ฝรั่งเศสจ่อเลิกคำสั่งบังคับใส่หน้ากากฯ หลังยอดฉีดวัคซีนใกล้เข้าเป้า

05 พ.ค. 2564 | 14:48 น.

รัฐบาลฝรั่งเศสเตรียมยุติคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยออกนอกบ้าน หากแผนฉีดวัคซีนโควิดคืบหน้าเร็วขึ้น โดยปัจจุบัน มีประชาชนที่ฉีดวัคซีนโดสแรกไปแล้วกว่า 16 ล้านคน ขณะที่ผู้ได้รับวัคซีนครบสองโดสมีราว 6.7 ล้านคน ซึ่งมากกว่า 30% ของประชากรทั้งประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายโอลิเวียร์ เวรอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส มีแผนการที่จะ ยกเลิกคำสั่งสวมหน้ากากอนามัยในพื้นที่กลางแจ้ง ในช่วงฤดูร้อนนี้ หาก แผนฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของฝรั่งเศส คืบหน้ายิ่งขึ้น

"หากมีประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากพอแล้ว เราอาจจะสามารถผ่อนปรนมาตรการได้" นายเวรองกล่าว

ฝรั่งเศสจ่อเลิกคำสั่งบังคับใส่หน้ากากฯ หลังยอดฉีดวัคซีนใกล้เข้าเป้า

กระทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศสรายงานว่า ปัจจุบันมีประชาชนในฝรั่งเศสกว่า 16 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างน้อย 1 โดสแล้ว และผู้ที่ได้รับวัคซีนครบสองโดสมีประมาณ 6.7 ล้านคน ซึ่งมากกว่า 30% ของประชากรฝรั่งเศส และคิดเป็นเกือบ 13% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ของฝรั่งเศส ขณะที่รัฐบาลมีเป้าหมายจะฉีดวัคซีนให้ประชาชน 20 ล้านคนภายในกลางเดือนพ.ค. และ 30 ล้านคนภายในกลางเดือนมิ.ย.

ปัจจุบัน ฝรั่งเศสมียอดผู้ป่วยโรคโควิด-19 สะสม 5.66 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิต 105,310 คนทั่วประเทศ

ทั้งนี้ การฉีดวัคซีนต้านโควิดที่มีความคืบหน้า ทำให้ฝรั่งเศสเริ่มคลี่คลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่เข้มงวดลง โดยเมื่อวันจันทร์ (3 พ.ค.) ที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสได้ยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางที่ห้ามประชาชนออกนอกบ้านในรัศมีเกิน 10 กิโลเมตร รวมถึงอนุญาตการเดินทางระหว่างภูมิภาค และเปิดการเรียนการสอนของโรงเรียนมัธยมศึกษาบางส่วน

นอกจากนี้ ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค.นี้เป็นต้นไป มาตรการเคอร์ฟิวช่วงกลางคืนจะถูกลดเวลาลง 2 ชั่วโมง โดยเริ่มตั้งแต่ 21.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ร้านค้าที่ไม่จำเป็นจะเปิดให้บริการได้ และร้านอาหารและคาเฟ่จะรับรองลูกค้าได้ไม่เกิน 6 คนต่อโต๊ะ ส่วนพิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ และสนามกีฬา จะเปิดให้บริการได้ตามปกติ โดยรองรับผู้ใช้บริการในร่มได้ไม่เกิน 800 คน และผู้ใช้บริการกลางแจ้งไม่เกิน 1,000 คน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง