นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความชัดเจนในการขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญฯ พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ว่า ได้มีการเตรียมไว้แต่ยังไม่ได้มีการเสนอไป โดยคิดว่าจะไม่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 11 มี.ค.นี้ เนื่องจากอาจไม่ทันการ ดังนั้น จะต้องขอทูลเกล้าฯ เปิดประชุมไปก่อน ซึ่งรัฐบาลจะมีการประสานกับสภาฯ ว่า จะขอยืนยันวันที่ชัดเจน ใช่ช่วงวันที่ 17-19 มี.ค. ว่าจะกำหนดเปิดและปิดวันใดในช่วงดังกล่าว
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) บางส่วนออกมาแสดงท่าทีชัดเจนจะโหวตคว่ำในวาระ 3 ว่า เป็นเรื่องของบางคนจากจำนวนคน 250 คน แต่อย่างไรก็ต้องดูกันต่อไป ซึ่งการแสดงท่าทีดังกล่าวก็สามารถทำได้ ไม่ได้ผิดอะไร เมื่อสื่อไปถามก็ต้องมีการพูด
ส่วนหากมีการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ จะมีผลกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ เพรายังไม่เห็นว่าจะกระทบอะไรโดยตรง ส่วนการแก้ไขรายมาตราจะต้องเริ่มอย่างไรนั้น เรื่องนี้ไม่ยาก เพียงให้ตกลงกันให้ได้ว่าจะแก้มาตราใด ฝ่ายกฎหมายและสำนักงานกฤษฎีกาก็จะยกร่างให้ แต่การแก้ไขเป็นรายมาตราจะต้องไม่ควรนำสู่การลงประชามติ เพราะจะได้เร็วขึ้น แก้ไขอย่างไรประเด็นนี้เคยมีการพูดมาก่อนแล้วว่าจะต้องแก้ไขอย่างไรในมาตราใด นอกจากนี้จะเป็นมาตรา 256 หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ เพราะต้องหาข้อยุติอีกครั้ง
ส่วนหากแก้รายมาตราที่เกี่ยวกับการทำประชามติอาจไม่ทันอายุของรัฐบาล นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวอะไรกับอายุ แต่ข้อสำคัญคือถ้าจะทำประชามติก็ต้องรอกฎหมายประชามติออกมาให้ได้ก่อน ซึ่งส่วนตัวมีความเห็นว่าการเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญฯ จำเป็นต้องเปิดเพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติเอาไว้ก่อนอยู่ดี เผื่อหากทำประชามติก็สามารถทำได้เลย เพื่อไม่ทำให้เสียเวลา
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงช่วงการหาเสียงเลือกตั้งโค้งสุดท้ายที่จ.นครศรีธรรมราช ที่มีรัฐมนตรีหลายคนลงไปช่วยลูกพรรคหาเสียงต้องมีการกำชับอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ว่า ทุกคนรู้และระวังตัวอยู่แล้ว และก่อนหน้านี้ก็ได้มีการสอบถามคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แล้วว่าอะไรสามารถทำได้และอะไรทำไม่ได้ ดังนั้นคนที่ลงไปก็ทราบอยู่แล้ว ก็ผ่านมาหลายครั้งแล้วและจะมีหลายครั้งหลังจากนี้