สอนให้ลูกรักรู้จักคุณค่าของเงิน

11 มิ.ย. 2564 | 10:25 น.

สอนให้ลูกรักรู้จักคุณค่าของเงิน : คอลัมน์ มันนี่ ดีไอวาย โดยบริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) 

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกับเทคนิคการวางแผนทางการเงินดีๆ ในคอลัมน์มันนี่ ดีไอวาย 4.0 กันนะครับ ปัจจุบันจากสถานการณ์ของโควิดระลอกใหม่ ทำให้หลายครอบครัวได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไป แต่ที่แน่ๆ ที่ทุกครอบครัวต้องเจอเลย ก็คือ การเลื่อนการเปิดเทอมของลูกๆ

 

ทำให้คุณพ่อคุณแม่ ต้องมีคนคอยดูลูกอยู่ที่บ้านกันมากขึ้น ส่งผลให้การที่ลูกอยู่บ้านมากขึ้น บางบ้านก็จะมีค่าใช้จ่ายมากขึ้นตาม ทั้งในเรื่องของการกิน หรือการซื้อของออนไลน์ ที่ปัจจุบันมันช่างแสนสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเหนื่อยออกไปข้างนอก ทำให้การใช้จ่าย ไม่ได้คิดหนักเหมือนก่อน แต่อย่างไรก็ตาม การซื้อของออนไลน์ก็มีข้อดีของมัน หากเราซื้อตามโปรโมชั่น ก็อาจได้ราคาที่ถูกกว่าเสียด้วยซํ้า ทั้งยังเป็นการประหยัดค่าเดินทางไปซื้อของได้อีกด้วย

 

ดังนั้น ไม่ว่าจะใช้จ่ายอย่างไร รูปแบบไหน ก็ควรที่จะมีการอธิบายคุณลูกไปในตัวด้วย เพราะการที่เราใช้จ่ายอย่างไร ก็มักจะเป็นต้นแบบให้ลูกของเราใช้จ่ายแบบนั้น เพราะฉะนั้น หากต้องการสอนให้ลูกรัก รู้จักคุณค่าของเงิน ก็ควรเริ่มที่ตัวเรากันนะครับ วันนี้ผมจึงมีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มาช่วยสอนให้ลูกรักของเรา รู้จักคุณค่าของเงินกันมากยิ่งขึ้น

 

1.เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก

ข้อนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ครับ เพราะการสอนให้ลูกรัก รู้จักคุณค่าของเงิน ก็คือ การที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก เมื่อลูกเห็นสิ่งที่พ่อแม่ทำก็จะเกิดการซึมซับและสร้างนิสัยให้กับเค้าโดยไม่รู้ตัว เช่น การออมเงิน คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะสอนลูกและออมไปด้วยกัน พาลูกไปเปิดบัญชีเงินฝากและฝากเงินอย่างสมํ่าเสมอ หรือคุณพ่อคุณแม่อาจจะสอนวิธีการทำรายการรายรับ-รายจ่ายแบบง่ายๆ ให้กับคุณลูก ให้ลูกรู้จักการจดรายการเงินที่ได้เมื่อได้รับจากพ่อแม่ และจดรายการที่จ่ายไปแต่ละวัน และสรุปรายการทุกๆ สัปดาห์ หรือทุกเดือนๆ เพื่อสร้างวินัยให้กับคุณลูกตั้งแต่เด็ก 

 

2.สอนให้รู้จักค่าของเงิน

สิ่งที่สำคัญประการแรกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ก็คือ การปลูกฝังให้ลูกได้รู้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์นั้นไม่ได้หามาได้ง่ายๆ โดยควรจะต้องสอนลูกเสมอว่าสิ่งใดเป็นสิ่งที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นเพื่อที่ลูกจะได้เห็นค่าของเงิน ตัวอย่างง่ายๆ ที่หลายๆ บ้านเจอก็คือ เด็กๆ มักจะเอาของเล่นใหม่ๆ มาอวดกันทำให้ลูกอยากได้ บางครั้งเป็นของที่ราคาค่อนข้างสูง โดยถ้าคุณพ่อคุณแม่ตามใจคุณลูกทุกครั้งก็อาจทำให้คุณลูกนั้นเสียนิสัยได้ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรต้องสอนให้ลูกเห็นถึงความจำเป็น และไม่ตามใจจนเสียนิสัย 

3.ฝึกให้รู้จักการบริหารเงิน

เทคนิคการฝึกให้ลูกได้รู้จักการบริหารเงินนี้ก็จะช่วยฝึกให้ลูกรู้จักสร้างวินัยทางการเงินได้ โดยอาจฝึกด้วยวิธีการง่ายๆ เช่น เปลี่ยนจากการให้ค่าขนมลูกจากรายวันเป็นรายสัปดาห์แทน แล้วให้ลูกได้บริหารเงินด้วยตัวเองให้เพียงพอในแต่ละสัปดาห์ หลังจากนั้นเมื่อลูกบริหารได้ก็อาจเพิ่มเป็นรายเดือนเพื่อฝึกให้ลูกได้บริหารเงินในระยะยาวมากขึ้น และเมื่อคุณลูกมีเงินเหลือเก็บก็ชื่นชม และสอนให้นำเงินไปฝากธนาคารเพื่อให้เกิดผลตอบแทนที่มากขึ้นต่อไป 

 

4.ให้เหตุผลเมื่อไม่ซื้อสิ่งของให้

ในกรณีที่ลูกอยากได้สิ่งของแต่คุณพ่อคุณแม่ไม่ซื้อให้ ก็ควรที่จะให้เหตุผลในการบอกปฏิเสธเมื่อไม่ซื้อสิ่งของต่างๆ ให้แก่ลูกด้วย เพราะหากไม่อธิบายเหตุผลจะยิ่งทำให้ลูกงอแง ไม่เข้าใจ และเกิดนิสัยก้าวร้าวในที่สุด ในทางกลับกันเมื่อเราค่อยๆ อธิบายเหตุผลความจำเป็นกับเค้า ก็จะทำให้เค้าเข้าใจและสร้างนิสัยที่ดีต่อไป 

5.อยากซื้อของต้องรู้จักออมเงิน

นอกจากการให้เหตุผลเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่ซื้อของให้แก่ลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีการสอนให้ลูกรู้จักการเก็บออมเงินเพื่อซื้อสิ่งของที่อยากได้แทน โดยฝึกให้ลูกเก็บออมเงินด้วยตัวเองและนำเงินนั้นไปซื้อของที่อยากได้ เพราะนอกจากลูกจะเห็นค่าของเงินแล้วลูกจะยังเห็นค่าของสิ่งของสิ่งนั้นด้วย ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมที่จะสอนในเรื่องสิ่งของที่จำเป็นและไม่จำเป็นด้วยนะครับเพื่อที่จะได้เป็นการฝึกคุณลูกไปตั้งแต่เด็ก 

 

เรื่องวินัยทางการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญซึ่งคุณพ่อคุณแม่ควรต้องฝึกให้ลูกมีวินัยตั้งแต่เด็ก เพราะเด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจใช้ 5 เทคนิคง่ายๆ ที่ผมนำมาเสนอนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการสอนลูกก่อน ผมเชื่อแน่ว่าถ้าทุกบ้านสอนให้ลูกมีวินัยทางการเงินตั้งแต่เด็ก เมื่อเค้าโตขึ้นเค้าจะสามารถบริหารจัดการและประสบความสำเร็จในการวางแผนทางการเงินอย่างแน่นอนแล้วกลับมาพบกันใหม่ในครั้งหน้า สำหรับวันนี้สวัสดีครับ 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,683 วันที่ 30 พฤษภาคม - 2 มิถุนายน พ.ศ. 2564