ฟิทช์ เรตติ้งส์ชี้ หนี้เสียแบงก์ไทยจ่อเพิ่มเป็น 3.7% ในปี 68
ฟิทช์ เรตติ้งส์ ชี้คุณภาพสินทรัพย์ของแบงก์ไทยยังคง ‘อ่อนแอ’ เตือนหนี้เสียจ่อขยับขึ้นอีกในปีนี้ จาก 3.4% เป็น 3.7% ท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่ยังคงอ่อนแอ ประเมินแรงกดดันส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่ม SME
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ระบุว่า อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (impaired-loan ratio) ของภาคธนาคารไทยมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 3.4% ในปี 2567 เป็น 3.7% ในปี 2568 และจะคงที่ในระดับนี้ในปี 2569 แรงกดดันหลัก ๆ มาจากกลุ่มลูกค้า SME ซึ่งมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพอยู่ที่ 7.9% ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 (สิ้นปี 2567 อยู่ที่ 7.2%)
ฟิทช์ ระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอ โดยคาดการณ์การเติบโตของ GDP อยู่ที่ 2.2% ในปี 2568 และ 1.9% ในปี 2569 (ปี 2567 อยู่ที่ 2.5%)
อย่างไรก็ตาม การว่างงานที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง และอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงจะช่วยสนับสนุนความสามารถในการชำระคืนหนี้ของลูกค้า
นอกจากนี้ ธนาคารต่างๆ ได้ลดการปล่อยสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูงลง และยังคงมีศักยภาพเพียงพอในการตัดจำหน่ายสินเชื่อด้อยคุณภาพออกไป
ทั้งนี้ ย้อนกลับไปเมื่อกันยายนที่ผ่านมา Fitch Ratings ประกาศหั่นแนวโน้มอันดับเครดิต แบงก์ไทย 5 แห่งเป็น ‘ลบ’ (Negative) ตามการปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของรัฐบาลไทย ได้แก่
- ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM)
- ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB)
- ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) (TTB)
- ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) (SCBT)
- ธนาคารยูโอบี (ไทย) จำกัด (มหาชน) (UOBT)
อย่างไรก็ตาม ฟิทช์ยังคงอันดับเครดิตสากลสกุลเงินต่างประเทศระยะยาวธนาคารอื่นๆ ของไทยไว้ โดยพิจารณาจากอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของแต่ละธนาคารยังมีเสถียรภาพได้แก่
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BBL)
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY)
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBank)
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB)
- บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) (SCBX)