"พิพัฒน์"ปิ๊งเปลี่ยน"ฝนแปด"เที่ยว"กรีนซีซัน"ระนองรับคนตะวันออกกลาง

14 พ.ย. 2564 | 10:25 น.

    รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ พร้อมเสนอศบค. ขยายพื้นที่บลูโซนระนองทั้งจังหวัด 1 ธ.ค.นี้ ปิ๊งไอเดียเปิดด่านขยายการค้า-การเดินทางข้ามแดนกับเมียนมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาอย่างรวดเร็ว เสนอเปลี่ยนเมืองฝนแปดระนองเป็นที่เที่ยวหน้าฝน"กรีนซีซัน"รับคนตะวันออกกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวขณะตรวจราชการพื้นที่จังหวัดระนอง ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา องค์การบริการส่วนจังหวัดระนอง ว่า นโยบายรัฐบาลได้เปิดพื้นที่เกาะพยาม จังหวัดระนอง เป็นการเปิดพื้นที่นำร่อง 1 ใน 17 จังหวัด ระยะที่ 1 มาตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาโดยไม่ต้องกักตัว นับเป็นก้าวแรกของจังหวัดระนอง ส่วนก้าวต่อไปคือพื้นที่เกาะช้าง ซึ่งก็อยู่ในพื้นที่ตำบลเกาะพยามเช่นกัน 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีท่องเที่ยวฯ ผลัดกันเปิดจังหวัดระนองรับค้าชายแดน-ท่องเที่ยว ขณะลงพื้นที่ระนอง

"แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ระนองเป็นจังหวัดชายแดน มีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเมียนมา มีการค้าชายแดนปีละหลาหมื่นล้านบาท ทำอย่างไรจะเปิดพื้นที่ระนองทั้งจังหวัด ทำอย่างไรให้มีการเปิดด่านชายแดน โดยเดินทางทางเรือจากประเทศเมียนมาเข้าสู่ประเทศไทยผ่านจังหวัดระนองให้ได้ เปิดให้พี่น้องคนไทยและเมียนมาได้เดินทางไปมาหาสู่กันได้"

ขณะนี้จังหวัดระนองได้รับวัคซีนไปแล้วกว่า 70%  จึงจะขอหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด สมาชิกสภาผุ้แทนราษฎรจังหวัดระนอง สาธารณสุขจังหวัดระนองอีกครั้งหนึ่งว่า เป็นไปได้ไหมว่าเราจะเปิดทั้งจังหวัด ในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ซึ่งต้องบูรณาการกันทั้งกระทรวงท่องเที่ยว สาธารณสุข คมนาคม รวมถึงมหาดไทย และหน่วยงานความมั่นคง 

"พิพัฒน์"ปิ๊งเปลี่ยน"ฝนแปด"เที่ยว"กรีนซีซัน"ระนองรับคนตะวันออกกลาง

นายพิพัฒน์กล่าวอีกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นนโยบายการเปิดประเทศของพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเราคำนึงถึงสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดไว้ เรื่องการป้องกันตนเองตามหลัก D-M-H-T-T ในการจะรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามา 

ตัวอย่างของภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งในภูเก็ตมีการติดเชื้อโควิด-19 ระดับวันหนึ่งตั้งแต่หลักสิบ ขึ้นไปเป็นหลักร้อย สองร้อย สามร้อย แต่ขณะนี้ลดลงมาเหลือหลักสิบแล้ว เมื่อเราฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว คิดว่าโควิด-19 ในอนาคตคงเป็นไข้ในท้องถิ่น หรือไข้หวัดใหญ่

จากการเก็บสถิตินักท่องเที่ยวที่เข้ามาในจังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่า คนไทยติดเชื้อเฉพาะในกลุ่มของคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ได้มีส่วนสัมพันธ์ด้วย ในการนำเชื้อมาติดคนไทย หรือติดข้ามไปข้ามมาระหว่างคนไทยกับนักท่องเที่ยว และสุดท้ายเมื่อนักท่องเที่ยวกลับสู่ประเทศของเขา ก็ไม่ได้นำเชื้อโควิด-19 กลับประเทศต้นทาง 

สิ่งเหล่านี้ก็เป็นการตอบโจทย์อย่างหนึ่งว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องเปิดพื้นที่ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวให้ได้มากขึ้น โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพื้นที่ติดชายแดน ซึ่งการจะเปิดหรือไม่นั้นตนทำไม่ได้ ต้องเป็นท่านนายกรัฐมนตรีมีดำริ และต้องมีการประชุมของ ศบค.และผ่าน ครม.เพื่อเปิดพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น 

แต่ถ้าหากเราเปิดได้เร็วขึ้น เศรษฐกิจของจังหวัดระนองจะกระเตื้องขึ้นด้วยความรวดเร็ว และมั่นใจว่าระนองมีความพร้อมแล้วที่จะเปิดประเทศ เพื่อทำการค้าขายและไปมาหาสู่กับประเทศเมียนมา

หากชาวระนองพร้อม ตนพร้อมด้วยรัฐมนตรีคมนาคม และรองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน  ชาญวีรกูล ก็จะร่วมกันไปหารือกับนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเข้า ศบค.เพื่อจะพยายามเปิดจังหวัดระนองในวันที่ 1 ธันวาคม 2564 หรืออย่างช้าที่สุดในวันที่ 1 มกราคม 2565 เพื่อเราจะกลับมาใช้ชีวิตเหมือนในอดีตเมื่อปี 2562 

นายพิพัฒน์ย้ำด้วยว่า คนระนองต้องช่วยกันดูแล และช่วยกันป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19  ส่วนตนที่ดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ก็พร้อมที่จะเข้ามาเปิดพื้นที่ในการนำอีเว้นท์ต่าง ๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดระนองให้เพิ่มขึ้น 

"ระนองมีจุดเด่นคือ เป็นเมืองฝนแปดแดดสี่ เราต้องเอาช่วงที่ฝนแปดเดือนนี้ จะเอาอะไรไปขายชาวต่างประเทศ ให้เข้ามาท่องเที่ยวในฤดูฝนของจังหวัดระนอง เราจะต้องประชาสัมพันธ์ไปที่ตะวันออกกลาง เพราะคนตะวันออกกลาง เมื่อมาเที่ยวประเทศไทยแล้ว เขาบอกว่าโชคดีมากเลยที่ได้เจอฝน เพราะเขาอยู่ประเทศเขาบางปีไม่เจอฝนเลย" 

ดังนั้น เราต้องเอาวิกฤติให้เป็นโอกาส โดยเฉพาะจังหวัดระนอง ที่มีฝนถึงแปดเดือน ทำไมเราไม่คิดว่าเอาฝนทั้งแปดเดือนนี้มาเป็นการท่องเที่ยว และเปลี่ยนเป็นคำว่าฤดูฝนเป็นฤดูสีเขียว ซึ่งแน่นอนว่าฝนตกต้นไม้ก็ต้องผลิใบออกมามีสีเขียว มีความสดชื่น ต่อไปนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) พยายามเปลี่ยนสโลแกนของฤดูฝน ให้เป็นฤดูการท่องเที่ยวสีเขียว 

และตนจะได้นำเรื่องนี้ไปหารือกับททท. เพื่อจัดโปรแกรมในการท่องเที่ยวทั้งของชาวไทยและชาวต่างประเทศ ตนหวังว่าชาวระนองทุกคนต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี หรือเมื่อไหรที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา พวกเราคนไทยที่มีอัธยาศัยไมตรีดีอยู่แล้ว เราได้ฉายาว่า ยิ้มสยาม เชื่อว่าหลังโควิด-19 ผ่านไป ชีวิตใหม่จะกลับมาสู่คนไทยทั้งประเทศ โดยคนระนองต้องปรับตัวเข้าสู่ New Nomal ในการรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นด้วย