นายกรัฐมนตรีเอสวาตีนี เสียชีวิตหลังติดโควิด-19

14 ธ.ค. 2563 | 03:40 น.

นายกรัฐมนตรีเอสวาตีนี ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 52 ปี หลังผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในแอฟริกาใต้

14 ธันวาคม 2563 สำนักข่าว เอเอฟพี รายงานว่า จากการเปิดเผยของรัฐบาลเมื่อช่วงค่ำวันของวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายอัมโบรเซ ดลามินี นายกรัฐมนตรีเอสวาตีนี(สวาซิแลนด์) ซึ่งมีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวกเมื่อ 4 สัปดาห์ก่อน ถึงแก่อสัญกรรมด้วยวัย 52 ปี หลังเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นชาติเพื่อนบ้าน

 

ทั้งนี้ นายดลามินี เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในแอฟริกาใต้เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม หรือประมาณ 2 สัปดาห์หลังมีผลตรวจออกมาเป็นบวก และล่าสุดรัฐบาลได้แถลงข่าวเกี่ยวกับการถึงแก่อสัญกรรมของเขา
 

นายเทมบา มาซูกู รองนายกรัฐมนตรีระบุในถ้อยแถลงว่า "ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงบัญชาให้ผมแจ้งข่าวเศร้าของประเทศ เกี่ยวกับการจากไปก่อนเวลาอันควรของ นายกรัฐมนตรีอัมโบรเซ มันด์วูโล ดลามินี ซึ่งจากไปเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ระหว่างอยู่ภายใต้การดูแลทางการแพทย์ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในแอฟริกาใต้"

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 72.5 ล้านราย เสียชีวิตเพิ่ม 7.5 พันราย

บริษัทญี่ปุ่น 90% งดจัดงานเลี้ยงปีใหม่ เลี่ยงโควิด

สหรัฐแจกจ่ายวัคซีนทั่วประเทศชุดแรก 14 ธ.ค.นี้

 

อย่างไรก็ดี นายมาซูกู รองนายกฯ ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตของนายดลามินีแต่อย่างใด

 

 

ทั้งนี้ นายดลามินี ได้ประกาศในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนว่า เขามีผลตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก แต่บอกว่า เขารู้สึกสบายดีและไม่แสดงอาการใดๆ

เอสวาตีนี แต่เดิมก็คือ ประเทศสวาซิแลนด์ รายงานพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 6,700 ราย ในนั้นเสียชีวิต 127 คน จากประชากรทั้งหมด 1.2 ล้านคน

 

เครือข่ายสมานฉันท์สวาซิแลนด์ กลุ่มประชาสังคมซึ่งมีสำนักงานในแอฟริกาใต้ กล่าวหา รัฐบาลมอบสิทธิพิเศษด้านการรักษาแก่นายกรัฐมนตรี ด้วยการเคลื่อนย้ายเขาไปยังประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งมีระบบสาธารณสุขดีกว่าสวาซีแลนด์เป็นอย่างมาก ในขณะที่ตามข้อมูลของธนาคารโลก พบว่า ในบรรดาประชากรทั้งประเทศ มีมากกว่า 39% ที่อยู่ต่ำกว่าเส้นแบ่งความยากจนในปี 2016 และ 2017