สาธารณสุข เตือน 8 โรคร้ายหลังน้ำท่วม พร้อม 9 วิธีป้องกันที่ควรรู้

จากสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม จากอิทธิพลของพายุ 'บัวลอย' และ 'แมตโม' ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่ โดยในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งเตือนให้เฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพที่มักเกิดขึ้นในช่วงน้ำท่วม นอกจากนี้ล่าสุด นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ติดตามการดำเนินงานในการให้ความช่วยเหลือประชาชนนั้น

นพ.มณเฑียร คณาสวัสดิ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า กรมควบคุมโรค ได้ติดตามสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของพายุ 'บัวลอย' ที่ส่งผลกระทบในหลายจังหวัดโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และพื้นที่ที่ติดแม่น้ำซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนและสร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินเป็นวงกว้างพร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งให้ความช่วยเหลือ เยียวยาผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

จากรายงานสถานการณ์อุทกภัยของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 2 จังหวัดพิษณุโลก พบว่า มีหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมโดยจังหวัดอุตรดิตถ์ได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ มีผู้บาดเจ็บ 92 ราย เสียชีวิตสะสม 8 ราย และสูญหาย 1 ราย จังหวัดพิษณุโลกได้รับผลกระทบ 3 อำเภอ 17 ตำบล ไม่พบผู้บาดเจ็บ แต่พบผู้เสียชีวิตสะสม 2 ราย จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ 5 ตำบล ไม่พบผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต 

กรมควบคุมโรคขอให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ระวังโรคและภัยสุขภาพที่มักเกิดช่วงน้ำท่วม โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่มโรคสำคัญ ดังนี้ 

1. กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น

• โรคไข้หวัดใหญ่
• โรคปอดบวม 

2. กลุ่มโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ เช่น

• โรคอาหารเป็นพิษ
• โรคอุจจาระร่วง 

3. กลุ่มโรคติดเชื้อ เช่น

• โรคไข้ฉี่หนู
• โรคน้ำกัดเท้า
• โรคตาแดง

4. กลุ่มโรคติดต่อนำโดยแมลง ได้แก่

• โรคไข้เลือดออก 

นอกจากนี้ยังมีภัยสุขภาพที่ต้องระวัง ได้แก่ แมลงหรือสัตว์มีพิษกัดต่อย ไฟฟ้าดูดไฟฟ้าช็อต และการจมน้ำ

วิธีการป้องกันและดูแลตัวเอง: 

1. ไม่ทิ้งขยะหรือของเสียลงแหล่งน้ำท่วมขัง ให้รวบรวมใส่ถุงพลาสติก มัดปากถุงให้แน่น และเก็บในที่แห้ง 

2. อย่าให้เด็กลงเล่นน้ำตามลำพังเพื่อป้องกันการจมน้ำและการติดเชื้อจากน้ำที่มีสิ่งสกปรก 

3. ล้างมือ ล้างเท้า และอาบน้ำชำระร่างกายทันทีหลังลุยน้ำ 

4. รับประทานอาหารที่ปรุงสุก ร้อน สะอาด เพื่อป้องกันโรคอาหารเป็นพิษ และโรคอุจจาระร่วง และหลีกเลี่ยงการกินอาหารค้างคืนโดยไม่มีภาชนะปิดเพราะอาจติดเชื้อโรคจากหนูและสัตว์นำโรคอื่น ๆ 

5. หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่าลุยน้ำ หากจำเป็นควรสวมรองเท้าบูท กรณีมีบาดแผลควรล้างแผลให้สะอาด ปิดแผลด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ 

6. ป้องกันยุงกัด โดยทาโลชั่นกันยุง หรือนอนในมุ้ง 

7. รักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล และสวมหน้ากากอนามัย เมื่อมีอาการไอ จาม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจ 

8. ทำความสะอาดบริเวณบ้านให้โล่งเพื่อป้องกันสัตว์มีพิษ 

9. หากถูกสัตว์มีพิษกัดให้จดจำลักษณะสัตว์ ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด จำกัดบริเวณที่ถูกกัดและรีบไปพบแพทย์ทันที หากมีอาการผิดปกติ

ทั้งนี้ จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้น กรมควบคุมโรคได้จัดส่งเวชภัณฑ์ ยา และอุปกรณ์ป้องกันโรคไปยังจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคที่มากับน้ำ เพื่อให้การดูแลสุขภาพประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวทิ้งท้าย