KEY
POINTS
รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า ขณะนี้ กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้ากลุ่มจังหวัด รับทราบสรุปผลการประชุมคณะอนุกรรมการประจำภาคใต้และภาคใต้ชายแดน ที่มีนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เป็นประธาน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา
โดยที่ประชุมได้พิจารณาแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พ.ศ. 2566-2570 ฉบับทบทวน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 และโครงการและงบประมาณตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2570 ของจังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้และภาคใต้ชายแดน พร้อมทั้งได้มอบแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคใต้และภาคใต้ชายแดน ดังนี้
มีเป้าหมายเพื่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนา 2 ประเด็น ดังนี้
สืบเนื่องจากภาคใต้มีเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาคที่เน้นส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรปลอดภัยและมูลค่าสูง ประกอบกับทุกจังหวัดมีบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (วิสาหกิจเพื่อสังคม) จำกัด ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบูรณาการการทำงานร่วมกับภาคเอกชน โดยเฉพาะบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด
โดยร่วมกันรวบรวมและคัดเลือกผลิตภัณฑ์ OTOP ที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นของแต่ละจังหวัด (Product Champion) เพื่อนำมาต่อยอดสร้างมูลค่า และเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและทำการตลาดเชิงรุก ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ เพื่อสร้างรายได้หมุนเวียนและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจในระดับพื้นที่
สืบเนื่องจากหลายจังหวัดในภาคใต้ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกและมีรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นหลัก ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา จังหวัดกระบี่ และจังหวัดสุราษฎร์ธานี และมีหลายจังหวัดที่มีทุนทางทรัพยากรธรรมชาติและทุนทางวัฒนธรรม
จึงสมควรเร่งผลักดันให้มีศักยภาพทัดเทียมกัน เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาให้เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงความเชื่อ (ท่องเที่ยวสายมู) ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ได้ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนมาเลเซีย ควรเร่งฟื้นฟูเมืองให้กลับมาเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
มีเป้าหมายสูงสุดคือ การลดความรุนแรง ยกระดับรายได้ครัวเรือนให้พ้นจากกับดัก ความยากจน และสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง โดยมีแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนา 5 ประเด็น ดังนี้
โครงการนี้จะเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพให้แก่เยาวชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เชื่อมโยงกับการส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาล โดยใช้จุดแข็งของสังคมพหุวัฒนธรรมที่มีพี่น้องมุสลิมกว่า 80-90% พัฒนาสู่การเป็นฐานการผลิตและส่งออกอาหารฮาลาล เพื่อสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ลดปัญหาแรงงานข้ามถิ่นไหลเข้าสู่กรุงเทพฯ และนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดระยองได้
โดยจะขอความร่วมมือภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกำหนดหลักสูตรเพื่อผลิตบุคลากรให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในนิคมอุตสาหกรรมในอนาคต
ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสอดส่องดูแลและกำกับติดตามการเรียนการสอนของสถาบันปอเนาะ ให้อยู่ในกรอบของระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ และไม่ขัดต่อความมั่นคง เพื่อป้องปรามเงื่อนไขที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง รวมถึงสนับสนุนงบประมาณค่าอาหารกลางวันอาหารสำหรับครูสอนศาสนาในสถาบันปอเนาะและโรงเรียนตาดีกา หากไม่มีช่องทางขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ขอให้เสนอผ่านศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)
ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาประกาศให้วันตรุษอีดี้ลอัฏฮา (วันรายอฮัจยี) และวันตรุษอีดี้ลฟิตรี (วันรายอปอซอ) เป็นวันหยุดราชการประจำปีของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา และสตูล อย่างเคร่งครัด
ขอให้ทุกจังหวัดให้ความสำคัญสูงสุดกับการดูแลนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า ขณะนี้กระทรวงมหาดไทย ได้พิจารณารายละเอียดแล้ว และเพื่อให้แนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาภาคใต้และภาคใต้ชายแดนนำไปสู่การปฏิบัติในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับเป้าหมายและแนวทางการพัฒนาภาค และนโยบายรัฐบาล จึงขอให้จังหวัดและกลุ่มจังหวัดภาคใต้และภาคใต้ชายแดนพิจารณานำแนวทางดังกล่าวไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป