ลงทะเบียน"คนละครึ่ง" ครบ 10 ล้านสิทธิแล้ว
ปิดจ๊อบ! 27 ตุลาคม ประชาชนแห่ลงทะเบียน "คนละครึ่ง " www.คนละครึ่ง.com เต็มแล้วสิบล้านสิทธิ
วันที่ 27 ตุลาคม 2563 เวลา 21.40 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สิทธิสำหรับการลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง นั้นครบ 10 ล้านคนตามที่รัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายไว้แล้ว ซึ่งตามข้อมูลที่รัฐฯได้แจ้งมาหากมีผู้ลงทะเบียนขอรับสิทธิในโครงการคนละครึ่งครบ 10 ล้านคนเมื่อไรก็จะปิดระบบลงทะเบียนทันที
ทั้งนี้ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com แล้ว ต้องรอ SMS แจ้งรับสิทธิ เมื่อได้รับการ SMS ยืนยัน ก็ดาวน์โหลด + ติดตั้ง และยืนยันตัวตนบนแอปพลิเคชัน เป๋าตัง ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันหลักในการใช้จ่าย โดยเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิ หรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก
ขณะที่การหาร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการก็สามารถคลิกเข้าไป www.คนละครึ่ง.com แล้วคลิกไปที่ ค้นหาร้านค้า,หลังจากนั้นก็เลือกค้นหาร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง และเปิดตำเเหน่งอุปกรณ์/ตำเเหน่งที่ตั้งมือถือ ต่อจากนั้นเลือก พื้นที่ไกล้ฉันและ เลือกประเภทร้านที่อยากไปใช้บริการ โดยจะมีให้เลือก 4 หมวดได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม ,ธงฟ้า ,กิจการOTOP และ สินค้าทั่วไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเซียล รับซื้อสิทธิ "คนละครึ่ง"
www.คนละครึ่ง.com ลืมรหัส “แอปเป๋าตัง” ลงทะเบียนเติมเงินG-Wallet ทำอย่างไรเช็กที่นี่
www.คนละครึ่ง.com สินค้า 4 ชนิด คนละครึ่ง ห้ามร้านค้าจำหน่ายมีอะไรบ้างเช็กที่นี่
ส่วนข้อมูลล่าสุดของร้านที่ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการมีกว่า 3.8 แสนร้านค้า โดยกระทรวงการคลังรายงานว่า ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2563 มียอดการใช้จ่ายสะสม 704.5 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 362.5 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 342 ล้านบาท
ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 232 บาทต่อครั้ง โดยใช้จ่ายครบทุกจังหวัด และจังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา และนครศรีธรรมราช
ทั้งนี้โครงการ "คนละครึ่ง" มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก ผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น โดยภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป ผ่านฝ่ายของผู้ซื้อ 50 % โดยไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน ตลอดระยะเวลาโครงการ เป็นวงเงินรวม 30,000 ล้านบาท