นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการ บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ TNITY เปิดเผยว่า ประเด็นการปรับลดบุคลากรของเหล่าบริษัทหลักทรัพย์นั้น ไม่ได้เป็นเพียงในประเทศไทย แต่ทั่วโลกก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน เพราะต้องยอมรับว่าด้วยเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ลูกค้ามีพฤติกรรมการลงทุนที่เข้าถึงง่ายและมีความสะดวกสบายมาขึ้น ทำให้หลายบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ต้องลงทุนด้านเทคโนโลยี ทั้ง Robot Robotic และ AI เอามาปรับใช้ทั้งกับกระบวนการหน้าบ้านและหลังบ้าน
โดยเฉพาะการนำเอา AI เข้ามาช่วยในการจับพฤติกรรมการลงทุนของลูกค้า สำรวจความต้องการ และหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับความต้องการ รวมไปถึงการจัดพอร์ตลงทุนให้กับลูกค้า โดยเชื่อว่าภายในระยะเวลา 1-2 ปีข้างหน้านี้ จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรต่างๆ ไปอีกเยอะมากในวงการนี้ เพราะเทคโนโลยีจะเข้ามาบทบาทในการช่วยอำนวยความสะดวกด้านการลงทุนให้กับลูกค้าและบริษัท อีกทั้งข้อดีคือยังช่วยลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการและด้านบุคลากรลงได้อีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ต้องยอมรับว่าด้วยสภาวะตลาดหุ้นไทยที่ยังมีความผันผวนสูง ประเด็นการเมือง การลงทุนภาครัฐยังดูไม่มั่นคง ทำให้ตลาดขาดความเชื่อมั่นในการลงทุน จะเห็นได้ว่าวอลุ่มการเทรดในแต่ละวันดูบางเบามาก ประกอบกับด้วยไตรมาส 2/67 เป็นโลวซีซัน ทำให้บรรยากาศจึงไม่ได้คึกคัก นักลงทุนจึงหันไปกระจายความเสี่ยงในตลาดต่างประเทศกันเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น รายได้ บล. ที่มาจากค่าคอมมิชชั่นก็ลดลงตามไปด้วย จึงทำให้ บล. ต้องมีการปรับตัว ปรับโครงสร้างทางธุรกิจกันใหม่
การปรับลดบุคลากรของ บล. เชื่อว่าไม่ใช่การไล่ออก เพียงแต่ว่าผลตอบแทนสูงๆ ที่เคยได้รับอาจลดลงตามวอลุ่มการเทรดที่หดตัว รวมถึงบุคลากรที่มีประสบการณ์และอยู่มานานทยอยถึงกำหนดเกษียณอายุ ก็อาจไม่ได้หาบุคลากรใหม่เข้ามาทดแทน และเปลี่ยนเอาเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการงานบางส่วนแทน ซึ่งในระยะแรกก็อาจมีต้นทุนการเงินด้านการลงทุนที่สูง แต่ด้วยต้นทุนภายในหลายๆ ด้านที่ลดลง มองว่าก็คุ้มค่าที่จะลงทุน
"ยอมรับว่าในปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ช่วงโลวซีซันของตลาดทุนไทย ทำให้บรรยากาศในการลงทุนอาจไม่ได้มีความคึกคักมากนัก ดังนั้นจะเห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดเบาบางมากในแต่ละวัน ไม่ทรงก็ทรุด มองว่านักลงทุนยังคงมีการลงทุนอยู่ เพียงแต่ว่ากระจายความเสี่ยงไปลงทุนในตลาดต่างประเทศ กองทุน หรือ Wealth ต่างประเทศมากขึ้น ดังนั้น บล. เอาก็ต้องปรับตัวให้ทันกระแสโลก ทั้งเรื่องการดึงเอาเทคโนโลยีมาให้ การเพิ่มผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ ในต่างประเทศมาตอบสนองความต้องการลูกค้า ซึ่งใน 2 ปีข้างหน้าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของ บล. กันอีกเยอะ"
หากถามว่าการที่นักลงทุนเบนเข็มทิศไปลงทุนตลาดต่างประเทศกันเสียมากนั้นสะท้อนถึงว่าตลาดทุนไทยกำลังหมดเสน่ห์แล้วหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าตลาดหุ้นไทยยังไม่หมดเสน่ห์ เพียงแต่การเฟ้นหาหุ้นที่ผลตอบแทนดีต้องทำวิจัยอย่างเข้มข้น การลงทุนยังตลาดต่างประเทศของนักลงทุนนั้นเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง และเป็นการลงทุนในตลาดที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า โดยเฉพาะบัญชีเงินฝากเงินตราต่างประเทศ (Foreign Currency Deposit: FCD) ซึ่งมีออกไปลงทุนกว่า 2-3 แสนล้านบาท สูงกว่าที่เม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (Fund flow) ขายสุทธิหุ้นไทยอีก
ในมุมมองของ บล. ไม่คิดว่านี่จะเป็นปัญหา แต่มองว่าเป็นโอกาสมากกว่า บล. ทุกที่ต้องหาจุดแข็งของตนเอง และทำความเข้าใจลูกค้า รวมถึงออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด ตลอดจนให้ความสำคัญในด้านการบริการมากยิ่งขึ้น โดยการแข่งขันในอุตสาหกรรมจากนี้คงเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ทางการเงินมากกว่าว่าใครจะตอบโจทย์นักลงทุนและให้ผลตอบแทนที่ดีได้มากกว่ากัน ซึ่งหากว่าเป็นไปได้ด้วยดี รายได้ค่าคอมมิชชั่นมันก็จะกลับมามีการเติบโตได้
ในส่วนของบริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด เองก็วางแผนลุยเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างเต็มตัวด้วยการเดินหน้าปรับปรุง Application เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการทำรายการซื้อขายผลิตภัณฑ์ และบริการต่างๆ ของบริษัท และบริษัทอยู่ในการพัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินของต่างประเทศอย่างเต็มรูปแบบ จัดทีม ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน ดูแล และเชื่อมต่อกับ บล.พันธมิตรในต่างประเทศ ซึ่งตอนนี้มีการเข้าไปขยายในประเทศเวียดนามแล้ว และเร็วๆ นี้จะขยายความร่วมมือกับประเทศใหม่เพิ่มอีก 1 ประเทศ เพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งมองว่าเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่จำเป็นและต้องทำ
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
กล่าวว่า บล. เป็นธุรกิจตัวกลางที่ทำหน้าที่พาผู้ซื้อและผู้ขายมาพบกัน ซึ่งในปัจจุบันมีเทคโนโลยีเข้ามาแทนที่แล้ว นักลงทุนสามารถ
เลือกเองและเทรดเองได้แล้ว ทำให้ธุรกิจ บล. หลีกเลี่ยงการปรับตัวไม่ได้ ประกอบกับด้วยการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูง รวมถึง
มูลค่าการซื้อขายต่อวันที่บางเบา ทำให้รายได้จากค่าคอมมิชชั่นซึ่งเคยเป็นรายได้หลักปรับตัวลดลง
ซึ่งในแต่ละ บล. ก็มีทิศทางในการปรับตัวที่แตกต่างกัน ในอดีตทีมมาร์เก็ตติ้งอาจได้รายได้จากค่าคอมมิชชั่น ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 27% ขึ้นไป
และเคยเห็นพีคสุดคือเกือบ 50% ในช่วงที่มีบล. เกิดใหม่ ทำให้มีความต้องการบุคลากร มีการดึงคนไปและแข่งขันในเรื่องของการให้
ผลตอบแทน แต่ด้วยสถาณการณ์ปัจจุบันสภาวะตลาดไม่ได้ดีเช่นเดิม ปริมารการซื้อขายสุทธิต่อวันลดลงอย่างชัดเจน ในขณะที่ บล.
มีต้นทุนที่คงที่อยู่ ทำให้ต้องหันมาปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ก่อน
ส่งผลให้ค่าคอมมิชชั่นที่มาร์เก็ตติ้งเคยได้รับลดลง หรือบล. บางแห่ง ใช้วิธีปรับการจ่ายเป็นเงินเดือน และให้ผลตอบแทนเป็นโบนัส ทดแทนค่าคอมมิชชั่นที่ต้องจ่ายในปริมาณมาก ทำให้บุคลากรบางคนถอนตัวออกไปเอง ทั้งนี้ มองว่าการปรับลดคนอาจเป็นทางเลือก
สุดท้ายแล้วของ บล. และคาดว่าจะได้เห็นแอ็คชั่นของบล. หลายแห่งอย่างชัดเจนปี 67 และคาดว่าจะต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปีข้างหน้า
(2567-2569)
จากนี้เชื่อว่าจะเห็นภาพการหาผลิตภัณฑ์ใหม่ของ บล. ที่มีความหลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของการลงทุนในตลาดต่าง
ประเทศ พวกกองทุน หรือ Wealth ต่างประเทศก็เริ่มเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมากในปัจจุบัน รวมไปถึงการเพิ่มบริการใหม่ๆ ให้
ครบวงจรมากยิ่งขึ้น เพื่อมาตอบสนองความต้องการลงทุนของลูกค้าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สำคัญในการหารายได้ใหม่เข้ามาเสริม และ
เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงให้พอร์ตลงทุนของลูกค้า
โดยที่ผลิตภัณฑ์ที่นำมาเสนอลูกค้าจะเป็นลิตภัณฑ์ที่มีจากใครก็ได้ ให้ผลตอบแทนที่ดี และดูมีความน่าเชื่อถือ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็น
ของ บล. เองก็ได้ ต้องยอมรับว่าตลาดต่างประเทศมีสินค้าที่มีความหลากหลายมากกว่า มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีและมีศักยภาพ ไม่มี
ขีดจำกัด ไม่พึ่งพิงการเติบโตจากตลาดประเทศใดประเทศหนึ่ง ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวนำไปสู่จุดที่ทำให้หุ้นไทยมีความน่าสนใจที่ลดลง
แต่เชื่อว่านักลงทุนไทยยังคงมีหุ้นไทยอยู่ในพอร์ตอย่างน้อยๆ 20-30%
อย่างไรก็ตาม มองว่าท้ายที่สุดแล้วบริษัทหลักทรัพย์ในอนาคตจะเริ่มลดน้อยลง เพราะด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบางบ้างเช่นนี้ ใครที่มีส่วนแบ่งการตลาดที่น้อยก็ต้องเหนื่อยหนักกว่าคนอื่น ต้องหาทางรอดใหม่ๆ ทำให้เชื่อว่าจากนี้มีโอกาสที่จะได้เห็นการควบรวมกิจการบริษัทหลักทรัพย์เกิดขึ้่น ข้อดีคือีการนำเอาบิ๊กดาต้ามาแชร์ร่วมกัน มีต้นทุนในการดำเนินงาน รวมถึงต้นทุนในด้านอื่นๆ ที่ลดลง ด้วยเช่นกัน