KEY
POINTS
“เบาหวาน” โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) กลายเป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพของคนวัยทำงานอย่างน่าเป็นห่วง จากสถิติในไทย พบว่า ในทุก 9 คน จะมีผู้เป็นเบาหวาน 1 คน และทุกๆ 5 ปีมีผู้เป็นเบาหวานเพิ่มขึ้น 1 ล้านคน และสิ่งที่น่าวิตกคือ อายุเฉลี่ยของผู้เป็นเบาหวานได้ลดลงจาก 50 ปี เหลือเพียง 40 ปี และเริ่มพบในคนอายุ 30 ปีมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเห็นได้ว่าโรคเบาหวานไม่ใช่โรคไกลตัวของวัยทำงานต่อไป
ศ.เกียรติคุณ นพ.เทพ หิมะทองคำ อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อ และผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลเทพธารินทร์ กล่าวว่า โรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ ซึ่งมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคเบาหวานจึงได้จัดกิจกรรมพิเศษ ขึ้น ภายใต้แนวคิด "Diabetes and the Workplace" (สุขภาพดี มีได้...ในที่ทำงาน) เพื่อสร้างความตระหนักและติดอาวุธความรู้ให้ผู้เป็นเบาหวานวัยทำงานสามารถดูแลตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านพญ.เกษณี ร่มโพธิ์ทอง อายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อ กล่าวว่า การมีสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดีต่อสุขภาพเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะเราใช้เวลาในที่ทำงานมาก การดูแลตนเองอย่างเข้มงวดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เนื่องจากผู้เป็นเบาหวานในวัยทำงานมีอัตราการเกิดโรคแทรกซ้อนที่สูงขึ้น การเข้าใจและจัดการปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทั้งเรื่องอาหาร การออกกำลังกาย การใช้ยาอย่างมีวินัย และการพักผ่อน จึงเป็นกุญแจสำคัญสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ขณะที่ช่วงเสวนา "สุขภาพดี มีได้...ในที่ทำงาน” พบว่า สถานการณ์โรคเบาหวานปัจจุบันที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะเป็นโรคในกลุ่ม NCDs ที่เพิ่มขึ้นเร็ว ในทุก ๆ 5 ปี จะมีผู้ป่วยเพิ่ม 1 ล้านคน หรือ ในทุก 9 คน จะเป็นเบาหวาน 1 คน นอกจากนี้ โรคเบาหวานยังเริ่มคุกคามคนวัยทำงานมากขึ้น อายุเฉลี่ยผู้ที่ป่วยลดลงจาก 50 ปี เป็น 40 ปี และเริ่มพบในวัย 30 ปีมากขึ้น โดยกลุ่มวัยทำงานมักมีภาวะแทรกซ้อนสูงกว่ากลุ่มอื่น ดังนั้นคนวัยทำงานจำเป็นต้องใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
อย่างไรก็ดี การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม การเอาชนะเบาหวานด้วยสูตรดูแลตัวเอง “2ก 1ย 1น” ได้แก่ กิน – ควบคุมอาหาร กาย – ออกกำลังกาย ยา – ใช้ยาอย่างมีวินัย และ นอน – นอนให้เพียงพอ ซึ่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และให้ข้อคิดแก่ผู้เป็นเบาหวานได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ยังพบว่าสำหรับคนวัยทำงาน การเดินหรือวิ่งสะสมระยะทาง ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ให้ประโยชน์มากมาย เช่น ลดน้ำตาลในเลือดได้อย่างต่อเนื่องถึง 24 ชั่วโมง และลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ ปอด และหัวใจ
ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนได้ถึง 30% การจัดกิจกรรมองค์กรอย่าง UMC SO GOOD “เดิน-วิ่งสะสมระยะทาง” ที่กระตุ้นให้พนักงานเดิน-วิ่งสะสมระยะ 17 กม. ภายใน 1 เดือน เพื่อรับรางวัล เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการสร้างแรงจูงใจให้เกิดความแอคทีฟ