“ดร.ซุป” วิเคราะห์เศรษฐกิจไทย-โลก ดีขึ้นต้นปีหน้า

10 ก.ย. 2563 | 05:53 น.

ดร.ซุป “ศุภชัย พานิชภักดิ์” วิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจจะดีขึ้นช่วงต้นปีหน้า แนะรัฐบาลใช้จ่ายเงินให้ตรงเป้าหมาย ส่วนสถานการณ์โลกของเอเชียดีกว่าที่อื่น

วันที่ 10 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังก์ถัด (UNCTAD) อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO)  ในฐานะที่ปรึกษาผู้ทรงคุณวุฒิของคณะกรรมการเตรียมการยุทธศาสตร์ชาติ เปิดเผยมุมมองสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทย

 

โดยนายศุภชัย เริ่มต้นตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงจำเป็นต้องรีบตั้งรมว.คลัง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นหรือไม่ว่า เป็นเรื่องของรัฐบาล เพราะขณะนี้โครงการส่วนใหญ่ที่นำออกมาใช้ก็เดินตามรูปแบบ และค่อยๆเดินไป หากเกิดการกระตุ้นก็เกิดจากโครงการใหญ่ๆของรัฐบาล ส่วนที่จะมีการชดเชยให้คนมีงานทำก็มีอยู่แล้ว 

 

“ปัญหาคือเงินที่ออกมาต้องใช้ให้ตรงเป้าหมายที่สุดเท่าที่จะทำได้ และเห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลใช้อย่างระมัดระวัง แต่ก็ถูกโจมตีบ้าง เพราะมีคนอยากให้ใช้เงินให้หมด เชื่อว่าต้นปีหน้าจะดีขึ้น อะไรที่คาดคะเนว่าจะเลวร้าย คิดว่าไม่เลวร้าย”นายศุภชัย กล่าว

 

เมื่อถามว่า การชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย. ของกลุ่มประชาชนปลดแอกนั้น มองว่าจะฉุดความเชื่อมั่นทางด้านเศรษฐกิจหรือไม่ นายศุภชัย กล่าวว่า เมื่อดูทั่วโลกไม่เห็นประเทศไหนที่จะไม่มีการชุมนุมประท้วง หรืออาจจะมีการประท้วงปิดประเทศมากไปหรือน้อยไปหรือประท้วงนโยบายด้านเศรษฐกิจ แม้ยุโรปหรืออเมริกาก็มีปัญหาทั้งสิ้น ไม่ใช่แค่เรื่องการเมือง แต่รวมถึงเรื่องสังคมด้วย 

 

ดังนั้นเราต้องระมัดระวังเรื่องการประท้วง แต่ถือเป็นธรรมชาติในสถานการณ์แบบนี้ที่ทุกคนรู้สึกเดือดร้อน และอยากแสดงออก ดีที่สุดคือให้แสดงออก แต่ต้องสร้างสรรค์ เวลานี้ไม่มีที่ไหนดีในโลก แต่ถ้าจะให้ดีขึ้น พวกเราต้องช่วยกัน จะให้แก้ไขอะไรและอย่างไรก็ออกมาพูดได้เพื่อนำเสนอรัฐบาลให้แก้ไข จึงเรียกว่าสร้างสรรค์ และการชุมนุมมองว่าเป็นพื้นที่ที่ให้ทุกคนระบาย เพราะพวกเราก็ถูกกดดันทุกคน

 

ส่วนสถานการณ์ของโลก นายศุภชัย กล่าวว่า ในเอเชียสถานการณ์ดีกว่าที่อื่นเยอะ แม้จะมีการกลับมาระบาดอีกครั้ง แต่ก็เป็นการระบาดเพียงแค่บางจุด ซึ่งสามารถเข้าไปควบคุมดูแลได้ เช่น เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นก็ทำได้ดี ส่วนการลงทุนและการบริโภคในเอเชียถือว่าดีกว่าที่อื่น โดยเฉพาะการเชื่อมต่อข้อมูลในการเปิดประเทศว่าจะทำได้มากน้อยเพียงใดเพื่อให้เศรษฐกิจเดินไปได้


ดังนั้นต้องร่วมมือกันให้ดี  หากต่อไปมีวัคซีนแล้วจะต้องไม่ขายในราคาแพง และไม่มีใครเป็นเจ้าของ หรือยกให้องค์การอนามัยโลก และให้กระจายต่อไป เพราะตอนนี้บริษัทยาใหญ่ๆและประเทศใหญ่ไปจองวัคซีนเหล่านี้ค่อนข้างมาก แต่ที่น่าเป็นห่วงคืออเมริกา และยุโรป


“ในอาเซียนผมว่าเราดีกว่าที่อื่น เพราะทุกคนให้ความสำคัญกับทุกภาคส่วน แตกต่างจากที่อื่นที่มีการขัดขืนตลอดเวลา ดังนั้นต้องค่อยๆเปิดประเทศไปเรื่อยๆ แต่เราต้องอดทน ส่วนเศรษฐกิจที่กระตุ้นไม่ได้ เพราะโลกยังวิกฤตอยู่ ส่งผลให้การกระตุ้นเศรษฐกิจไปไม่ได้เต็มที่ แต่ต้องหล่อเลี้ยงไม่ให้เกิดการทรุดลงทางเศรษฐกิจทั้งรายเล็ก และรายใหญ่ให้เขาไปได้ก่อน โดยหล่อเลี้ยงให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เมื่อคนทำงานได้ก็จะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นตามธรรมชาติ"

นายศุภชัย กล่าวด้วยว่า ขณะที่การค้า มองว่าหดตัวน้อยลง จนมีการแย่งกันวิจารณ์ว่าจะเลวร้ายขนาดไหน อยากให้มองตรงข้าม เพราะไตรมาสที่3-4 การหดตัวก็จะดีขึ้น รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคก็ดีขึ้นทุกเดือน ยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการรอวัคซีน ย้ำว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจมากยังไม่เกิดขึ้น แต่ต้องช่วยหล่อเลี้ยงไม่ให้เกิดการสูญเสียมากไปกว่านี้ สำหรับที่มีความเป็นห่วงคือแรงงานนอกระบบ  10 ล้านกว่าคน รวมทั้งคนชรา คนพิการที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนไว้จะเป็นปัญหาหนักที่สุด เราต้องดูแลให้ดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“ศุภชัย พานิชภักดิ์” ปัดข่าว “บิ๊กตู่” ทาบนั่งเก้าอี้รมว.คลัง 

COVID-19 ของจริงมาแล้ว

"ธีระชัย" ชี้เก้าอี้ "รมว.คลัง" สะท้อนวิกฤตศรัทธาตัวนายกฯ

หลัง“กันยายน”เห็นโฉม“ขุนคลังใหม่”