เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวอ้อนฟ้า เวชชาชีวะ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) คนใหม่ ได้เดินทางเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มต้นภารกิจด้วยการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนเริ่มปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มตัว
จากนั้น เลขาธิการ สศช. ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหาร เพื่อมอบนโยบายและทิศทางการดำเนินงาน โดยเฉพาะการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 โดยได้เน้นย้ำถึงการสานต่อภารกิจสำคัญของ สศช. และให้ความสำคัญกับข้าราชการรุ่นใหม่ เพื่อให้หน่วยงานสามารถตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ได้กำหนดเป้าหมายสูงสุด คือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติและการวางแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
ก่อนหน้านี้ นายดนุชา พิชยนันท์ อดีตเลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ส่งมอบหน้าที่ให้แก่ นางสาวอ้อนฟ้า ซึ่งจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 โดยมีงานสำคัญที่ต้องเร่งขับเคลื่อนคือ การผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสมาชิกขององค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development : OECD)
รวมทั้งการเตรียมพร้อมจัดทำแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 ภายหลัง สศช. ได้จัดประชุมประจำปี 2568 ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยยกหัวข้อการยกเครื่องโครงสร้างประเทศไทย Thailand’s Institutional Reform
โดยได้รับฟังข้อมูลและข้อเสนอแนะจากผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อนำไปใช้ปรับปรุงการขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ในช่วงเวลาที่เหลือ และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการจัดทำ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2571–2575) ให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ในแนวทางสำคัญของการขับเคลื่อนแผนการพัฒนาฯ ทั้งสองฉบับ สศช. ได้รับทราบปัญหาเชิงโครงสร้างและกลไกเชิงสถาบัน ซึ่งถือเป็นโจทย์ที่ไม่อาจเพิกเฉยได้ โดยตั้งเป้าหมายว่าต่อจากนี้ประเทศไทยต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง เพื่อผลักดันการพัฒนาให้เดินหน้า ภายใต้กรอบ D-A-R-E to Reform นั่นคือ
ปัจจุบัน สศช.ได้เริ่มกระบวนการยกร่างกรอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2571 - 2575) ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นแผนที่ต้องนำประสบการณ์และบทเรียนจากการดำเนินงานในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการรับมือกับวิกฤติต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ในการวางแผนสำหรับอนาคต และเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้เข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผนตั้งแต่ต้นกระบวนการ
ตามกระบวนการยกร่างกรอบแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 จะดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง และคาดว่า (ร่าง) กรอบแผน จะแล้วเสร็จภายในปี 2568 เพื่อนำไปใช้ในการระดมความเห็นและขอฉันทามติจากประชาชนทุกภาคส่วนในช่วงต้นปี 2569 โดยระหว่างนี้ สศช. มีกำหนดเปิดเวทีรับฟังความเห็นในพื้นที่ครอบคลุม 18 กลุ่มจังหวัด
รวมถึงสัมภาษณ์เชิงลึกรายบุคคลกับผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ วิสัยทัศน์ และประสบการณ์ในการจัดทำและขับเคลื่อนแผน เพื่อให้แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 อยู่บนหลักการของการมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง