กรณีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์ในจังหวัดสระบุรีตามขั้นตอนบังคับคดีจากลูกหนี้โครงการรถยนต์คันแรกก่อนพบว่าผู้ครอบครองทรัพย์ในพื้นที่เป็นบุคคลคนละคนกับลูกหนี้ เพียงแต่มีชื่อ–นามสกุลตรงกันจึงยุติการดำเนินการโดยทันทีพร้อมบันทึกข้อเท็จจริงและทำความเข้าใจกับเจ้าของทรัพย์เรียบร้อยแล้ว
ดร.นิตยา โสรีกุล รองอธิบดีกรมสรรพสามิต ในฐานะโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่าประเด็นดังกล่าวสืบเนื่องจากการดำเนินงานตามกระบวนการบังคับคดีจากลูกหนี้ในโครงการรถยนต์คันแรกตามคำพิพากษาของศาล
ซึ่งกรมสรรพสามิตได้รับแจ้งข้อมูลว่าลูกหนี้ตามคำพิพากษาของศาลชื่อนายสนั่น สุขเจริญ มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินแห่งหนึ่งในอำเภอวิหารแดง จังหวัดสระบุรี เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนเข้าสู่ขั้นตอนบังคับคดี เจ้าหน้าที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่สระบุรีลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพทรัพย์สินจริง เพื่อยืนยันว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของลูกหนี้ตามคดีหรือไม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนส่งเรื่องไปยังหน่วยงานบังคับคดีในพื้นที่
เมื่อเจ้าหน้าที่สรรพสามิตพื้นที่สระบุรีลงพื้นที่พร้อมผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พบผู้ครอบครองทรัพย์ ชื่อนายสนั่น สุขเจริญ แต่เป็นบุคคลละคนกับลูกหนี้ตามคดี โดยมีเลขประจำตัวประชาชนและภูมิลำเนา ไม่ตรงกัน ผู้ครอบครองทรัพย์ได้นำเอกสารมายืนยันต่อเจ้าหน้าที่ว่าไม่เกี่ยวข้องกับคดีรถยนต์คันแรก และเมื่อทราบข้อเท็จจริง เจ้าหน้าที่จึงได้ยุติการดำเนินการทันที พร้อมทั้งกล่าวขอโทษ และขอให้มีการลงบันทึกเหตุการณ์ไว้เป็นหลักฐาน
โฆษกกรมสรรพสามิต กล่าวต่อว่า การดำเนินการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบทรัพย์ดังกล่าว เป็นการดำเนินการในขั้นตอนการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทรัพย์ที่กรมสรรพสามิตได้รับแจ้ง ซึ่งเป็น การดำเนินการตามปกติเพื่อความรอบคอบและไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน หากมีการบังคับคดีเกิดขึ้น โดยกรมสรรพสามิตจะมีการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทรัพย์นั้น หากพบว่าทรัพย์นั้นเป็นของลูกหนี้ในโครงการรถยนต์คันแรกจริง จึงจะดำเนินการส่งให้บังคับคดีจังหวัดทำการบังคับคดีต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สรรพสามิตสระบุรีได้ทำการชี้แจงให้ทราบในขั้นตอนการปฏิบัติและได้ทำความเข้าใจกับนายสนั่น สุขเจริญ เพื่อยืนยันว่าไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคดีดังกล่าวแต่อย่างใด
“กรมสรรพสามิตขอยืนยันว่าการลงพื้นที่ตรวจสอบทรัพย์เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่กำหนดไว้ เพื่อให้การบังคับคดีเป็นไปอย่างถูกต้องและรอบคอบ เมื่อพบว่าผู้ครอบครองทรัพย์ไม่ใช่ลูกหนี้ตามคดี เจ้าหน้าที่ได้ยุติการดำเนินการทันที พร้อมชี้แจงและขอโทษเป็นที่เรียบร้อย ทั้งนี้ กรมสรรพสามิตยังคงยึดมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส ถูกต้อง ตามกฎหมาย และคำนึงถึงสิทธิของประชาชนเป็นสำคัญ”