เสนอรัฐบาลตั้งงบกลาง 3 แสนล.รับมือโควิด-19 ระลอกสาม-สี่

16 พ.ค. 2564 | 09:55 น.

อนุสรณ์ชงเสนอรัฐบาลตั้งงบกลาง 3 แสนล้านบาทรับมือผลกระทบโควิด-19 ระลอกสามและการระบาดระลอกสี่

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภาวิจัยแห่งชาติ สาขาเศรษฐศาสตร์ และอดีตคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า เสนอให้มีการเตรียมงบประมาณสำหรับรองรับผลกระทบระบาดระลอกสามและรับมือกับการระบาดระลอกสี่เอาไว้เลย ต้องเพิ่มงบกลางจากที่มีอยู่ 139,000 ล้านบาทเป็น 300,000 ล้านบาทเป็นอย่างน้อยเพื่อใช้ในโครงการด้านสาธารณสุข การกระตุ้นการจ้างงานและโครงการชดเชยรายได้และช่วยเหลือเยียวยาทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะกลุ่มแรงงานอิสระ

อย่างไรก็ตาม งบที่เสนอให้เพิ่มเติมในงบกลางนั้นขอให้มีการใช้งบกลางอย่างมียุทธศาสตร์ มีประสิทธิภาพไม่รั่วไหล ไม่เอื้อประโยชน์ต่อฐานเสียงทางการเมืองแต่เน้นไปที่ความจำเป็นเร่งด่วนเป็นหลัก ต้องใช้งบกลางให้มีประสิทธิผลในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 (Covid-19) มากกว่าเดิม เพื่อให้สามารถเปิดประเทศได้ภายในปลายปีนี้ ส่วนการเปิดให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานควรดำเนินการด้วยความระมัดระวังและทำผ่านระบบข้อตกลงระหว่างประเทศเท่านั้น ตำแหน่งงานใดที่แรงงานไทยสามารถทำได้ต้องพิจารณาให้ แรงงานไทย ทำก่อน เนื่องจากแรงงานไทยก็ประสบปัญหาการว่างงานอยู่จำนวนมาก

ทั้งนี้  ความไม่สมดุลของตลาดแรงงานในระบบเศรษฐกิจนั้นเกิดขึ้นมามากกว่าหนึ่งทศวรรษแล้ว ปัญหาความไม่สมดุลเกิดขึ้นจากโครงสร้างประชากรในวัยทำงานลดลง ประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น พัฒนาการและการขยายตัวทางเศรษฐกิจทำให้อุปสงค์ในตลาดแรงงานเพิ่มสูงขึ้นในช่วงก่อน Covid-19 ระบาด

ขณะที่อุปทานแรงงานนอกจากเกิดปัญหาในเรื่องประชากรในวัยทำงานลดลงแล้ว ยังสะท้อนถึงปัญหาของระบบการศึกษาไทยที่ไม่สามารถผลิตทรัพยากรมนุษย์ให้รองรับความต้องการและอุปสงค์ในตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงได้ พลวัตของพฤติกรรมในการเลือกอาชีพของคนไทย พลวัตของเทคโนโลยีอุบัติใหม่ทำให้ภาวะความไม่สมดุลตลาดแรงงานเพิ่มขึ้นแต่ยังคงบริหารจัดการได้ผ่านการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจำนวนมากเข้ามาทำงานในบางลักษณะที่ไม่สามารถหาแรงงานไทยทำได้ แรงงานต่างด้าวทักษะต่ำกระจายทำงานอยู่ในภาคการผลิต ภาคบริการ ในระบบเศรษฐกิจไทยไม่น้อยกว่า 3 ล้านคน (ทั้งเข้าเมืองถูกกฎหมายและลักลอบเข้าเมือง) ในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของ Covid-19  

อนุสรณ์ ธรรมใจ

นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า หลังการแพร่ระบาดของ Covid-19 ประกอบกับการมีมาตรการปิดเมือง ปิดกิจกรรม ปิดประเทศ ทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้านทำให้ แรงงานต่างด้าว จำนวนหนึ่งไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ตามปกติและอย่างถูกกฎหมาย จึงก่อให้เกิดการลักลอบเข้าเมืองของแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจำนวนมากโดยไม่มีการกักกันโรคระบาด เป็นส่วนสำคัญในการสร้างปัญหาสาธารณสุขและการแพร่ระบาดหลายระลอกในประเทศไทย การติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อนในภาคการผลิตโรงงานอุตสาหกรรมเวลานี้ส่วนใหญ่ล้วนเป็นผลจากการติดเชื้อของแรงงานต่างด้าวทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ภาคการผลิตทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม ภาคบริการบางส่วน มีความจำเป็นต้องอาศัยแรงงานต่างด้าวและขณะนี้เกิดปัญหาการขาดแคลนแรงงานไม่ต่ำกว่า 300,000-500,000 คนในบางกิจการแม้อัตราการว่างงานโดยรวมเพิ่มขึ้น เนื่องจากในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ แรงงานต่างด้าวใบอนุญาตทำงานหมดอายุเฉลี่ยเดือนละ 100,000 คนและได้เดินทางกลับประเทศไปและยังไม่สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค Covid-19

การแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรมโดยเฉพาะกิจการผลิตและแปรรูปอาหาร ภาคก่อสร้าง จึงเป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนพอๆกับปัญหาวิกฤติการว่างงานในกิจการท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่อง ภาวะความไม่สมดุลของตลาดแรงงานที่รุนแรงนี้แก้ไขได้ยากและต้องใช้เวลา นอกจากนี้ยังขาดแคลนแรงงานทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข แรงงานชาวไทยที่ว่างงานอยู่จำนวนมากก็ไม่สามารถเข้ามาทดแทนการขาดแคลนได้ทันที

การวางแผนกำลังแรงงานอย่างมียุทธศาสตร์และคาดการณ์ล่วงหน้าในการวางแผนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด การมีระบบการรวมศูนย์ข้อมูลตลาดแรงงานทั้งทางด้านอุปสงค์ อุปทานให้สมบูรณ์และถูกต้องเป็นพื้นฐานเบื้องต้นของการบริหารจัดการภาวะวิกฤติความไม่สมดุลของตลาดแรงงานที่เกิดขึ้นในขณะนี้

นอกจากนี้ประเทศไทยยังมีข้อจำกัดของระบบข้อมูลของแรงงานอิสระที่มีอยู่ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 8 ล้านคน (1 ใน 5 ของกำลังแรงงาน) โดยเฉพาะข้อมูลทางด้านรายได้และข้อมูลทางการเงินของครัวเรือนประกอบอาชีพอิสระเหล่านี้ ข้อมูลเหล่านี้มีความสำคัญต่อการออกแบบมาตรการในการช่วยเหลือให้ตรงจุดตรงเป้ามากกว่าเดิม โดยการติดเชื้อในกลุ่มแรงงานต่างด้าวในกิจการก่อสร้างทำให้โครงการก่อสร้างบางส่วนอาจเกิดการชะงักงัน เสนอผู้ประกอบการควรใช้แรงงานไทยที่ว่างงานแทน

นายอนุสรณ์ กล่าวต่อไปอีกว่า การเคลื่อนย้ายของแรงงานว่างงานจากภาคท่องเที่ยวที่มีการเติบโตติดลบมายังภาคการผลิตส่งออก ภาคก่อสร้างที่เริ่มมีการฟื้นตัวบ้างต้องใช้เวลาในการปรับทักษะของแรงงาน และ ต้องมีโครงการ Reskill และ Upskill อย่างเป็นระบบกว่านี้  แรงงานอิสระที่ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย คนขับรถแท็กซี่ คนขับวินมอเตอร์ไซด์รับจ้าง หาบเร่แผงลอย พนักงานบริการในร้านอาหาร พนักงานในสถานบันเทิง คนงานรับจ้างทั่วไปและก่อสร้างรายวัน เป็นจุดเปราะบางที่สุดของตลาดแรงงานไทยตอนนี้ คนเหล่านี้มักจะมีรายได้เป็นรายวัน การที่คนกลุ่มนี้ต้องหยุดงานนาน เขาจะไม่สามารถหาเลี้ยงชีพตัวเองและครอบครัวได้ และ คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่มีหนี้สินครัวเรือนในระดับสูง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :