น้ำมันค้างท่อ1.2หมื่นลิตรSPRCโร่แจ้งความสวมรอยทิ้งสารเคมีอ่าวแม่รำพึง

20 ก.พ. 2565 | 10:46 น.

    SPRCแจ้งน้ำมันค้างท่อมีอีก 12,000 ลิตร แจ้งแผนขั้่นตอนลงพันท่ออุดรูรั่วท่อน้ำมันในทะเลใหม่แล้ว กรมเจ้าท่านัดถก 8 หน่วยงานชุดใหญ่ 21 ก.พ.นี้ ก่อนตัดสินใจอนุมัติแผนหรือไม่ ย้ำต้องปลอดภัยและลดความเสี่ยง ขณะที่ SPRC โร่แจ้งความ มือดีสวมรอยทิ้งสารเคมีหาดแม่รำพึง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 20 ก.พ.2565 เจ้าท่าระยองยังคงนำเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวน สำรวจทะเลใกล้จุดที่ท่อน้ำมันดิบบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC รั่วในทะเล  ซึ่งเป็นภารกิจต่อเนื่องมาตั้งแต่เกิดเหตุน้ำมันรั่ว 25 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา  โดยผลัดเวรทำงานกันตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อติดตามดูว่ายังมีคราบน้ำมันลอยอยู่หรือไม่   

 

โดยจุดเกิดเหตุ ขณะนี้ เป็นสถานการณ์หลักที่สังคมกำลังจับตา ถึงการแก้ปัญหาของบริษัทในการเข้าไปอุดรอยรั่ว  ซึ่งขณะนี้มีรั่ว 2 จุด  โดยยังมี 1 จุดที่ยังอุดรอยรั่วไม่ได้

น้ำมันค้างท่อ1.2หมื่นลิตรSPRCโร่แจ้งความสวมรอยทิ้งสารเคมีอ่าวแม่รำพึง

น้ำมันค้างท่อ1.2หมื่นลิตรSPRCโร่แจ้งความสวมรอยทิ้งสารเคมีอ่าวแม่รำพึง ซึ่งความคืบหน้าการเข้าอุดรอยรั่วของท่ออ่อนในทะเล  ล่าสุด เมื่อ 19 ก.พ.2565 มีการประชุมร่วมโดยนายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นประธาน  และผู้แทนอีกหลายหน่วยร่วมด้วย  ได้แก่ กรมควบคุมมลพิษ  กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมธุรกิจพลังงาน อุตสาหกรรมจังหวัดระยอง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย สภาวิศวกร  สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรมาบตาพุด 

 

นายภูริพัฒน์  เปิดเผยว่า แม้ SPRC ได้ส่งแผนงานที่จะดำเนินการมาให้ แต่แผนที่เสนอยังละเอียดไม่มากพอต่อการตัดสินใจของที่ประชุม  ซึ่งที่ประชุมได้ขอให้บริษัทส่งรายละเอียดเพิ่มเติมก่อนเวลา 12:00 น. วันนี้(20ก.พ.2565)

น้ำมันค้างท่อ1.2หมื่นลิตรSPRCโร่แจ้งความสวมรอยทิ้งสารเคมีอ่าวแม่รำพึง

น้ำมันค้างท่อ1.2หมื่นลิตรSPRCโร่แจ้งความสวมรอยทิ้งสารเคมีอ่าวแม่รำพึง

ซึ่งล่าสุดบริษัทได้ส่งรายละเอียดมาให้แล้ว และนัดประชุมพิจารณาอีกครั้งในวันพรุ่งนี้(21ก.พ.) และเป็นเรื่องด่วนที่บริษัทจะต้องเร่งดำเนินการ  เพราะขณะนี้ยังมีน้ำมันค้างท่อตามที่บริษัทรายงาน ว่ามีอยู่อีกประมาณ 12,000 ลิตร  

 

ขณะที่ SPRC ได้ชี้แจงวิธีการพันท่อ และขั้นตอนการนำน้ำมันออกจาท่ออ่อนให้ได้มากที่สุด เพื่อจะห่อหุ้มบริเวณที่รั่วไหลทั้ง 2 จุด ด้วยวิธีการพันเทปกาวชนิดพิเศษจำนวน 3 ชั้น   และเมื่อพันท่อเสร็จจึงเข้าสู่กระบวนการนำน้ำมันออกจากระบบ และถอดท่อที่เสียหายเพื่อส่งให้ตำรวจตรวจสอบต่อไป 

 

แต่เดิม SPRC ได้กำหนดระยะเวลาดำเนินการไว้  7 วัน คือ 19 - 22 กุมภาพันธ์ แต่จะใช้เวลา 3 วัน เฉพาะการพันท่อ ตั้งแต่วันที่ 23 – 25 ก.พ.นี้  โดยแจ้งด้วยว่า ระหว่างปฏิบัติงานได้เตรียมอุปกรณ์ป้องกัน กรณีเกิดเหตุน้ำมันรั่วไหล   

น้ำมันค้างท่อ1.2หมื่นลิตรSPRCโร่แจ้งความสวมรอยทิ้งสารเคมีอ่าวแม่รำพึง

ขณะเดียวกัน เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 20 ก.พ. 2565 เจ้าหน้าที่บริษัท SPRC ได้นำหลักฐานทรายปนเปื้อนสารเคมีที่อยู่ในถุงบิ๊กแบ็ก ซึ่งมีผู้ไปพบเห็น หลังมีการลักลอบนำไปทิ้งบนชายหาดแม่รำพึง บริเวณหน้าโรงแรม เดอะ รอยัล ระยอง ต.เพ อ.เมืองระยอง เมื่อเวลา 22.00 น.เมื่อคืนวานที่ผ่านมา(19 ก.พ.2565) จึงนำเก็บไว้ที่บริเวณคลองหัวรถ หาดแม่รำพึง โดยเขียนป้ายกำกับไว้ห้ามเคลื่อนย้ายพยานหลักฐาน

 

เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบลักษณะของสารเคมีที่พบนำมาทิ้งบริเวณดังกล่าว มีลักษณะเป็นคราบปนกับทรายบนชายหาด และมีกลิ่นเหม็นฉุนรุนแรง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่บริษัท SPRC ได้เตรียมไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เพ เพื่อหาตัวผู้นำมาทิ้ง ซึ่งยังไม่ทราบว่ามีจุดประสงค์อะไร หรืออาจจะเป็นการสร้างสถานการณ์ผสมโรงเหตุน้ำมันรั่วหรือไม่ รวมทั้งนำไปตรวจพิสูจน์ว่าเป็นสารเคมีชนิดใด

น้ำมันค้างท่อ1.2หมื่นลิตรSPRCโร่แจ้งความสวมรอยทิ้งสารเคมีอ่าวแม่รำพึง

ล่าสุด นายเสรี เรือนหล้า ประมงจังหวัดระยอง รุดเข้าตรวจสอบพร้อมระบุว่า ต้องสืบหาแหล่งที่มาของสารเคมี ตรวจสอบว่าเป็นสารเคมีชนิดไหน ของใคร นำเข้ามาจากที่ใด ในส่วนของประมง ถ้าทราบว่ามีผู้ใดทำให้ สัตว์น้ำหรือแหล่งน้ำสาธารณะมีมลพิษ ก็จะมีโทษจำคุกและปรับ 3-5 แสนบาท 

กรณีนี้ หากบริษัทได้แจ้งความร้องทุกข์ และสามารถเชื่อมโยงคดีจนหาผู้กระทำความผิดได้ ก็จะเข้าข่ายความผิดกฏหมายประมง และสิ่งแวดล้อมของกรมควบคุมมลพิษ