KEY
POINTS
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ 'ฐานเศรษฐกิจ' ว่า ประเมนภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของสิ้นปี 2568 มีแนวโน้มแกว่งตัว Sideway แบบบวกเล็กๆ จาก Window Dressing
ประกอบกับมองว่าแรงเทขายของเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจะชะลอตัวลงแล้ว เนื่องจากอยู่ในช่วงของวันหยุดเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ที่เข้ามากดดันในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของสิ้นปีนี้ ทำให้ตลาดหุ้นไทยจึงยังอยู่ในโซนบวกได้
บรรยากากศลงทุนในตลาดเอเชียยังเป็นบวก แต่คาดการฟื้นตัวของดัชนีภูมิภาคจะจำกัดหรืออาจปรับลดลงเล็กน้อย จากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ลดทอนโอกาสปรับลดดอกเบี้ยของเฟด ทำให้อาจมีข้อกังวลต่อทิศทางเงินทุนไหลเข้าตลาดเอเชียและเกิดใหม่ในระยะสั้น
ในช่วง 4 วันทำการสุดท้ายของปีนี้ เชื่อว่าอาจเห็นแรงเลือกเก็งกำไรจากผลของ Window dressing และแรงซื้อจากการใช้สิทธิ์ลงทุนผ่านกองทุนลดหย่อนภาษี ซึ่งจะเข้ามาช่วยพยุงให้ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในโซนบวกได้เล็กๆ
ในขณะเดียวกันมองว่าในช่วงโค้งสุดท้ายของสิ้นปีนี้ นอกจากการปรับพอร์ตของสถาบันแล้ว เชื่อว่าจะเห็นแรงซื้อจากการใช้สิทธิ์ลงทุนผ่านกองทุนลดหย่อนภาษีเช่นเดียวกัน ดังนั้นแล้วเมื่อดีมานด์ลงทุนหุ้นมีมากกว่าแรงขาย ก็จะทำให้การปรับตัวขึ้นของดัชนีเป็นไปได้ดีกว่าในภาวะปกติ
ส่วนปัจจัยการเมืองของไทยนั้น ในตอนนี้จะเริ่มเห็นการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคออกมาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเปิดเผยแผนนโยบายของแต่ละพรรค ถัดไปก็จะเข้าสู่ช่วงหาเสียงและการเลือกตั้ง ซึ่งก็คาดว่าน่าจะจบได้ภายในช่วงไตรมาส 1/2569
โดยประเมินว่าดัชนี SET Index ในช่วง 4 วันทำการสุดท้ายของปี 2568 จะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,265 จุด และแนวต้านที่ระดับ 1,285-1,290 จุด ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญ สำหรับสัดส่วนการลงทุนแนะนำถือเงินสด 50% และพอร์ตหุ้น 50%
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมกลยุทธ์ อาจย่อตัว แต่ไม่หลุด 1,264 จุด เป็นจังหวะเก็งกำไรหุ้นกลาง-เล็ก ที่ผลการดำเนินงานดี หรือให้ปันผลสูง มีแนวโน้มเป็นเป้าหมายของการเข้าลงทุน รวมไปถึงหุ้นที่ลงมามาก อาจเป็นเป้าหมายการเกิด Window dressing อาทิ บรรจุภัณฑ์ ปิโตรเคมี