“จุรินทร์” ลั่นนำศก.ฝ่าโควิดไปให้ได้ จับมืออาเซียนสร้างสมดุลจีน-อเมริกา

20 พ.ย. 2564 | 12:13 น.

“จุรินทร์” โชว์วิสัยทัศน์ เชื่อมไทย-เชื่อมโลก ลั่นกลางวงหอการค้าทั่วประเทศ ต้องนำเศรษฐกิจฝ่าวิกฤติโควิดไปให้ได้ แนะไทยจับมืออาเซียนสร้างสมดุลจีน-อเมริกา รับมือสงครามการค้ายืดเยื้อ

 

นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “Connect ธุรกิจไทย พาณิชย์ยุคใหม่ เชื่อมไทยเชื่อมโลก” ในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 39 ที่ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

 

ทั้งนี้นอกจากนายจุรินทร์ได้กล่าวถึงเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญและขับเคลื่อนต่อจากนี้ใน 4 เรื่อง ประกอบด้วยเรื่องที่ 1. ประกันรายได้ ข้าว มัน ยาง ปาล์มและข้าวโพด เรื่องที่ 2. การเร่งรัดการส่งออก เรื่องที่ 3.  การค้าชายแดน และเรื่องที่ 4.การควบคุมราคาสินค้าแล้ว ยังต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลกโดยใกล้ชิดยิ่งขึ้นโดยเชื่อว่าสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนยังคงยืดเยื้อต่อไป เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาแม้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กับนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะเจรจาเรื่องราคาน้ำมัน แต่เราต้องติดตามต่อไปเพราะสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อโลกและต่อไทย

 

“จุรินทร์” ลั่นนำศก.ฝ่าโควิดไปให้ได้ จับมืออาเซียนสร้างสมดุลจีน-อเมริกา

 

“ต้องติดตามเรื่องนี้โดยใกล้ชิดต่อไป เป็นปรากฏการณ์หนึ่งที่เกิดจากการนำการเมืองระหว่างประเทศเข้ามาเกี่ยวพันกับเศรษฐกิจการค้า ทำให้เกิดการแบ่งฝ่าย สุดท้ายนำไปสู่การหาพวกทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ การค้า ประเทศไทยต้องกำหนดท่าทีให้ดี ว่าจะยืนอยู่อย่างไรอย่างสมดุลระหว่างมหาอำนาจทางการเมือง และเศรษฐกิจการค้าโลกอย่างไร และที่เห็นตรงกัน คือ ต้องไม่ยืนอย่างโดดเดี่ยวต้องจับมือใกล้ชิดกับพันธมิตรของเรา อย่างน้อยที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน และต้องกำหนดท่าทีที่มีความชัดเจนร่วมกัน”

 

ในวันที่ 22 พ.ย.นี้ จะมีการประชุมอาเซียน-จีน ครบรอบความสัมพันธ์ 30 ปี  ซึ่งการประชุมนี้จะสะท้อนอะไรหลายอย่าง  ซึ่งมีสัญญาณบวกทางอาเซียนดูเหมือนจะได้ข้อสรุปร่วมกันว่าจะพยายามผลักดันให้จีนเข้าไปมีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์สร้างสรรค์ มุ่งเน้นความส่งเสริมการยับยั้งชั่งใจและการแก้ไขปัญหาข้อพิพาททะเลจีนใต้โดยสันติ และฝั่งจีนคาดว่าจะส่งเสริมกับการพัฒนาเศรษฐกิจในภูมิภาคโดยการใช้ FTA และอันที่สองคือคาดว่าจีนจะฟื้นฟูการเดินทาง กับกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นลำดับแรก โอกาสได้นักท่องเที่ยวจากจีนมาอาเซียน และสุดท้ายคาดว่าจีนจะนำเทคโนโลยีนวัตกรรมมาช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันกับกลุ่มประเทศอาเซียนต่อไป

 

ประเด็นสุดท้าย เร่งติดตามกติกา RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership) หรือ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค คาดว่าต้นปีหน้าจะบังคับใช้ เพราะให้สัตยาบันครบตามเงื่อนไขแล้ว และการประชุม WTO ที่จะมาถึงในช่วงต้นเดือนธันวาคม โดยประเด็นอี-คอมเมิร์ซเป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ตนเคยเสนอเรื่องอี-คอมเมิร์ซในการประชุม APEC ไปแล้วครั้งหนึ่ง ว่าข้อตกลงกติกาเรื่องอีคอมเมิร์ซจะต้องเน้น 1)เรื่องความโปร่งใส 2)ต้องเป็นธรรมทั้งประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา และ3)ต้องคุ้มครองผู้บริโภคไม่ให้ผู้บริโภคเป็นเหยื่อของอี-คอมเมิร์ซ 

 

“จุรินทร์” ลั่นนำศก.ฝ่าโควิดไปให้ได้ จับมืออาเซียนสร้างสมดุลจีน-อเมริกา

 

นอกจากนี้จากเข้าสู่ปีที่ 3 ของ กรอ.พาณิชย์(คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนด้านการพาณิชย์) ยังต้องเดินหน้าต่อไปด้วยความเข้มข้น โดย 2 ปีที่ผ่านมาสามารถแก้ไขปัญหาในรูปการลงมือปฏิบัติจริง มุ่งผลสำเร็จจริง โดยเอกชนทุกภาคส่วนนำปัญหาที่เอกชนแก้ด้วยตนเองไม่ได้ ต้องอาศัยกระทรวงพาณิชย์และภาครัฐ มาช่วยดูแล ซึ่งตนเป็นหัวโต๊ะในที่ประชุมแก้ทีละข้อ ถ้าไม่จบขึ้นทะเบียนการบ้านไว้ ทำให้ 2 ปีที่ผ่านมาแก้ไขปัญหาได้จำนวนมาก ตอนนี้คิดว่าเรามาถึงจุดที่โควิด-19 เริ่มคลี่คลายแต่ยังนอนใจไม่ได้ สิ่งที่ต้องจับมือกันคิดร่วมกันต้องจับมือใกล้ชิดทั้งภาครัฐเอกชน

 

"เราต้องนำเศรษฐกิจฝ่าวิกฤติโควิดไปให้ได้ ไม่ใช่รอให้โควิดเป็นศูนย์แล้วเริ่มนับหนึ่ง เชื่อว่าพวกเราทำได้เพราะ ประเทศไทยช่วงที่ผ่านมาไม่ฝากชะตาไว้กับเศรษฐกิจเชิงเดี่ยว การท่องเที่ยวอย่างเดียวหรือการเกษตร ภาคอุตสาหกรรม หรือการส่งออกเท่านั้น เมื่อไม่มีการท่องเที่ยวจากต่างประเทศแต่เศรษฐกิจก็ขับเคลื่อนได้เพราะยังมีการเกษตร อุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรม และการส่งออกเป็นฐาน สิ่งเหล่านี้ทำให้ตนมั่นใจว่าเราทำได้และสามารถทำต่อไปได้ แต่มีบางพื้นที่ที่ฝากเศรษฐกิจกับบางสาขามาก จนขาดความสมดุล เช่น ท่องเที่ยวอย่างเดียวพอไม่มีการท่องเที่ยว เช่น พัทยา ภูเก็ต ต้องกลับมาคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผสมผสานต่อไป" นายจุรินทร์ กล่าว

 

“จุรินทร์” ลั่นนำศก.ฝ่าโควิดไปให้ได้ จับมืออาเซียนสร้างสมดุลจีน-อเมริกา

 

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า เรื่อง การท่องเที่ยว ไทยได้เริ่มเปิดประเทศแล้วและเป็นสัญญาณที่ดี ได้รับเสียงตอบรับอย่างชัดเจนจากภาคเอกชน คาดจากนี้และปีหน้า ได้เตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 1 ล้านคน มีความเป็นไปได้ ต้องตั้งเป้าหมายไว้ชัดเจนเพิ่มเติมขึ้นแต่ต้องไม่ทิ้งไทยเที่ยวไทยเพราะจะเป็นกลไกสำคัญในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ต้องเดินหน้าไปสู่การท่องเที่ยวชุมชน ทำให้เกิดการกระจายรายได้ ลงลึกถึงเศรษฐกิจฐานราก