ประชาชนมีเฮเบนซินจ่อถูกลง 50 สตางค์

21 ก.พ. 2563 | 09:10 น.

รมว.พลังงานเผยข้อสรุปเบื้องต้นจากคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรมเล็งปรับโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น ชี้ผลทำให้เบนซินถูกลง 50 สตางค์ต่อลิตร ระบุรอนำเข้า กบง.และส่งต่อ กพช. 19 มีนาคม 63

นายสนธิรัตน์  สนธิจิรวงศ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม  ซึ่งมีปลัดกระทรวงพลังงานเป็นประธานได้มีข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับการปรับปรุงโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นที่จะมีผลปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินได้ 50 สตางค์/ลิตร  โดยเรื่องดังกล่าวจะถูกส่งเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ กบน.  เพื่อนำกลับเข้าสู่ที่ประชุม กบง. ครั้งถัดไป  และผลักดันเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 19 มีนาคม 2563 ต่อไป เนื่องจากมีผลกระทบต่อโครงสร้าง

ประชาชนมีเฮเบนซินจ่อถูกลง 50 สตางค์

ทั้งนี้  การประชุมดังกล่าวเป็นการหารือของผู้ที่เกี่ยวข้อง  โดยถือเป็นครั้งแรกที่มีการเชิญภาคประชาชน เอ็นจีโอ มาหารือกับกระทรวงพลังงานที่จะทำโครงสร้างราคาน้ำมันที่เป็นธรรม ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาข้อยุติเพราะมีข้อรายละเอียดซับซ้อน  โดยเดิมตั้งใจจะให้เสร็จในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ครั้งนี้แต่ไม่ทัน  ซึ่งก็ได้ข้อยุติที่จะลดลงก่อนเบื้องต้น 50 สตางค์/ลิตร  โดยที่โครงสร้างนี้ก็จะเป็นแบบถาวร”

อย่างไรก็ดี  กบง.ยังได้เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการใช้น้ำมันไบโอดีเซลB10 ซึ่งรัฐได้ประกาศให้เป็นน้ำมันพื้นฐานแทนดีเซล B7 โดยภายใน 1 มีนาคม 63 ทุกสถานีบริการน้ำมันจะต้องจำหน่ายทั้งหมดด้วยการกำหนดส่วนต่างราคาขายปลีกปัจจุบันจากเดิมB10 ถูกกว่าB7 จำนวน 2 บาท/ลิตร และB20 ถูกกว่าB10 จำนวน 1 บาท/ลิตรเป็น B10 ถูกกว่า B7 จำนวน3บาท/ลิตร และB20 ถูกกว่าB7 จำนวน 3.50 บาท/ลิตรเพื่อจูงใจให้คนหันมาใช้มากขึ้น  โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมนี้เป็นต้นไป

ประชาชนมีเฮเบนซินจ่อถูกลง 50 สตางค์

นายสนธิรัตน์ กล่าวต่อไปอีกว่า จากส่วนต่างราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มดีเซลปัจจุบันนั้น  มองว่ายังไม่จูงใจให้ผู้บริโภคเปลี่ยนมาใช้ดีเซลB10 ทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันไบโอดีเซล ยังไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดซึ่งการปรับครั้งนี้จะทำให้B 20 ถูกกว่าB 10 เหลือแค่ 50 สตางค์/ลิตร  ส่วนผู้ประกอบการกำหนดค่าการตลาด ให้B 10 มีค่าการตลาด 1.85 บาท ส่วนB 20 เหลือ 1.55 บาท และ B 7 เหลือ 1.50 บาท เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการจำหน่ายB 10 อีกทางหนึ่งด้วย

“แนวทางดังกล่าวจะต้องนำเสนอ กบน. เพื่อที่จะพิจารณาแนวทางกลไกการใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาสนับสนุนนโยบายดังกล่าวต่อไป  ซึ่งแผนดังกล่าวจะส่งผลให้การใช้B10 เพิ่มเป็น 20 ล้านลิตร/วัน และระยะยาวจะไปสู่ระดับ 57 ล้านลิตร/วัน”