คลังสั่ง ก.ล.ต. ทบทวนเลิกใช้ Program Trading หลังหุ้นไทยร่วงหนัก

14 ธ.ค. 2566 | 09:21 น.

รมช.คลัง กำชับ ก.ล.ต. ศึกษาทบทวน Program Trading หลังตลาดหุ้นไทยร่วงหนัก ยันเสถียรภาพประเทศยังดีมาก เงินคงคลังแน่น 5 แสนล้านบาท

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ได้แสดงความคิดเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ก ว่า "เลิก Program Trading… จะดี" นั้น  เรื่องดังกล่าวได้ หารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แล้ว 

นอกจากนี้ ยังได้มอบหมายให้ก.ล.ต.ไปพิจารณา เนื่องจากเป็นอำนาจของ ก.ล.ต.เอง ว่าการใช้ โปรแกรม Program Trading มีผลกระทบหรือไม่อย่างไร ถ้าหากตรวจสอบแล้ว พบว่ามีผลกระทบ และไม่ควรมีการใช้ Program Trading ก็ต้องมีมาตรการหรือประกาศยกเลิกต่อไป

ส่วนจะมีผลกระทบต่อหุ้นที่กระทรวงการคลัง หรือ รัฐบาลเข้าไปถือหรือไม่นั้น นายกฤษฎา กล่าวยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบ เนื่องจากการถือหุ้นของภาครัฐไม่ใช่ทำเพื่อการเก็งกำไร แต่เป็นก็เข้าไปถือหุ้นตามนโยบายเท่านั้น

"กับทาง ก.ล.ต.นั้น ปลัดกระทรวงการคลังได้พูดคุยอยู่ตลอด เนื่องจากเป็นกรรมการของก.ล.ต.อยู่แล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเรื่องใดก็มีการหารือกันต่อเนื่อง ซึ่งท่านนายกฯ ก็มอบหมายให้ปลัดกระทรวงการคลัง ดูแลต่อเนื่อง ทั้ง ก.ล.ต. รวมถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ด้วย"

ขณะที่กรณีตลาดหุ้นอยู่ในภาวะตกต่ำนั้น น่าจะเกิดจากสาเหตุเฉพาะภายในตลาดทุนเอง อย่างไรก็ดี เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศยังดีมาก โดยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ มีเงินคงคลังมีกว่า 5 แสนล้านบาท 

ส่วนอัตราส่วนเงินกองทุน ต่อ สินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio ) อยู่ที่กว่า 19% ซึ่งมากกว่าที่ ธปท.กำหนด รวมถึงดุลการค้าประเทศก็ยังดีอยู่ และเรื่องการจัดดับเครดิตประเทศก็ยังดีอยู่เช่นกัน