ดอกเบี้ยลงแต่ต้นทุนไม่ลด! กูรูชี้หุ้นแบงก์–ประกันแข็งแกร่งกว่าตลาดช่วงสั้น

21 ธ.ค. 2568 | 23:30 น.

โบรกมองใกล้จบวัฏจักรลดดอกเบี้ยโลก ทำให้ต้นทุนการเงินลดลงจำกัด กดดันหุ้นการเงินบางส่วน แนะเก็งกำไรช่วงสั้นหุ้นแบงก์–ประกัน ประเมิน SET Index ฟื้นในกรอบ 1,250 – 1,280 จุด

KEY

POINTS

  • กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% แต่นักวิเคราะห์มองว่าวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงใกล้สิ้นสุด ทำให้ต้นทุนทางการเงินมีโอกาสลดลงได้ยาก
  • หุ้นกลุ่มธนาคารและประกันถูกมองว่ามีโอกาสแข็งแกร่งกว่าตลาดในระยะสั้น 1-2 เดือน เนื่องจากได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยและผลตอบแทนพันธบัตร
  • กลุ่มการเงินได้รับผลกระทบเชิงลบจากสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่ไม่ลดลงตามการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากประเด็นที่ กนง. ลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% นั้น เป็นไปตามที่ทางฝ่ายและตลาดคาด

ขณะที่ปรับคาดการณ์ตัวเลข GDP ปี 2568 - 2570 เป็น 2.2%/1.5%/2.3% (ปรับลด ปี 2569 จากเดิม 1.6%) โดยหุ้นกลุ่มเกี่ยวข้องกับดอกเบี้ย ทั้งธนาคารและการเงินผันผวน ตามที่ทางฝ่ายกังวล โดยกลุ่มการเงินมีแรงขายจากการเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของวัฏจักรการลดดอกเบี้ย และ การปรับลด GDP ปี 2569 ลง

ทั้งนี้ มองวัฏจักรการปรับลดดอกเบี้ย (rate cut cycle) ในภาพรวมของโลกจะทยอยจบลง ซึ่งรวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ และไทย สำหรับสหรัฐฯ สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ปัจจัยบวกที่จะผลักดัน valuation หุ้นเทคโนโลยีให้แพงขึ้นจะเกิดได้ยาก 

และมีโอกาสที่หุ้นสหรัฐฯ จะซื้อขายด้วยระดับ PER ที่ลดลง (de-rating) ซึ่งทำให้เงินอาจหมุนเข้าหุ้นที่แพงน้อยลง หรือเข้ากลุ่มหุ้นในเชิงมูลค่า (value) มากขึ้น รวมถึงบางส่วนอาจออกไปยังตลาดอื่น ซึ่งบวกกับเอเชียและตลาดเกิดใหม่ (EMs)

ส่วนผลของการจบวัฏจักรการลดดอกเบี้ยต่อหุ้นไทยนั้น เบื้องต้นคาดจะเกิดสถานการณ์ต่อไปนี้

  1. โอกาสที่ต้นทุนทางการเงินจะลดลงเกิดได้ยาก (ซึ่งจะเห็นว่าผลตอบแทนพันธบัตรสูงกว่า 2 เดือนก่อนหน้า และลดลงเพียงเล็กน้อยหลังการลดดอกเบี้ย) ซึ่งสถานการณ์ดังจะกระทบเชิงลบต่อกลุ่มการเงินดังที่คาดไว้ว่ากลุ่มดังกล่าวอาจขึ้นน้อย หรือกระทั่งมีแรงทำกำไร
  2. กลุ่มหุ้นได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ย/ผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น อาทิ ธนาคาร และประกัน มีโอกาสแข็งแกร่งกว่าตลาดในช่วง 1 - 2 เดือนนี้ จากความคาดหวังการจบของวัฏจักรดอกเบี้ย อย่างไรก็กี ในช่วงถัดไป มีโอกาสที่หุ้นจะสะท้อนปัจจัยลบจากเศรษฐกิจ รวมถึง GDP ที่น่าจะอยู่ในระดับต่ำในช่วงต้นปี ช่วงสั้น ทางฝ่ายมองบวกต่อ KBANK, SCB, BBL, BLA, TIPH และ TLI

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ยรอบนี้ อาจมีไม่มากเพราะต้นทุนทางการเงินเริ่มไม่ลดลง โดยมองกลุ่มที่น่าสนใจ คือ

  1. บัตรเครดิต KTC จากผลตอบแทนปันผลที่สูง
  2. กลุ่มโรงไฟฟ้า จากการแข็งค่าของเงินบาท บวกต่อภาระหนี้ต่างประเทศ รวมถึงต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลง

ภาพรวมกลยุทธ์ มีโอกาสฟื้นตัวในกรอบ 1,250 - 1,280 จุด ทั้งนี้ ตลาดอาจเริ่มมองไปถึงการสิ้นสุดวัฏจักรการปรับลดดอกเบี้ย (ebd of rate cut cycle) ที่กดดันกลุ่มการเงิน และอาจรวมถึงหุ้นปลอดภัยที่ปันผลไม่สูงพอ ช่วงสั้นท่องเที่ยว / ธนาคาร / ประกัน รวมไปถึงหุ้นกลาง-เล็ก ที่ผลการดำเนินงานดี หรือให้ปันผลสูง มีแนวโน้มเป็นเป้าหมายของการเข้าลงทุน