สหภาพฯ ล่ารายชื่อค้านคนนอกนั่ง รองผู้ว่าการฯ กยท.

24 ส.ค. 2564 | 06:27 น.

กยท.วุ่นหนัก โผรายชื่อ 3 รองผู้ว่าการฯ กยท. ส่อเข้าวิน เป็นคนนอกนั่ง ปธ.สหภาพฯ ล่ารายชื่อค้าน ชี้เป็นสิทธิพนักงานสูงสุดควรได้รับตำแหน่งนี้ วัดใจ บอร์ด-รัฐมนตรีเกษตรฯ ถอยหรือสู้

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 นายนที ขลิบทอง กรรมการยางแห่งประเทศไทย  (บอร์ด กยท.) ในฐานะประธานอนุกรรมการสรรหาผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ประธานอนุกรรมการสรรหารองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้มีการประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเข้ารับการสัมภาษณ์และแสดงวิสัยทัศน์ จำนวน 3 คน ได้แก่ 1. นายกวีฉัฏฐ ศีลปพิพัฒน์. 2. นายอมรศักดิ์พันธุรักษ์. 3. นางศิรินาฏ สายสนั่น ณ อยุธยา ซึ่งผู้ที่คาดกันว่าจะได้รับการคัดเลือก เป็นรองผู้ว่าการฯ คนใหม่ ได้แก่ นายกวีฉัฏฐ ศีลปพิพัฒน์. เป็นอดีตผู้สมัครพรรคการเมือง ล่าสุดใน กยท. มีความเคลื่อนไหวตามลำดับ  (อ่านคลิกประกาศ)

 

มานพ เกื้อรัตน์

นายมานพ เกื้อรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ กยท. (สร.กยท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ทางสหภาพฯ ได้มีหนังสือแถลงการณ์ออกมาแล้ว 3 ฉบับ เรื่อง ขอให้ยับยั้ง และให้ กยท. ทบทวนการดำเนินการเพื่อสรรหารองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ทำไมถึงต้องให้ทบทวน เพราะตำแหน่ง  รองผู้ว่าการฯ เป็นเพียงพนักงาน ระดับ10  ต้องมาจากการแต่งตั้งพนักงาน

 

สร.กยท. เห็นว่า การดำเนินการเพื่อสรรหารองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ดังกล่าวของ กยท. ไม่เป็นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อบังคับ และระเบียบของการยางแห่งประเทศไทย จึงร่วมกันคัดค้านการสรรหารองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย และขอให้ กยท. ทบทวน โดยได้มีแถลงการณ์เพื่อให้สมาชิก พนักงานและลูกจ้าง รวมถึงผู้ร่วมอุดมการณ์ที่ต้องการเห็นความถูกต้องและดำเนินการเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลได้ร่วมกันลงลายมือชื่อ

แสดงเจตจำนงลงฉันทามติร่วมกันผ่านแบบฟอร์มออนไลน์มีผู้ร่วมลงชื่อ (ลงรายชื่อ)เพื่อคัดค้านแนวทางการดำเนินการมาแล้วเป็นจำนวนมาก ย่อมเป็นหลักฐานยืนยันการไม่ยอมรับแนวทางการสรรหารองผู้ว่าการและขอให้ กยท. ทบทวน รวมถึงการไม่ยอมรับบุคคลที่จะเข้ามาตามกระบวนการที่ไม่ชอบและขาดความชอบธรรมในการขับเคลื่อนภารกิจองค์กรอันย่อมจะส่งผลต่อความร่วมมือของสมาชิก พนักงานและลูกจ้าง จนขาดประสิทธิภาพในการนำพา กยท. ไปสู่จุดหมายร่วมกัน และเล็งเห็นผลถึงความขัดแย้งที่อาจจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในอนาคตได้

 

ล่ารายชื่อค้านคนนอกนั่งตำแหน่งรองผู้ว่าการฯ กยท.

 

นอกจากนี้ สร.กยท. ยังได้มีการทำหนังสือไปถึงประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตัวแทนของคณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย (บอร์ดการยาง) และประธานอนุกรรมการสรรหารองผู้ว่าการ เพื่อแสดงเจตจำนงให้ กยท. ได้ทวบทวนเพื่อร่วมกันรักษาผลประโยชน์ของ กยท. และธำรงไว้ซึ่งหลักธรรมาภิบาลอันจะเป็นแสงสว่างส่องนำทางองค์กรให้เป็นที่พึ่งของเกษตรกรชาวสวนยางได้อย่างแท้จริง การปรึกษาหารือร่วมในคณะกรรมการระดับทวิภาคีเพื่อสร้างการมีส่วนร่วม ปรึกษาหารือร่วมกันเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหา ระหว่าง สร.กยท. ผู้แทนฝ่ายลูกจ้าง และ กยท. ซึ่งมีฝ่ายบริหาร ผู้แทน กยท. ที่มีกรรมการการยางแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้ที่คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทยมอบหมายให้มาเป็นประธาน ผลการหารือก็มีข้อสรุปตรงกันว่า

หากยังไม่มีเหตุพิเศษให้ผู้ว่าการต้องใช้อำนาจหน้าที่สรรหาบุคคลภายนอกมาเป็นพนักงานให้ กยท. ได้ทบทวนแนวทางดังกล่าว รวมถึงตามที่การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาการและมีอำนาจหน้าที่กำกับโดยกิจการทั่วไปซึ่งกิจการของ กยท. ฯลฯ ตามกฎหมายว่าด้วยการยางแห่งประเทศไทย

 

ล่าสุด สร.กยท. จึงได้มีหนังสือนำเรียนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงปัญหาและชี้ให้เห็นว่า การดำเนินการเพื่อสรรหารองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ดังกล่าวของ กยท. ไม่เป็นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อบังคับ และระเบียบของการยางแห่งประเทศไทย เพื่อให้พิจารณายับยั้งและสั่งการให้ กยท. ทบทวน ต่อไป

 

สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการยางแห่งประเทศไทย (สร.กยท.) ขอเรียกร้องไปยังส่วนเกี่ยวข้องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คณะกรรมการการยางแห่งประเทศไทย คณะอนุกรรมการสรรหารองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย และ กยท. ซึ่งมีผู้ว่าการเป็นผู้บริหารสูงสุดได้ร่วมกันธำรงไว้ซึ่งหลักธรรมาภิบาล ร่วมกันส่งเสริมการบริหารจัดการ กยท. รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐอย่างโปร่งใสตามนโยบายของรัฐบาล ลดการแทรกแซงและการเข้ามาแสวงหาประโยชน์ของนักการเมืองกลุ่มทุน และร่วมกันรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนอย่างแท้จริง จึงขอให้ยับยั้ง และให้ กยท. ทบทวนการดำเนินการเพื่อสรรหารองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย

 

นายมานพ กล่าวว่า ทางสหภาพร่วมลงชื่อคัดค้านการสรรหารองผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ข้อบังคับ และระเบียบ รวมถึงมีความพยายามที่จะสรรหาบุคคลจากภายนอกเพื่อเข้ามาเป็นรองผู้ว่าการฯ มองว่าน่าจะเป็นพนักงานที่เติบโตในองค์กร เป็นเรื่องสำคัญต่อไปหากเป็นบุคคลภายนอกกันหมด คงต้องไม่จำเป็นที่จะต้องเริ่มต้นทำงานตั้งแต่แรกเข้าและเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อที่จะนำไปใช้ในช่วงเป็นผู้บริหารถือว่าป็นตำแหน่งสูงสุดในระดับพนักงาน และการสรรหาในครั้งนี้ โดยบอร์ดเองจะมีอำนาจการสรรหาแค่ผู้ว่าการฯ เท่านั้น