ทรัมป์หวั่นถูกโกงเลือกตั้ง – จับตานับคะแนนทางไปรษณีย์

03 พ.ย. 2563 | 03:28 น.

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกัน และนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต เข้าสู่โค้งสุดท้ายของการหาเสียงก่อนที่การเลือกตั้งจะเปิดฉากขึ้นในวันนี้ (3 พ.ย.) ตามเวลาสหรัฐ

 

ทั้ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ นายโจ ไบเดน ยังมีความเห็นต่างอย่างมากเกี่ยวกับ การนับคะแนนโหวตหลังการเลือกตั้ง ซี่งทางฝ่ายปธน.ทรัมป์ยืนกรานว่า จะเป็น ช่องทางในการโกงคะแนนเลือกตั้ง ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนับคะแนนบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ที่ต้องใช้เวลานับพอสมควร

 

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในระหว่าง การหาเสียงโค้งสุดท้าย วานนี้ (2 พ.ย.) ว่า เขาจะส่งทนายความไปดำเนินการหากรัฐต่าง ๆ ยังคงมี การนับคะแนนโหวต หลังผ่านวันเลือกตั้งไปแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลการเลือกตั้งยังคงต้องนับคะแนนโหวตหลังผ่านวันเลือกตั้งไปแล้ว 3 วันนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงมาก

 

ทั้งนี้ การนับคะแนนบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ อาจต้องใช้เวลา 2-3 วันในบางรัฐ โดยปธน.ทรัมป์กล่าวอ้างบ่อยครั้งว่า การส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีการฉ้อโกงมากที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา

ทรัมป์หวั่นถูกโกงเลือกตั้ง – จับตานับคะแนนทางไปรษณีย์

นอกเหนือจากการนับบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์แล้ว ยังต้องมีการนับบัตรเลือกตั้งที่ประชาชนโหวตล่วงหน้าด้วยตัวเองด้วย ซึ่งการเลือกตั้งปีนี้มีประชาชนโหวตล่วงหน้าเป็นจำนวนมากเพื่อเลี่ยงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ทางด้านทีมหาเสียงของนายโจ ไบเดน ได้โต้แย้งประเด็นดังกล่าวว่า ในการเลือกตั้งที่ผ่านๆมานั้น รัฐต่าง ๆก็ใช้เวลานับคะแนนพอสมควรมาโดยตลอดกว่าจะนับเสร็จทั้งหมด โดยไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะทราบว่าใครเป็นผู้ชนะภายในคืนวันเลือกตั้ง

ทั่วโลกจับตาการเลือกตั้งสหรัฐในครั้งนี้อย่างใกล้ชิด โดยแม้ผลการสำรวจของทุกสำนักต่างระบุตรงกันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะพ่ายแพ้ต่อนายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่คะแนนเสียงจากผู้ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจ และคะแนนเสียงจากหลายรัฐที่ไม่ใช่ฐานเสียงของทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน อาจเป็นปัจจัยชี้ขาดผลการเลือกตั้งครั้งนี้

 

ทรัมป์หวั่นถูกโกงเลือกตั้ง – จับตานับคะแนนทางไปรษณีย์

ในวันนี้ นอกจากพลเมืองชาวอเมริกันที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจะออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว พวกเขายังจะทำการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งสภาจำนวน 435 คน และเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 1 ใน 3 ของทั้งหมด หรือจำนวน 33 คน จากทั้งหมด 100 คน โดยการเลือกตั้งประธานาธิบดีจะมีขึ้นทุก 4 ปี และการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะมีขึ้นทุก 2 ปี

 

นอกจากนี้ ชาวอเมริกันยังออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนหลายพันคนทั่วประเทศ ซึ่งรวมถึงผู้ว่าการรัฐ และผู้พิพากษา ส่งผลให้การเลือกตั้งในวันนี้ ถือเป็นการเดิมพันครั้งสำคัญต่อทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เนื่องจากมีผลต่อชัยชนะของพรรคในการเข้าครอบครองทำเนียบขาวและสภาคองเกรส