อนุทิน ประกาศดันทุกส่วนของ กัญชา ไม่ใช่ ยาเสพติด

11 ธ.ค. 2564 | 12:25 น.

อนุทิน ประกาศปี 2565 เตรียมเร่งผลักดันทุกส่วนของพืชกัญชา ดอก ช่อดอก เมล็ด ไม่เป็นยาเสพติด ระบุ ประมวลกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับ 9 ธ.ค. 64 ไม่มีกัญชาเป็นพืชผิดกฎหมาย พร้อมส่งเสริมเป็นพืชทางเลือกสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ฟื้นฟูเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ซึ่งเป็นประธานในงาน Kick off กัญชาริมฝั่งโขง ที่ถนนสวรรค์ชายโขง หมู่บ้าน 8 ชนเผ่า อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม โครงการต้นแบบการเชื่อมโยงระหว่างกัญชาทางการแพทย์ ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุข กับการส่งเสริมการท่องเที่ยวท้องถิ่น ซึ่งเป็นอีกโมเดลเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ตั้งแต่เกษตรกรผู้ปลูกพืชกัญชา ผู้ผลิตแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง ตลอดจนภาคการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายขอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ที่กำหนดให้ทุกกระทรวงเร่งหาแนวทางที่จะกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากผลกระทบของโควิด-19 ให้เร็วที่สุดนั้น

นายอนุทิน กล่าวระหว่างการเป็นประธานเปิดงานว่า ก.สาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมพืชสมุนไพรทั้ง กัญชา กัญชง กระท่อม โดยให้กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก คิดค้นนโยบายเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ที่สามารถสร้างงานอาชีพให้ประชาชนทั้งในฐานะผู้ปลูก ผู้ผลิตสินค้า

สร้างโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงผลิตภัณฑ์ การแทพย์ทางเลือกในการรักษาโรค ผลจากนโยบายและการผลักดันที่จริงจัง ทำให้ขณะนี้ในโรงพยาบาลหลัก ๆ ทั่วประเทศก็มีคลีนิคกัญชาที่ให้ประชาชนได้รับบริการอย่างทั่วถึง สารสกัดจากพืชกัญชาสามารถรักษา บรรเทาการเจ็บป่วยจากโรคต่างๆ ได้

และขณะนี้หน่วยงานภายใต้กระทรวงสาธารณสุขได้เร่งวิจัยพัฒนาเพื่อคิดค้นผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรทั้งกัญชา กัญชง เพื่อนำไปสู่การส่งเสริมสุขภาพที่ดีของประชาชนโดยไม่ผิดกฎหมายอีกต่อไป จากเดิมต้องแอบใช้ แต่ต่อไปหากประชาชนใช้อย่างถูกวิธี เพื่อดูแลสุขภาพภายใต้กฎระเบียบที่สาธารณสุขขกำหนดก็สามารถใช้กัญชาได้ถูกกฎหมาย

รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ที่ผ่านมาหน่วยงานในกระทรวงสาธารณสุขไม่ว่าจะเป็นกรมการแพทย์แผนไทยฯ องค์การอาหารและยา(อย.) สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ผลักดันพืชสมุนไพรกัญชา กัญชง มาได้ระดับหนึ่งโดยปลดล็อกออกจากยาเสพติดควบคุมประเภทที่5 โดยต้น กิ่งก้าน ใบ ราก ของกัญชาไม่เป็นยาเสพติดอีกต่อไป และ ประมวลกฎหมายยาเสพติดมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 9 ธ.ค. 64 ที่ผ่านมา ในกฎหมายฉบับใหม่นี้ ไม่มีกัญชาและกัญชงเป็นพืชที่ผิดกฎหมายแล้ว

ทั้งนี้ สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้กระทรวงสาธารณสุขจะประกาศรายชื่อบัญชียาเสพติดฉบับใหม่ทั้ง 5 ประเภท โดยจะไม่มีกัญชาอยู่ในนั้น กำหนดให้สารสกัดกัญชาที่มีทีเอสซีเกินกว่า 02% เท่านั้นจึงจะเป็นยาเสพติด แต่หากเป็นผลิตภัณฑ์น้ำมัน สารสกัด ผลิตภัณฑ์สบู่ เครื่องสำอาง อาหารเสริมที่มีค่าทีเอสซีต่ำกว่า 0.2% สามารถใช้ได้ทั้งหมด และนี่ไม่ใช่มาตรฐานที่สาธารณสุขหรือประเทศไทยกำหนดขึ้นมาเอง แต่องค์การอนามัยโลกก็กำหนดด้วย

ที่เราผลักดันได้ไปก่อนหน้านี้เราบอกว่าเฉพาะต้น ราก ใบ กิ่ง ก้าน เท่านั้นไม่ใช่ยาเสพติด จากนี้ไป ตั้งแต่ปี 2565 เราจะผลักดันให้ทั้ง ต้น ราก กิ่ง ก้าน ใบ ดอก ช่อดอก เมล็ด จะต้องไม่อยู่ในบัญชียาเสพติดอีกต่อไปด้วย

นี่คือสิ่งที่น่ายินดีที่เราต่อสู้ให้มันสำเร็จ โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจที่ถูกกระทบจากโควิด-19 แบบนี้ เมื่อสถานการณ์เริ่มดีขึ้น ประชาชนต้องเร่งทำมาหากิน ถ้าเราไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆเป็นทางเลือก คนก็จะแย่งกันทำอะไรที่เหมือนๆกัน แต่ถ้าเรามีทางเลือกให้ เขาจะพัฒนาต่อยอดขึ้นมาเองเกิดผลิตภัณฑ์ใหม่ โมเดลธุรกิจใหม่ เป็นทางเลือกที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ นายอนุทิน กล่าวและว่า

กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการแก้ไขกระบวนการทางกฎหมายเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการใช้ประโยชน์กัญชาให้มากที่สุด โดยได้ให้นโยบาย อย. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักดูแลการอนุญาตปลูกรวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์กัญชาให้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่มาขออนุญาตอย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ฝากให้ทาง อสม. ไปแจ้งให้พี่น้องประชาชนในชุมชนได้ทราบว่าปัจจุบันโรงพยาบาลเกือบทุกแห่งมีคลินิกกัญชา เป็นการแพทย์แผนไทยทางเลือกในการดูแลประชาชน และหลังจากนี้ยาที่ผลิตออกมาจากสารสกัดกัญชาจะนำมาใช้อย่างถูกต้อง อยู่ในบัญชียาหลักให้ประชาชนเข้าได้ผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดูแลด้วย