ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ส่วนลดก๊าซหุงต้มครัวเรือน 100 บาท ปตท.ให้ 3 เดือน
”
ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ส่วนลดก๊าซหุงต้มครัวเรือน 100 บาท ปตท.ให้ 3 เดือน รับนโยบายภาครัฐ เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการ ปตท. มีมติอนุมัติให้ขยายระยะเวลาช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 100 บาท/คน/เดือน ต่อไปอีก 3 เดือน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึง 30 มิถุนายน 2565 สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐ เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และบรรเทาผลกระทบจากการปรับราคา LPG
โดย ปตท. ได้สนับสนุนส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อย กลุ่มร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 เป็นต้นมา เป็นงบประมาณรวมกว่า 15.6 ล้านบาท
จากสถานการณ์พลังงานโลกที่ยังคงผันผวน การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง ปตท. จึงได้ดำเนินการดังกล่าว
สำหรับการข่วยเหลือค่าครองชีพประชาชนนั้น คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบ 10 มาตรการลดค่าครองชีพ เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภาวะราคาน้ำมันแพง และสถานการณ์วิกฤตยูเครนและรัสเซีย ระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ก.ค.2565 ประกอบด้วย
- การเพิ่มเงินช่วยเหลือเพื่อซื้อก๊าซหุงต้มสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 3.6 ล้านคน โดยเพิ่มเงินจากเดิม 45 บาท เป็น 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
- ส่วนลดซื้อก๊าซหุงต้ม เดือนละ 100 บาท สำหรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนประมาณ 5,500 คน
- ช่วยเหลือค่าน้ำมันให้กับผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมการขนส่งทางบก จำนวน 157,000 คน โดยช่วยลดค่าใช้จ่ายน้ำมันแก๊สโซฮอลล์ 250 บาทต่อเดือน และขอให้กรมการขนส่งทางบกกำกับราคาการให้บริการเพื่อให้พี่น้องประชาชนที่ต้องใช้บริการมอเตอร์ไซค์รับจ้างมีค่าใช้จ่ายในการเดินทางเท่าเดิม
- คงราคาขายปลีกผู้ที่ใช้ก๊าซ NGV ไว้ที่ 15.59 บาทต่อกิโลกรัม
- ผู้ขับขี่แท๊กซี่มิเตอร์ภายใต้โครงการลมหายใจเดียวกัน สามารถซื้อก๊าซได้ในราคา 13.62 บาท/กิโลกรัม
- ช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าที่จะเพิ่มขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน โดยลดค่า Ft ลง 22 สตางค์ต่อหน่วยในช่วงเดือนพฤษภาคม - สิงหาคม
- ตรึงราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลที่ 30 บาทต่อลิตร ไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน 2565 หลังจากนั้น รัฐบาลจะเข้าไปช่วยเหลือส่วนที่ราคาน้ำมันดีเซลปรับเพิ่มขึ้นครึ่งนึง
- กำกับดูแลการปรับราคาก๊าซหุงต้มในช่วงตั้งแต่เดือนเมษายน - มิถุนายน โดยใช้กองทุนน้ำมันเข้าไปช่วยลดผลกระทบจากการปรับราคาให้ไม่ขึ้นสูงเกินไป
- ลดอัตราเงินสบทบของนายจ้างและลูกจ้างที่อยู่ในระบบประกันสังคมมาตรา 33 จาก 5% เหลือ 1% เพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้างสามารถมีกำลังในการใช้จ่ายและผู้ประกอบการสามารถมีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นในการดำเนินธุรกิจในช่วงถัดไป
- ลดอัตราเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 39 จาก 432 บาท/เดือน เหลือ 91 บาท และลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนมาตรา 40 ลงเหลือ 42-180 บาทต่อเดือน