โค้งท้าย “อบจ.” เดือด ร้องเอาผิด “ทักษิณ-เพื่อไทย”

15 ธ.ค. 2563 | 11:40 น.

โค้งท้าย “อบจ.” เดือด ร้องเอาผิด “ทักษิณ-เพื่อไทย” : คอลัมน์คันฉ่องส่องการเมือง ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3636 ระหว่างวันที่ 17-19 ธ.ค.2563 โดย...นาย NO VOTE

 

+++ เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และ สมาชิก อบจ. แม้จะเป็นการเมือง “ระดับท้องถิ่น” แต่ก็มีความเข้มข้น มีเรื่องราวที่พัวพันไปถึงการเมืองระดับชาติ
 

+++เมื่อ “นักร้อง” อย่าง ศรีสุวรรณ จรรยา ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ไต่สวนสอบสวน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีได้เขียนจดหมายถึง “คนเชียงใหม่” ให้สนับสนุนผู้สมัครนายก อบจ.คนหนึ่ง ซึ่งสังกัด เพื่อไทย และหลังจากนั้น ทักษิณ ก็ทวิตเตอร์รัวๆ ออกมามากมาย
 

+++ ศรีสุวรรณ ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีดังกล่าวอาจเป็นการเข้าข่ายพรรคการเมืองยินยอม หรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่น ซึ่งมิใช่สมาชิก กระทําการอันเป็นการควบคุม ครอบงํา หรือชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม อันเป็นการฝ่าฝืน ม.28 และ ม.29 ของ พรป.พรรคการเมือง 2560 ซึ่งอาจเป็นเหตุให้พรรคการเมืองถูกยุบพรรค ตาม ม.92 (3) และ ม.108 ได้ จึงร้องเรียนต่อ กกต.ให้ดำเนินการไต่สวนวินิจฉัยเอาผิดพรรคการเมืองและบุคคลที่มิใช่สมาชิกพรรคที่กระทำผิดกฎหมาย เสนอให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยสั่งลงโทษต่อไป


+++ ทำให้บรรดา “พลพรรคเพื่อไทย” ต่างดาหน้าออกมาตอบโต้ทันควัน ไม่ว่าจะเป็น ชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รวมถึง สุทิน คลังแสง ที่ชี้แจงว่า เมื่อไปดูระเบียบว่าด้วยการเลือกตั้ง อบจ. ก็เปิดให้คนภายนอกช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งได้ แต่ถ้ามีการใช้เงินเกิน 5,000 บาท ต้องให้ผู้สมัครแจ้งต่อ กกต.เท่านั้น และเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ที่เปิดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งช่วยผู้สมัครหาเสียงได้ ดังนั้น ไม่มีอะไรสุ่มเสี่ยงที่จะขัดกฎหมาย ส่วนจะขัดกฎหมายพรรคการเมืองในเรื่อง “ครอบงำพรรค” หรือไม่ นายทักษิณ ไม่เคยพูดถึงพรรคเพื่อไทย
 

+++ พร้อมระบุว่า บุคคลภายนอกต้องมีพฤติการณ์ชี้นำกรรมการบริหารพรรค และต้องรู้เห็นเป็นใจ แต่การเขียนจดหมายเป็นการช่วยเหลือส่วนตัว ไม่ได้ให้กรรมการบริหารพรรคไปช่วยผู้สมัคร ดังนั้น มองว่าคนร้องมี “เป้าหมายพิเศษ” ทั้งยืนยันว่า นายทักษิณ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องพรรคเพื่อไทย
 

+++ สำหรับจดหมายของ นายทักษิณ ระบุว่า “ปี้น้องจาวเจียงใหม่ตี้เคารพฮักทุกท่านครับ วันนี้ผมต้องเขียนจดหมายมาถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่เพื่อขออย่าได้ทิ้งผมนะครับ ผมอาจจะถูกทิ้งโดยนักการเมืองบางคนไปบ้าง ผมรู้สึกเฉยๆ ครับ แต่ถ้าพี่น้องชาวเชียงใหม่บ้านเกิดของผมทิ้งผม ผมคงเสียใจมาก


+++ ผมอยู่ต่างประเทศกับน้องสาว (นายกฯปู) ก็อยู่ค่อนข้างว่างมีงานไม่มาก เรามาปรึกษากันว่า วันนี้ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นฝ่ายค้านเราไม่มีโอกาสแชร์ประสบการณ์และความรู้ในการแก้ปัญหาประเทศได้ ก็เลยคิดว่าน่าจะช่วยคิดแก้ปัญหาระดับท้องถิ่น โดยเฉพาะเชียงใหม่บ้านเกิดของเราที่เรารู้ปัญหามากที่สุดได้ เลยต้องรีบเขียนจดหมายมาฝากผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่เบอร์ 1 พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง) เพื่อผมจะได้ใช้สมองซึ่งยังใช้การได้ดีอยู่ร่วมกับน้องสาวแนะนำการแก้ปัญหาของชาวเชียงใหม่ผ่านก้องไป ผมก็จะรู้สึกดีว่าได้ใช้เวลาว่างอยู่ต่างประเทศบวกกับประสบการณ์ที่ได้เห็นอะไรมากมายในต่างประเทศมาช่วยคนที่อยู่จังหวัดบ้านเกิดของเราได้
 

+++ อยากให้ท่านนึกถึงตอนสมัยไทยรักไทย เชียงใหม่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สวยงาม มีเศรษฐกิจดี พืชผลเกษตรมีราคาดี คนค้าขายทุกระดับค้าง่ายขายคล่อง ยาเสพติดก็หมดไป สิ่งดีๆเหล่านี้ต้องกลับมาสู่เชียงใหม่โดยเร็ว ถ้าเรามีช่องทางเสนอความคิดให้นายกอบจ.เชียงใหม่ โดยเฉพาะให้ก้อง นำไปทำเพื่อรับใช้ชาวเชียงใหม่ก็ถือว่าเราได้ช่วยพี่น้องชาวเชียงใหม่บ้านเกิดของเราแล้ว
 

+++ ผมขอฝากตวยเน่อ ถ้ายัง บ่าลืมเฮาตึงสองคนเตื่อ ขอได้โปรดเลือก พิชัย เลิศพงศ์อดิศร (ก้อง) เบอร์ 1 ฮื้อกำเน่อ กึ๊ดเติงหาเจียงใหม่บ้านเฮาขนาดครับ”
 

+++ กรณีนี้กลายเป็น “เผือกร้อน” ที่อยู่ในมือ “กกต.” สุดท้ายแล้วผลจะเป็นเช่นไร ต้องติดตาม...