3 พระกาฬ “ของจริง” สยบมือกราดยิงโคราช

09 ก.พ. 2563 | 09:56 น.

รายงานพิเศษ : 3 พระกาฬ “ของจริง” สยบมือกราดยิงโคราช

 

ปฏิบัติการปิดล้อม “เทอมินอล21 โคราช” เมื่อเย็นวันที่ 8 ก.พ. 63 ข้ามคืนมาจนถึงเช้าวันที่ 9 ก.พ. เพื่อช่วยเหลือประชาชนผู้บริสุทธิ์ออกมาจากห้าง และจัดการกับ “จ.ส.อ.จักรพันธ์ ถมมา” ทหารค่ายสุรธรรมพิทักษ์ คนร้ายมือกราดยิงจนสำเร็จ 

หนึ่งในปฏิบัติการนี้ที่โซเชียลมีเดียร์มีการแชร์ภาพชื่นชม คือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. หรือ บิ๊กแป๊ะ นำทีมลงบัญชาการและควงคู่ลูกชายแต่งชุดคอมมานโดเต็มยศ ไล่ล่าคนร้ายภายในห้างเทอมินอลโคราช

3 พระกาฬ “ของจริง” สยบมือกราดยิงโคราช
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากบิ๊กแป๊ะแล้ว ขุมกำลังแบคอัพที่ดีของภารกิจนี้ มีหลายหน่วยร่วมในภารกิจ ก็ล้วนเป็น “ของจริง” ที่วงการสีกากีรู้มือกันดี หนึ่งในนั้นคือ “บิ๊กต่อ-พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล” รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อยู่เบื้องหลังปฏิบัติการครั้งสำคัญในครั้งนี้ถูกพูดถึงและได้รับความสนใจจากสังคม 
 

3 พระกาฬ “ของจริง” สยบมือกราดยิงโคราช

พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล

 

บิ๊กต่อ เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2507 ที่จังหวัดเพชรบุรี มีพี่น้อง 5 คน เป็นบุตรคนสุดท้องของนายนิพนธ์ และนางสมนึก สุขวิมล สมรสกับคุณนิภาพรรณ มีบุตรสาว 2 คน ชื่อของ “บิ๊กต่อ” ได้รับเสียงชื่นชมในโลกโซเชียล หลังงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเมื่อปรากฏภาพนายตำรวจใหญ่ท่านนี้แต่งกายเต็มยศก้มกราบหญิงชราที่มาเฝ้ารับเสด็จฯอยู่ริมถนน  

เส้นทางชีวิตของนายตำรวจท่านนี้ไม่เหมือนนายตำรวจใหญ่รายอื่น จบจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มต้นทำงานเป็นพนักงานอยู่ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง  แต่มีความใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจมาตั้งแต่เด็ก  เมื่อมีการเปิดสอบตำรวจสายสอบสวนจึงไปสอบ หลังจากสอบติดได้เข้าอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมผู้มีคุณวุฒิทางด้านนิติศาสตร์ และรัฐประศาสนศาสตร์เพื่อบรรจุเข้าเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร สายสอบสวน (กอต.) รุ่นที่ 4 

เข้าเป็นตำรวจครั้งแรก ดำรงตำแหน่งเป็นรองสารวัตร อยู่ที่ กองกำกับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 เป็นเวลา 2 ปี โดยในปี 2543 ขณะติดยศร้อยตำรวจโทได้ไปเรียนที่ โรงเรียนสืบสวนที่วิทยาลัยการตำรวจ เรียนจบสอบได้ที่ 3 ตามกติกาผู้ที่สอบได้ที่ 1 และ 2 จะไปอยู่กองปราบ แต่เนื่องจากเวลานั้นคนที่ได้ที่ 1 อยู่กองปราบอยู่แล้ว ขณะที่คนที่ได้ที่ 2 เป็นครูจากศูนย์ฝึกอบรมไม่มา จึงได้ย้ายจาก 191 ปรับมาเป็น รองสารวัตร อยู่ในสังกัดกองปราบปรามเป็นหัวหน้าชุดสืบ อยู่งานแผนก 3 กอง 2 รถวิทยุ 

จากนั้นออกไปขึ้นเป็น สารวัตร ที่ตำรวจท่องเที่ยว อยู่สถานี 3 กองกำกับการ 1 ดูแลรถวิทยุฝั่งธน ต่อมาได้ย้ายจากสายตรวจท่องเที่ยวมาดำรงตำแหน่ง สารวัตรกองร้อยที่ 3 คุมเรื่องของการปราบจราจล ทำอยู่ได้ไม่นาน เมื่อมีการเปลี่ยน ผบ.ตร. คนใหม่ได้สับเปลี่ยนตำแหน่งให้มาคุมรถสายตรวจกองร้อยที่ 5 กระทั่งได้ขึ้นเป็น รองกำกับการหน่วยการพิเศษ 

หลังจากเข้าเรียนโรงเรียนผู้กำกับ เป็น รองผู้กำกับ ก็ได้รักษาการผู้กำกับการหน่วยการพิเศษมาจนครบวาระของการเป็นผู้กำกับ กระทั่งได้ขึ้นเป็น รองผู้การที่กองปราบปราม ดูแลกองกำกับการหน่วยการพิเศษ มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขณะนั้นดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ ขณะนั้นดำรงพระอิสริยยศ เป็นพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรฯ และทำหน้าที่ชุดอารักขาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ โดยรับหน้าที่สำคัญมาตั้งแต่วันนั้น

ต่อมาในวันที่ 27 มกราคม 2562 ทรงมีพระราชกิจจาพระราชทานชื่อให้ใหม่ว่า กองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904

3 พระกาฬ “ของจริง” สยบมือกราดยิงโคราช

พล.ต.ต.สยาม บุญสม

 

ส่วนอีกคน “พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผู้บังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 นายตำรวจระดับพระกาฬที่พูดน้อยแต่ทำจริง ที่รับไม้นั่งเก้าอี้ต่อจากบิ๊กต่อ ดีกรีเป็นอดีต รองผู้บังคับการกองปราบ และรองผบก.ปอท. เรียนจบนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 46  นอกจากเป็นตำรวจที่เก่งในเรื่องเทคโนโลยีแล้ว ยังชำนาญเรื่องงานบริหาร ดูแลกิจการพิเศษ รวมทั้งจุดคัดกรองในงานพระราชพิธีที่สำคัญด้วย

3 พระกาฬ “ของจริง” สยบมือกราดยิงโคราช

ย้อนไปเมื่อ 30 ก.ย. 62 วันส่งมอบตำแหน่ง ที่กองบังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ ส่งมอบตำแหน่งและธงประจำหน่วยให้กับ พ.ต.อ.สยาม โดยในงานมีรอง ผบก.ตร.มหด.รอ.904 ข้าราชการตำรวจในสังกัด เข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียง

หลังเสร็จพิธี พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ ได้กล่าวคำอำลากับข้าราชการตำรวจในสังกัดที่มาร่วมพิธี จากนั้นได้รับมอบดอกกุหลาบแดง จากข้าราชการตำรวจในสังกัด เพื่อเป็นการอำลาและยินดีกับตำแหน่งใหม่ของ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ พร้อมตั้งแถวยืนส่งขึ้นรถยนต์ส่วนตัว โดยระหว่างขึ้นรถพล.ต.ต.ต่อศักดิ์ มีสีหน้ายิ้มแย้มทักทายผู้ใต้บังคับบัญชาที่มาร่วมในพิธี

3 พระกาฬ “ของจริง” สยบมือกราดยิงโคราช

ซึ่งก่อนปฏิบัติการที่โคราช พล.ต.ต. สยาม เปิดเผยว่า “ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้นำกำลังตำรวจหน่วยคอมมานโด เดินทางไปปฏิบัติการร่วมที่ จ.นครราชสีมา โดยจะร่วมกับหน่วยหนุมาน กองปราบฯ ตำรวจหน่วยนเรศวร 261 ตชด. และทหาร โดยกำลัง 12 นาย ถึงที่เกิดเหตุแล้วโดยเฮลิคอปเตอร์ และตัวเองกำลังนำกำลังไปสมทบอีก 12 นาย 

3 พระกาฬ “ของจริง” สยบมือกราดยิงโคราช

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช

 

และหนึ่งหน่วยงานี่ พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ พูดถึงก็คือกองปราบปราม นำโดย “พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช” ผู้บังคับการกองปราบ นำคอมมานโดลุยภารกิจนี้เช่นกัน  พล.ต.ต.จิรภพ  ชื่อเล่น “ก้อง”  เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2518 อายุ 43 ปี เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 34 นักเรียนนายร้อยรุ่นที่ 50 จบปริญญาโท คณะ MIS Management Information System (การบริหารข้อมูลสารสนเทศ) Central Michigan University สหรัฐอเมริกา จบปริญญาเอกวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขาธุรกิจเทคโนโลยีและการจัดการนวัตกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จบหลักสูตรเอฟบีไอรุ่นที่ 271 จากสหรัฐอเมริกา หลักสูตรวิเคราะห์ข่าวกรองอาชญากรรม ฯลฯ 

เริ่มรับราชการตำแหน่งแรกเป็นรองสารวัตรฝ่ายปฏิบัติการ 3 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) เป็นรองสารวัตร แผนก 2 กก. 1 บก.ป. ก่อนติดยศ พ.ต.ต. เป็นสารวัตรตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต จากนั้นก็ขึ้นเป็น รอง ผกก.ท่องเที่ยวภูเก็ต และได้ขึ้นเป็น ผกก.ท่องเที่ยวภูเก็ต ต่อมาได้ย้ายกลับถิ่นเก่ามาเป็น ผกก.1 บก.ป. เมื่อปี 2557 ขึ้นเป็นรอง ผบก.ป.เมื่อเดือน มิ.ย.2560 กระทั่งล่าสุดขึ้นเป็น ผบก.ป.หรือ ผู้การประเทศไทยคนที่ 36 ต่อจาก พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด

3 พระกาฬ “ของจริง” สยบมือกราดยิงโคราช

ซึ่งในวันรับมอบตำแหน่งต่อจาก พล.ต.ต.ไมตรี นั้น พล.ต.ต.จิรภพ ได้ลั่นวาจาเอาไว้ว่า “รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาดำรงตำแหน่ง ผบก.ป.อันทรงเกียรติ ก่อนอื่นขอขอบคุณผู้บังคับบัญชาทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจ ให้มาดำรงตำแหน่งนี้รวมถึงพี่น้องข้าราชการกองปราบทุกท่านตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ได้ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันทำงานจนประสบความสำเร็จเป็นที่ยอมรับของพี่น้องประชาชน”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง