“อีลอน มัสก์” ติดเบรกโครงการซื้อรถด้วยบิตคอยน์ ทำราคาเงินดิจิทัลหล่นวูบหลุด 50,000 ดอลลาร์  

13 พ.ค. 2564 | 11:38 น.

ถอยหลังซะงั้น “อีลอน มัสก์” ยกเลิกโครงการขายรถเทสลาโดยรับชำระค่ารถเป็นบิตคอยน์แบบกระทันหัน ทำราคาบิตคอยน์หล่นวูบทันที โดยเขาให้เหตุผลว่า ขอพับโครงการชั่วคราวจนกว่าวิธีการขุดบิตคอยน์จะใช้พลังงานน้อยกว่านี้และไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

เหยียบเบรกดังเอี๊ยดก่อนกระชากเกียร์ถอยหลังแบบเท่ๆ แต่ทำเอา นักลงทุนบิตคอยน์ หัวทิ่มหัวตำแบบไม่ทันตั้งตัว  นายอีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัท เทสลา เบอร์หนึ่งรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐอเมริกา จู่ ๆก็ ประกาศระงับโครงการขายรถเทสลาโดยรับชำระเป็นบิตคอยน์แทนเงิน แบบกระทันหันวันนี้ (13 พ.ค.) อ้างเหตุผลว่า ขอระงับโครงการไว้ก่อนจนกว่าจะมั่นใจว่า กระบวนการขุดบิตคอยน์ เพื่อนำมาชำระเป็นค่ารถนั้นจะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเหมือนกับที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

เหตุผลที่ว่ามานี้ ทำให้นักลงทุนบิตคอยน์ถึงกับอึ้งเพราะทันทีที่ปรากฏเป็นข่าว ราคาซื้อขายบิตคอยน์ก็ร่วงวูบทันทีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ ขณะที่หุ้นเทสลา (TSLA) ปรับลดลง 4.42%

นายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้งบริษัท เทสลา ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทสเปซเอ็กซ์ ผู้ให้บริการขนส่งทางอวกาศชื่อดัง ทวีตข้อความซึ่งเป็นข่าวร้ายของนักลงทุนเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (13 พ.ค.) โดยประกาศว่า บริษัทเทสลาจะเลิกขายรถโดยรับชำระเป็น บิตคอยน์ (Bitcoin) ซึ่งเป็น สกุลเงินดิจิทัล หรือ คริปโตเคอเรนซี ที่ผู้คนรู้จักมากที่สุด โดยเขาให้เหตุผลว่าบิตคอยน์นั้น กว่าจะได้มาต้องใช้พลังงานที่ทำลายสิ่งแวดล้อม (พลังงานจากฟอสซิล) ในการขุดเหมือง อีกทั้งยังเป็นกระบวนการที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับสูง

นายอีลอน มัสก์

อย่างไรก็ตาม นายมัสก์ ระบุว่า ตัวเขาเองจะยังเก็บบิตคอยน์ที่ถือครองเอาไว้ต่อไป นอกจากนี้ยังอาจจะพิจารณารับชำระค่ารถยนต์เทสลาเป็นเหรียญคริปโตสกุลอื่น ๆ แทน ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า การจะได้มาซึ่งเหรียญคริปโตเหล่านี้ (หรือที่เรียกว่า “การขุดเหมือง”) ต้องใช้พลังงานน้อยกว่า 1% ของพลังงานที่บิตคอยน์ใช้ ทั้งนี้ หลังการประกาศข่าวดังกล่าวมูลค่าของบิตคอยน์ในตลาดร่วงลงทันที 11% โดยช่วงเช้าวันนี้ ราคาบิตคอยน์ ดิ่งลงสู่ระดับต่ำกว่า 5 หมื่นดอลลาร์อีกครั้ง ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 49,696 ดอลลาร์ ลดลงไป 13.2%

นอกจากนี้ เงินคริปโตฯสกุลอื่น ๆ อย่าง อีเทอเรียม ก็ลดลงต่ำกว่าระดับ 4,000 มาอยู่ที่ระดับ 3,901 ดอลลาร์ หรือ 6.87%  ขณะที่เหรียญ XRP ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 1.303 ดอลลาร์ หรือลดลงราว 15.07%  ส่วนสกุลด็อจคอยน์ (Dogecoin) ร่วงลงมาเคลื่อนไหวในระดับ 0.422 ดอลลาร์ หรือลดลงราว 14.21%

การปรับตัวลงอย่างรุนแรงของตลาดคริปโตเคอร์เรนซีเหล่านี้ เกิดขึ้นเพียง 5 นาทีหลังจากที่ อีลอน มัสก์ ได้โพสต์ประกาศดังกล่าวในทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา

“อีลอน มัสก์” ติดเบรกโครงการซื้อรถด้วยบิตคอยน์ ทำราคาเงินดิจิทัลหล่นวูบหลุด 50,000 ดอลลาร์  

ข้อความจากทวิตเตอร์ของมัสก์ ยังระบุด้วยว่า Tesla จะยังไม่เทขายบิตคอยน์ที่ถือครองอยู่ในขณะนี้ แต่จะใช้บิตคอยน์ในการทำธุรกรรมก็ต่อเมื่อการขุดบิตคอยน์จะปรับเปลี่ยนไปใช้พลังงานที่มีความยั่งยืนมากกว่าที่เป็นอยู่

 มัสก์ยังบอกด้วยว่า กำลังมองหาเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีสกุลต่างๆ ที่ใช้พลังงานในการทำธุรกรรมที่น้อยกว่าบิตคอยน์ ซึ่งสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซีถือเป็นแนวคิดที่ดีและเป็นความหวังของอนาคต แต่เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าหากต้องแลกกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

เมื่อต้นปีนี้ อีลอน มัสก์ สร้างความคึกคักให้กับตลาดเงินคริปโตฯ ด้วยการประกาศรับชำระค่าซื้อรถเทสลาและผลิตภัณฑ์อื่น ๆของบริษัทในตลาดสหรัฐ เป็นบิตคอยน์แทนเงิน นอกจากนี้เขายังกว้านซื้อเงินคริปโตฯมาเก็บไว้เป็นมูลค่าราว 1,500 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แม้จะมีการนำมาขายออกไปบ้าง แต่ก็เป็นความเคลื่อนไหวที่ทำให้บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการรักษาสภาพคล่องไปในตัว มัสก์ถือว่าการลงทุนในบิตคอยน์เป็นการลงทุนที่ดีสำหรับอนาคต และสำหรับตลาดเงินคริปโตฯ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้ตลาดคึกคักอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

อย่างไรก็ตามในมุมมองด้านสิ่งแวดล้อม เคยมีการศึกษาของ Cambridge Centre for Alternative Finance ระบุว่า ในการขุดเหมืองหรือการผลิตบิตคอยน์ออกมาในแต่ละปีนั้น ต้องใช้พลังงานมากถึง 148 เทอร์ราวัตต์ /ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าปริมาณการใช้พลังงานของประเทศสวีเดนตลอดทั้งปี หรือเทียบเท่าพลังงานที่สูญเปล่าจากการเสียบปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าทิ้งไว้ในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 1 ปีครึ่ง  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง