ทภ.1 - ทภ.2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 21 ธ.ค. ยังรบปะทะหนัก

21 ธ.ค. 2568 | 13:45 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ธ.ค. 2568 | 13:45 น.

กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เย็นวันนี้ (21 ธ.ค.) พื้นที่ จ.สระแก้ว มีการรบปะทะหนัก ยึดครอง 3 พื้นที่ รวมทั้งช่องบก ผามออีแดง – ห้วยตามาเรีย ปราสาทตาควาย และ บริเวณเนิน 350

KEY

POINTS

  • กองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 รายงานสถานการณ์การสู้รบปะทะอย่างหนักตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2568
  • ฝ่ายกัมพูชาระดมยิงด้วยอาวุธหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่ เช่น ปืนใหญ่ เครื่องยิงลูกระเบิด และมีการใช้โดรนหลายรูปแบบในการโจมตี
  • การปะทะส่งผลให้ทหารไทยเสียชีวิต และมีการประกาศให้ประชาชนใน 4 อำเภอชายแดน จ.สระแก้ว อพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 สรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ จ.สระแก้ว ประจำวัน 21 ธันวาคม 2568 เวลา 18.00 น. กองกำลังบูรพา ปฏิบัติภารกิจปกป้องอธิปไตยในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย-กัมพูชา เป็นวันที่ 14 โดยมีการรบปะทะ เพื่อยึดครองพื้นที่ ใน 3 พื้นที่

1.พื้นที่บ้านคลองแผง อ.ตาพระยา : ฝ่ายกัมพูชายังคงเสริมความแข็งแรงของที่มั่น มีการยิงปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดมายังฝ่ายเราอย่างต่อเนื่อง และตรวจพบการนำรถถังเข้ามาประจำการในพื้นที่ 

2.พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชายังคงเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และได้ใช้อาวุธยิง RPG, ปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิดเข้ามายังที่มั่นของฝ่ายเราเป็นระยะๆ 

3. พื้นที่บ้านหนองจาน อ.โคกสูง : ฝ่ายกัมพูชาเสริมความแข็งแรงของที่มั่น และมีการยิงปืนใหญ่และเครื่องยิงลูกระเบิด มายังฝ่ายเราอย่างต่อเนื่อง

โดยในวันนี้ กกล.บูรพา ได้ปฏิบัติการทางทหารต่อที่หมายทางทหารของฝ่ายกัมพูชา ในพื้นที่ฝั่งตรงข้าม อ.ตาพระยา อ.โคกสูง อ.อรัญประเทศ และ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว จึงประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน 4 อำเภอชายแดน จ. สระแก้ว งดเข้าพื้นที่พักอาศัยของตนและให้อพยพไปยังศูนย์ฯ ตามที่ทางราชการจัดให้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย 

ทั้งนี้ ขอให้รับฟังข่าวสารและติดตามการแจ้งประกาศจากส่วนราชการในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยเป็นสำคัญ

ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 21 ธันวาคม 2568

พื้นที่ช่องบก : ฝ่ายกัมพูชาใช้อากาศยานไร้คนขับ บินจากทิศใต้ ไปทางทิศเหนือ สลับกัน บินสูงประมาณ 1-1.5 กิโลเมตร คาดว่าเป็นการบินตรวจการวางกำลังของฝ่ายเรา ฝ่ายเราทำการวางกำลังตั้งรับในพื้นที่ ยึดควบคุมภูมิประเทศสำคัญ และเตรียมพร้อมยิงตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามตามเหตุการณ์

พื้นที่โดนตรวล – ซำแต - สัตตะโสม – ช่องตาเฒ่า : ฝ่ายกัมพูชาทำการโจมตีฝ่ายเราด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ประปรายในพื้นที่ และมีการใช้อากาศยานไร้คนขับในพื้นที่ทั้งแบบตรวจการณ์ และโดรนพลีชีพ FPV ฝ่ายเราวางกำลังตั้งรับเสริมความมั่นคง และใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้ตามเหตุการณ์

พื้นที่ผามออีแดง – ห้วยตามาเรีย : ฝ่ายกัมพูชาโจมตีด้วยเครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่เบาบางในพื้นที่ มีการใช้อากาศยานไร้คนขับทั้งแบบแบบตรวจการณ์ และทิ้งระเบิด ฝ่ายเราใช้เครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ยิงทำลายต่อที่ตามเหตุการณ์

พื้นที่ปราสาทตาควาย และ บริเวณเนิน 350 : ฝ่ายกัมพูชาโจมตีด้วยปืนเล็กยาว เครื่องยิงลูกระเบิด และปืนใหญ่ ใส่ฝ่ายเราอย่างประปราย และมีการใช้โดรนพลีชีพ FPV ฝ่ายเราวางกำลังตั้งรับเสริมความมั่นคง และใช้ปืนใหญ่ยิงตอบโต้ตามเหตุการณ์

จากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ปราสาทตาควาย และเนิน 350 เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ทำให้ จ.ส.อ. สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา ซึ่งเป็นกำลังพลจากหน่วย กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 เสียชีวิตขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่

ปัจจุบันร่างของกำลังพลทั้ง 2 นาย ได้ถูกนำออกจากพื้นที่การรบ และหน่วยได้จัดพิธีกองทหารเกียรติยศ ส่งร่างผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนา ณ ภูมิลำเนาเป็นที่เรียบร้อย 

ในวันนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ให้แก่กำลังพลทั้ง 2 นาย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

กองทัพภาคที่ 2 ขอสดุดีดวงวิญญาณ จ่าสิบเอก สำเริง คลังประโคน และ พลทหาร ภานุพัฒน์ เสาร์สา สองวีรบุรุษ ในเหตุปะทะพื้นที่ปราสาทตาควาย และเนิน 350 รวมถึงทหารกล้าผู้เสียสละชีวิตในเหตุการณ์การปะทะครั้งนี้ อีกทั้ง 19 นาย ผู้เสียสละชีพปกป้องผืนแผ่นดินไทย วีรกรรมของทุกท่าน คือเกียรติยศสูงสุดของทหาร ในการปกป้องอธิปไตยเหนือแผ่นดินไทย ซึ่งจะตราตรึงในความทรงจำ และเป็นเกียรติภูมิแก่กองทัพสืบไป