โคโรนาเอฟเฟกต์ธุรกิจหมดหวังยอดขาย ไต่ไม่ถึงเป้า

28 ก.พ. 2563 | 07:41 น.

 

สำรวจภาคการผลิตพบ แห่คาดการณ์ยอดขายร่วงไปไม่ถึงเป้าหมายปี63  เผยสินค้าบางตัวกำลังซื้อในประเทศก็หดตัวเกิน50%  ขณะที่กลุ่มเครื่องปรับอากาศห่วงตลาดส่งออกอันดับ 2 ของโลกสะดุดลง

นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผย”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า  จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา  นอกจากจะกระทบต่อคำสั่งซื้อเก่า ที่ทำสัญญาซื้อกันไว้เมื่อปี2562แล้ว   อาจจะทำให้ยอดขายทั้งปีลดลงด้วย  เนื่องจากเวลานี้กำลังซื้อภายในประเทศก็หดตัวลงเกิน 50%  เพราะสินค้าที่ผลิตทางหนึ่งก็ขายนักท่องเที่ยว  เมื่อลุกค้ากลุ่มนี้นี้ก็ต้องกระทบเป็นลูกโซ่ เพราะทำให้ค้าส่ง ค้าปลีกกระทบไปได้วย  อีกทั้งกำลังซื้อในประเทศยังถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาภัยแล้ง เมื่อพืชผลทางากรเกษตรไม่ดีกำลังซื้อในกลุ่มเกษตรกรที่มีจำนวนมากก็หายไป  ซึ่งสถนะของผู้ประกอบการในขณะนี้จะต้องประคองตัวให้พ้นวิกฤติอย่างน้อย 3 เดือนนับจากนี้ไปหรือระหว่างเดือนมีนาคมถึงเดือนเมษายน2563 (กรณีคาดการณ์ว่าจะไม่กระทบไปไกลกว่านี้สำหรับประเทศไทย) 

ด้านนายอรุณ เอี่ยมสุรีย์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่า เรามีปัญหาด้านเศรษฐกิจมาตั้งแต่ปีที่แล้วเรื่องสงครามการค้าจีน-อเมริกา ที่กระทบต่อไทยไปเต็มๆเนื่องจากไทยส่งออกสินค้าในรูปของชิ้นส่วนและสินค้าสำเร็จรูปไปจีนจำนวนมาก อีกทั้งเศรษฐกิจโลกก็ไม่ดี ทำให้เราเป็นฝีเม็ดใหญ่  พอมาเจอไวรัสโคโรนาคนยิงไม่ออกมาจับจ่ายใช้สอย การส่งออกก็ชะลอตัวลง จึงมากระตุ้นให้ฝีแตก ก็น่าเป็นห่วงอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศที่ไทยส่งออกรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก มีขนาดกำลังผลิต 18 ล้านชุดต่อปี รองจากจีน โดยมีมูลค่าการส่งออกราว 170,000 ล้านบาทเมื่อปี 2562  ขณะนี้การผลิตบางส่วนสะดุดลงเพราะต้องนำเข้าวัตถุดิบบางส่วนจากจีน  โดยรวมมั่นใจว่ามูลค่ายอดขายของกลุ่มเครื่องปรับอากาศจะลดลง ขณะที่ตลาดในประเทศก็ลดลงเพราะหลายปัจจัยรุมเร้า มูลค่าตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 20,000 ล้านบาทต่อปีก็คงลดลงด้วยเช่นกัน 

ด้านนายภราดร จุลชาต  ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) กล่าวว่าทั้งออเดอร์และยอดขายปี2563 มีแนวโน้มว่าจะไปไม่ถึงเป้า ถ้าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาลากยาว  เพราะอุตสาหกรรมพลาสติกไปเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมต่อเนื่องเกิอบทุกกลุ่มทั้งรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหาร บรรจุภัณฑ์  และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกด้วย

“เราเริ่มเห็นผลกระทบชัดเจนตั้งแต่เดืนมกราคมเป็นต้นมา  ยอดคำสั่งซื้อลดลงทั้งในประเทศและส่งออก  ปกติกลุ่มนี้จะมีรายได้จากการส่งออกต่อปีราว 10,000-12,000 ล้านบาทต่อเดือน  ขณะนี้ลดลงแล้ว 3-5% ต่อเดือน”

ปัจุบันอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกและผลิตภัณฑ์พลาสติกรวมบรรจุภัณฑ์มีมูลค่าประมาณ  900,000 ล้านบาทในปี2562 คิดเป็น 7-8 % ของจีดีพีประเทศ