สำนักงบฯ จ่อถก “คลัง” รื้องบปี 67 วงเงิน 3.35 ล้านล้าน รับรัฐบาลใหม่

18 พ.ค. 2566 | 04:05 น.

สำนักงบฯ จ่อถก “คลัง” รื้องบประมาณปี 67 วงเงิน 3.35 ล้านล้าน ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลใหม่ ชี้กรอบเพดานหนี้สาธารณะกำหนดไม่เกิน 70%ต่อจีดีพี รัฐมีช่องกู้เงินได้อีก 1.5 ล้านล้านบาท

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง กล่าวว่า สำนักงบประมาณได้เตรียมหารือกับกระทรวงการคลัง เพื่อปรับรายการในร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 หลังจากที่คณะรัฐมนตรีของรัฐบาลประยุทธ์ ได้อนุมัติในหลักการเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อดูว่ามีรายการในงบประมาณใดบ้างที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ให้สอดคล้องกับนโยบายบริหารของรัฐบาลชุดใหม่

ทั้งนี้ หากมีการปรับปรุงงบประมาณรายจ่ายปี 67 จะสามารถทำได้ 2 แนวทาง คือ การปรับใส้ในของร่างพ.ร.บ.งบประมาณ หรือการรื้อทั้งฉบับแล้วทำใหม่  ซึ่งจะต้องมาพิจารณารายได้และรายจ่าย รวมถึงประมาณการเศรษฐกิจใหม่หมด

 

 

 

สำหรับ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ปี 67 ที่รัฐบาลประยุทธ์ได้อนุมัติไปแล้วนั้น กำหนดให้มีงบประมาณรายจ่ายจำนวน 3.35 ล้านล้านบาท แบ่งเป็น

  • งบประมาณที่เป็นรายจ่ายประจำ 2.490 ล้านล้านบาท
  • รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 3.37 หมื่นล้านบาท 
  • รายจ่ายเพื่อการลงทุน 7.17 แสนล้านบาท 
  • รายจ่ายชำระคืนเงินกู้ 1.17 แสนล้านบาท

“งบประมาณปี 67 ยังคงเป็นการจัดทำงบประมาณแบบขาดดุล คือ รายจ่ายสูงกว่ารายรับ โดยรัฐบาลวางแผนกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 5.93 แสนล้านบาท  ขณะที่ประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) อยู่ที่ 19.42 ล้านล้านบาท”

ส่วนวงเงินที่รัฐบาลจะสามารถกู้ได้นั้น จะอยู่ภายใต้เพดานหนี้สาธารณะของรัฐบาล ที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ เป็นผู้กำหนดไว้ว่า ไม่เกิน 70 % ของจีดีพี โดย ณ  สิ้นเดือนมี.ค.นี้ ระดับหนี้สาธารณะของรัฐบาลอยู่ที่ 10.797 ล้านล้านบาท คิดเป็น 61.23 % ของจีดีพี

โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) คาดว่า ภายในสิ้นปีงบประมาณ 2566 หรือสิ้นเดือนก.ย.นี้ ระดับหนี้สาธารณะของรัฐบาลจะขึ้นไปอยู่ที่ 61.73 % ของจีดีพี ทำให้เหลือช่องที่จะกู้อีกราว 8 -9% ของจีดีพี ซึ่งคิดเป็นวงเงินกู้ราว 1.5 ล้านล้านบาท