'ธรรมนัส' ตั้ง 'ณัฏฐกิตติ์' คุมทีมตรวจสต็อกข้าวหลุดจำนำยุ้งฉาง 6.5 หมื่นตัน
อัปเดตข้าวหลุดจำนำยุ้งฉาง ปี 2567/68 ปริมาณ 6.5 หมื่นตัน ล่าสุด 'ธรรมนัส' ตั้ง 'ณัฏฐกิตติ์' อดีตอธิบดีกรมการข้าว คุมทีมตรวจเช็กสต็อกข้าว สัปดาห์หน้า ก่อน ชง นบข. กำหนดแนวทางระบายข้าว
KEY
POINTS
- ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า แต่งตั้งนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ เป็นประธานคณะทำงานตรวจสอบสต็อกข้าวเปลือกปริมาณ 6.5 หมื่นตัน ที่เกษตรกรไม่มาไถ่ถอนจากโครงการจำนำยุ้งฉาง
- ข้าวที่หลุดจำนำดังกล่าวเป็นข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกปทุมธานี ซึ่งคงเหลืออยู่ในสหกรณ์ 10 แห่ง ในพื้นที่ 5 จังหวัด
- คณะทำงานมีภารกิจหลักในการตรวจสอบข้อมูลเกษตรกร ปริมาณ และสถานที่เก็บข้าวเปลือกให้ถูกต้อง ก่อนรายงานผลให้รัฐมนตรีเกษตรฯ ทราบภายใน 15 วัน
นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตอธิบดีกรมการข้าว ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบปริมาณข้าวเปลือกภายใต้โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2567/68 หรือ "จำนำยุ้งฉาง" เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ผลจาการดำเนินงานในโครงการตามมาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวเปลือก ปีการผลิต 2567/68 มีข้าวหลุดจำนำยุ้งฉางเหลือในสหกรณ์ 5 จังหวัด อาทิ อุตรดิตถ์,กาญจนบุรี และนครสวรรค์ เป็นต้น จำนวน 10 สหกรณ์ รวมปริมาณ 6.5 หมื่นตัน
"เนื่องจากช่วงเวลาเริ่มโครงการไม่สอดคล้องกับรอบการผลิต จึงจำเป็นต้องหาแหล่งเงินทุนอื่นในการรวบรวมข้าวเปลือก ซึงมีต้นทุนทางการเงินสูงกว่าโครงการ ราคาข้าวเปลือกลดลงหลังจากเข้าร่วมโครงการ ส่งผลให้สหกรณ์ขาดทุนในธุรกิจรวบรวม และท้ายสุดเกษตรกรไม่มาไถ่ถอนทำให้ข้าวเหลือในสหกรณ์"
อย่างไรก็ดีในสัปดาห์หน้าทางคณะทำงานที่ได้รับการแต่งตั้งจากร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงนามคำสั่งประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568 ประกอบด้วย ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส.,รองอธิบดีกรมการข้าว,ผู้อำนวยการกองเมล็ดพันธุ์ข้าว กรมการข้าว,ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมคุณภาพเมล็ดพันธุ์ข้าว กรมการข้าวและรองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ที่ได้รับมอบหมาย จะทำหน้าที่ดังนี้
1. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลเกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ
2.ตรวจสอบสถานที่เก็บข้าวเปลือก โดยบันทึกพิกัดและถ่ายภาพประกอบการตรวจสอบ
3.ตรวจสอบปริมาณข้าวเปลือกที่เกษตรกรนำเข้าเก็บในยุ้งฉาง โดยบันทึกน้ำหนักจริงของข้าวเปลือกที่อยู่ในยุ้งฉาง เปรียบเทียบกับเอกสารแจ้งของเกษตรกร
4.ตรวจติดตามปริมาณข้าวเปลือกที่รับฝากไว้ในโครงการยังคงอยู่ครบถ้วนในช่วงระยะเวลาชะลอการขาย
5.รายงานผลการตรวจสอบปริมาณข้าวเปลือกที่รับฝากไว้ในโครงการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทราบภายใน 15 วัน ภายหลังรับทราบคำสั่ง
6.มอบหมายเจ้าหน้าท่าเพื่อสนับสนุนการปฎิบัติภารกิจในพื้นที่คณะทำงานตามที่เห็นสมควร
7.ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ได้กันเงินสำรองไว้แล้วประมาณ 1,700 ล้านบาท ตามไทม์ไลน์ หากมีประชุม นบข. ทางธ.ก.ส. จะเสนอแผนแนวทางระบายต่อไป
แหล่งข่าวกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า ข้าวที่เกษตรกรไม่มาไถ่ถอน มี 2 ชนิด ก็คือ ข้าวเปลือกเจ้าและข้าวเปลือกปทุมธานี อยู่ในสหกรณ์ทั้งหมด