มอเตอร์ไซค์แม่บ้าน อีสานเหนือโต 10% สวนโควิด

นายวิชัย เฟื่องทวีโชค ประธานกรรมการ บริษัท ณัฐกรุ๊ป จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจยานยนต์รายใหญ่ของจังหวัดอุดรธานีและภาคอีสานตอนบน เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ธุรกิจยานยนต์ในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้ภาพรวมธุรกิจยานยนต์ในพื้นที่อยู่ในภาวะทรงตัวทั้งตลาดรถยนต์และจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ (บิ๊กไบค์) มีเฉพาะรถจักรยานยนต์เอนกประสงค์สำหรับครอบครัว ที่ยังทำยอดขายเติบโตได้ประมาณ 10% 
     

โดยตลาดรถจักรยานยนต์แบ่งเป็น 2 เซ็กเมนต์หลัก คือ ตลาดรถจักรยานยนต์ครอบครัว หรือรถเอนกประสงค์ เป็นจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ซึ่งปัจจุบันถือเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งในการดำรงชีพและใช้งานสารพัดประโยชน์ ทั้งเป็นพาหนะเดินทางในชุมชน ไปตลาด ส่งลูกหลานไปเรียน ไปทำนาทำสวน หรือบรรทุกสินค้าประกอบสัมมาชีพ รถจักรยานยนต์กลุ่มนี้ยังมียอดขายเติบโตประมาณ 10%
    

เนื่องจากการระบาดเชื้อโควิด-19 มีการล็อกดาวน์ ปิดแคมป์ ปิดโรงงานคนที่ไปทำงานต่างถิ่นในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล ต้องกลับภูมิลำเนามาหาอาชีพใหม่ในพื้นที่ และแม้หลังโรคระบาดเชื้อโควิด-19 จะคลี่คลายในอนาคต คาดว่ามีส่วนน้อยที่จะออกไปทำงานในต่างถิ่นอีก เพราะมาตรการความปลอดภัยวิถีชีวิตใหม่ Next Nomal และNew Nomal
    
 

กลุ่มย่อยของตลาดนี้คือ รถจักรยานยนต์ขนาดกลาง หรือโมเดลพิเศษ ขนาด 125 ซีซี เพื่อใช้ในการเดินทางท่องเที่ยวระยะใกล้ๆ เป็นหลักมีราคาระดับกลางที่ลูกค้าจับต้องได้ ก็ยังเป็นที่ต้องการของลูกค้าระดับกลางอยู่
    

ส่วนตลาดบิ๊กไบค์ หรือรถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ตั้งแต่ 350 ซี.ซี.ขึ้นไป จนถึงกว่า 1,500 ซี.ซี. สำหรับกิจกรรมการเดินทางท่องเที่ยวระยะไกล หรือในโอกาสพิเศษต่างๆ เป็นตลาดอีกระดับที่มีราคาระดับสูงขึ้นในระดับแสนบาทไปจนถึงหลักล้าน ในภาวะโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบให้คนมีรายได้ลดลงถ้วนหน้า ประกอบกับการเดินทางท่องเที่ยวไปในพื้นที่ต่างๆ ไม่สะดวกจากมาตรการตรวจคัดกรองเชื้อ ยอดขายกลุ่มนี้จึงทรงๆ ตัว
    

เป็นลักษณะเดียวกับตลาดรถยนต์ทั่วไป ที่ช่วงนี้ยอดขายทรงตัวโดยปัญหาหลักจากสถาบันการเงินเข้มงวดการปล่อย สินเชื่อเพิ่ม ขณะที่ภาครัฐออกข้อกำหนดใหม่ๆ เพื่อควบคุมเชื้อออกมา ซึ่งส่งผล กระทบถึงภาวะเศรษฐกิจและกิจกรรมต่างๆ ให้ชะลอตัวไปทุกภาคส่วน กระทบถึงรายได้ของประชาชน ทำให้สถาบันการเงินยิ่งเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อวนไปอีกซึ่งภาครัฐที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาดูแลแก้ไขให้ผ่อนคลายลง

ส่วนแนวโน้มระยะต่อไป นายวิชัยกล่าวว่า ปลายปี 2564 นี้ ทางสปป. ลาวประกาศจะเปิดใช้รถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว จากคุนหมิงในจีนตอนใต้มาถึงนครหลวงเวียงจันทน์ ช่วงแรกอาจเน้นการขนส่งสินค้าไปก่อน โดยในเที่ยวกลับต้องขนสินค้าจากลาวและรวมถึงภาคอีสานของไทยกลับไปด้วย คาดว่าจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจในอีสานคึกคักขึ้น

ประกอบกับหากโรคระบาดเชื้อโควิด-19 คลี่คลายสามารถเปิดประเทศได้ใน 120 วันตามเป้าหมายที่รัฐบาลประกาศ จะทำให้การค้าชายแดนกับสปป.ลาวดีขึ้น ยิ่งเป็นปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจของภาคอีสาน และเป็นโอกาสของตลาดรถยนต์และจักรยานยนต์ในพื้นที่นี้ด้วย
    

“แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจจะไปในทางที่ดีก็ตาม แต่การเปลี่ยนปลงด้านการดำเนินวิถีชีวิตของคน ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วย เพราะต้องมีมาตรการด้านความปลอดภัย ในการใช้ชีวิตวิถีชีวิตแบบใหม่ทั้ง New Normal หรือ Next Normal ซึ่งจะไม่เหมือนเดิมอีก” นายวิชัย กล่าว
    

ณัฐกรุ๊ป ผู้ประกอบธุรกิจยานยนต์รายใหญ่ของภาคอีสานตอนบน เริ่มจากเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์นิสสัน (พ.ศ. 2512) ปัจจุบันมี 3 สาขาในอุดรฯและหนองคาย ต่อมาตั้งบ.ณัฐบาวาเรียนเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ BMW อีกยี่ห้อ
    

พร้อมทั้งขยายสู่รถจักรยานยนต์ในนามหจก.ณัฐมอเตอร์ เซลล์ เมื่อปี 2544 เป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ตลาดใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ขนาดเล็กใช้งานเอนกประสงค์ในครอบครัวปัจจุบันมี 27 สาขา ในอุดรฯ หนองคายขอนแก่นแตกหน่อเปิดฮอนด้า CUB House สำหรับจักรยานยนต์โมเดลพิเศษ และฮอนด้าบิ๊กวิง จำหน่ายกลุ่มบิ๊กไบค์ ส่วนศูนย์มอเตอร์ร้าด จำหน่ายจักรยานยนต์หรู BMW
    

ณัฐกรุ๊ป มีพนักงานกว่า 500 คนช่วงระบาดเชื้อโควิด-19 ที่ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ บริษัทยังคงจ้างงานพนักงานทั้งหมดไว้โดยไม่ปลดออกแม้แต่คนเดียว 

หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,707 วันที่ 22-25 สิงหาคม พ.ศ.2564