สหรัฐเรียกร้อง'ไทย-กัมพูชา' ยุติการสู้รบ ถอนอาวุธหนัก

22 ธ.ค. 2568 | 05:00 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ธ.ค. 2568 | 05:18 น.

สหรัฐฯออกแถลงการณ์กรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา จี้ให้ยุติการสู้รบ ถอนอาวุธหนัก หยุดการวางทุ่นระเบิด ยึดมติตามข้อตกลงสันติภาพ

วันที่ 22 ธันวาคม 2568 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ออกแถลงการณ์กรณีการสู้รบที่ยังดำเนินอยู่ระหว่างกัมพูชาและประเทศไทย

โดยโทมัส “ทอมมี่” พิกอตต์ หัวหน้ารองโฆษกสหรัฐอเมริกายังคงเรียกร้องให้กัมพูชาและไทยยุติการสู้รบ ถอนอาวุธหนัก หยุดการวางกับระเบิด และดำเนินการอย่างเต็มที่ตามข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์ ซึ่งรวมถึงกลไกการเร่งรัดการเก็บกู้กับระเบิดเพื่อมนุษยธรรมและการแก้ไขประเด็นชายแดน เรายินดีที่บรรดาผู้นำอาเซียนมาร่วมกันในสัปดาห์นี้เพื่อสนับสนุนกัมพูชาและไทยปฏิบัติตามพันธกรณีของตนอย่างครบถ้วนในการยุติความขัดแย้งนี้
 

 

อนึ่งในวันนี้ (22ธ.ค.68) จะมีการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเชียนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเชีย โดยดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในฐานะประธานอาเขียน เป็นผู้เสนอให้จัดการประชุม เพื่อเปิดเวทีหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา 

สำหรับการประชุมของอาเซียนในครั้งนี้ จะเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ สามารถใช้ในการกดดันไทยได้หรือไม่ ต่อข้อคำถามนี้ กระทรวงการต่างประเทศของไทยระบุว่า  ไม่สามารถกดดันไทยได้ เนื่องจากไทยมีจุดยืน ท่าที และแนวปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนหลักการสากล ความชอบธรธรรม ข้อมูลและหลักฐาน เชิงประจักษ์ โดยไทยมิได้เป็นผู้ริเริ่มการปะทะในครั้งนี้ และเงื่อนไขของไทยในการยุติความขัดแย้งมีความชัดเจนมาโดยตลอด

ส่วนการประชุมครั้งนี้จะนำไปสู่การหยุดยิงได้หรือไม่ ก็ต้องประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ของกองทัพไทยเป็นสำคัญ และเนื่องจากกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มการปะทะในครั้งนี้ กัมพูชาจำเป็นต้องแสดงความจริงใจในการหยุดยิงอย่างชัดเจนก่อน สำหรับฝ่ายไทยมีความปรารถนาตั้งแต่ต้นให้เกิดสันติภาพที่แท้จริงและยั่งยืน แต่สันติภาพที่ยั่งยืนต้องมาพร้อมกับความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ ในการประชุมครั้งนี้ ไทยจึงต้องการเห็นความจริงใจของฝ่ายกัมพูชาเพื่อหาแนวทางที่จะนำไปสู่การลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน

การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนในวันที่ 22 ธันวาคม 2568 เป็นโอกาสที่ไทยจะได้แสดงจุดยืนและชี้แจงท่าทีบนพื้นฐานของข้อเท็จจริงและหลักฐาน รวมทั้งการประเมินสถานการณ์ในพื้นที่ของหน่วยงานความมั่นคงเป็นสำคัญ ไทยปรารถนาให้เกิดสันติภาพ แต่สันติภาพที่ยั่งยืนต้องมาพร้อมกับความมั่นคงและปลอดภัยของประชาชน
 

ขณะที่สถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ข้อมูลล่าสุดจากกองทัพภาคที่ 2 ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2568

  • พื้นที่ช่องบก : ฝ่ายกัมพูชาใช้อากาศยานไร้คนขับ บินจากทิศใต้ ไปทางทิศเหนือ สลับกัน บินสูงประมาณ 1-1.5 กิโลเมตร คาดว่าเป็นการบินตรวจการวางกำลังของฝ่ายเรา ฝ่ายเราทำการวางกำลังตั้งรับในพื้นที่ ยึดควบคุมภูมิประเทศสำคัญ และเตรียมพร้อมยิงตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามตามเหตุการณ์
  • พื้นที่โดนตรวล – ซำแต - สัตตะโสม – ช่องตาเฒ่า : ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีฝ่ายเราด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ประปรายในพื้นที่ และมีการใช้อากาศยานไร้คนขับในพื้นที่ทั้งแบบตรวจการณ์ และโดรนพลีชีพ FPV ฝ่ายเราวางกำลังตั้งรับเสริมความมั่นคง และใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้ตามเหตุการณ์
  • พื้นที่ผามออีแดง – ห้วยตามาเรีย : ฝ่ายกัมพูชาโจมตีด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่เบาบางในพื้นที่ มีการใช้อากาศยานไร้คนขับทั้งแบบแบบตรวจการณ์ และทิ้งระเบิด ฝ่ายเราใช้เครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ยิงทำลายต่อที่ตามเหตุการณ์
  •  พื้นที่ปราสาทตาควาย และ บริเวณเนิน 350 : ฝ่ายกัมพูชาโจมตีด้วยปืนเล็กยาว เครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ ใส่ฝ่ายเราอย่างประปราย และมีการใช้โดรนพลีชีพ FPV  ฝ่ายเราวางกำลังตั้งรับเสริมความมั่นคง และใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้ตามเหตุการณ์

จากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ปราสาทตาควาย และเนิน 350 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ จ.ส.อ. สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา ซึ่งเป็นกำลังพลจากหน่วย กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 เสียชีวิตขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่ และปัจจุบันร่างของกำลังพลทั้ง 2 นาย ได้ถูกนำออกจากพื้นที่การรบ และหน่วยได้จัดพิธีกองทหารเกียรติยศ ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนา ณ ภูมิลำเนาเป็นที่เรียบร้อย 

ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้วกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา รายงานข้อมูลล่าสุด ประจำวัน 21 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น.

  • พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา: ฝ่ายกัมพูชายังคงเสริมความแข็งแรงของที่มั่น มีการยิงปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดมายังฝ่ายเราอย่างต่อเนื่อง และตรวจพบการนำรถถังเข้ามาประจำการในพื้นที่ 
  • พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง:ฝ่ายกัมพูชายังคงเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และได้ใช้อาวุธยิง RPG, ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดเข้ามายังที่มั่นของฝ่ายเราเป็นระยะๆ 
  • พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชาเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และมีการยิงปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด มายังฝ่ายเราอย่างต่อเนื่อง

โดยกกล.บูรพา ได้ปฏิบัติการทางทหารต่อที่หมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม อ.ตาพระยา อ.โคกสูง อ.อรัญประเทศ และ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว จึงประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน 4 อำเภอชายแดน จ. สระแก้ว งดเข้าพื้นที่พักอาศัยของตนและให้อพยพไปยังศูนย์ฯ ตามที่ทางราชการจัดให้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ทั้งนี้ ขอให้รับฟังข่าวสารและติดตามการแจ้งประกาศจากส่วนราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยเป็นสำคัญ