฟอสฟอรัสและวิตามินต่างๆ ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี มีกากใยอาหารสูง ช่วยลดคอเลสเตอรอล บำรุงตับและม้าม
  • พริกขี้หนู ช่วยแก้อาการจุกเสียด แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ช่วยขับเหงื่อ แก้อาการปวดหลัง ปวดเอว นอกจากนี้พริกขี้หนูยังมีส่วนช่วยในการเผาพลาญ ลดน้ำตาลในเลือดและกระตุ้นการหลั่งสารอินซูลิน
  • กระเทียม ช่วยขับลม ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะ ช่วยแก้อาการหวัด ป้องกันโรคมะเร็ง ระงับกลิ่นปาก ลดคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือด เสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง
  • มะนาว แก้อักเสบ ช่วยย่อยอาหาร อุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างให้หลอดเลือดแข็งแรง ป้องกันหวัด ลดไข้ ช่วยขับปัสสาวะและทำให้ร่างกายสดชื่น
  • น้ำตาลปี๊บ อุดมไปด้วยวิตามิน แคลเซียม ฟอสฟอรัสและธาตุเหล็ก

 

พล่ากุ้ง มาเป็นอันดับที่ 9

ส่วนเมนู พล่ากุ้ง ที่ได้อันดับ 9 ในการจัดอันดับครั้งนี้ ทางเว็บไซต์ได้ให้คำนิยามว่า:

เป็นยำกุ้งสด มีรสชาติเผ็ดเปรี้ยว โดยมีส่วนประกอบ ได้แก่ กุ้ง ตะไคร้ หอมแดง ผักกาด ใบมะกรูด ผักชี และใบสะระแหน่ ราดด้วยซอสที่ทำจาก พริก และน้ำมะนาว

ประโยชน์จากเมนูพล่ากุ้ง

  • กุ้ง มีแร่ธาตุสารอาหารทั้งโปรตีน ฟอสฟอรัส เหล็ก และในเปลือกแข็งของกุ้งก็ยังมีสารแคลเซียมกับโพแทสเซียมมาก ซึ่งสารทั้งสองนี้จะช่วยในการส่งกระแสประสาทจากเซลล์ประสาทสู่เซลล์กล้ามเนื้อและเซลล์อื่นๆ ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง คล่องแคล่ว และมีการตอบสนองเร็ว นอกจากนี้ สารโพแทสเซียมที่มีอยู่ในตัวกุ้ง ก็ยังมีความสัมพันธ์กับความดันโลหิตสูงและต่ำ โดยทำงานร่วมกับแคลเซียมและโซเดียม มีบทบาทสำคัญต่อการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ และทำหน้าที่ในการเผาผลาญสารอาหารคาร์โบไฮเดรต โดยช่วยในเรื่องของการเปลี่ยนกลูโคสให้เป็นไกลโคเจน เพื่อทำการสะสมคาร์โบไฮเดรสไว้ที่เซลล์
  • สะระแหน่ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อโรค จึงช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากเชื้อไวรัสและเชื้อแบคทีเรียได้ นอกจากนี้ ยังมีสรรพคุณในการขับเหงื่อ จึงช่วยให้หายจากไข้หวัดได้เร็วขึ้น
  • ตะไคร้ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • หอมแดง ช่วยป้องกันการแพ้ ป้องการอักเสบ รวมถึงป้องกันเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัส
  • ใบมะกรูด มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
  • มะนาว ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ และซ่อมแซมเซลล์ที่เสียหายจากการติดเชื้อ ยับยั้งการเติบโตของไวรัส
  • พริกขี้หนู ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ลดน้ำมูก และลดเสมหะ

          เมนูนี้สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลายประเภทเช่นเดียวกัน สามารถเพิ่มวัตถุดิบ และส่วนผสมอื่นๆ ได้ตามต้องการ โดยเมนูนี้มีรสชาติจัดจ้าน และหอมเครื่องสมุนไพรไทย

เมนูสลัดที่ได้คะแนนอันดับ1 คือ Dakos มาจากประเทศกรีซ

สำหรับ เมนูสลัดที่ดีที่สุดในโลก 10 อันดับแรก หรือ 10 Best Rated SALADS in the World นั้น ได้แก่

  1. เมนู Dakos จากประเทศกรีซ (Greece)
  2. เมนู Shopska Salad จากประเทศบัลแกเรีย (Bulgaria)
  3.  Mechouia Salad จากประเทศตูนิเซีย (Tunisia)
  4. Moravska salata จากประเทศเซอร์เบีย (Serbia)
  5. Greek Salad จากประเทศกรีซ (Greece)
  6. Som tam จากประเทศไทย (Thailand)
  7. Goma wakame จากประเทศญี่ปุ่น (Japan)
  8. Ovcharska Salad จากประเทศบัลแกเรีย (Bulgaria)
  9. Phla kung จากประเทศไทย (Thailand)
  10.  Fattoush จากประเทศเลบานอน (Lebanon)

ที่มา: TasteAtlas