ซีพีขนทีมมายกยวง ยึด!สภาวิชาชีพบัญชี

06 ส.ค. 2563 | 07:45 น.

ซีพีขนทีมมายกยวง ยึด!สภาวิชาชีพบัญชี : คอลัมน์ห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ หน้า 20 ฉบับที่ 3,598 วันที่ 6 - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2563 โดย... พรานบุญ

 

มาละเหวย มาละวา ตีกลองสามช่า พ่อพรานฯจะโซโล่......
เพื่อนฉัน เป็นนักบัญชี ไม่เคยเห็น ไม่เคยมี จะลากจะตี กันตึงตัง...
22 สิงหาคมนี้ ยักษ์ใหญ่ซีพีจะรวมพล สร้างขุมพลัง...
ลากขนคนมาเลือกตั้ง สำแดงฤทธิ์ สร้างพลัง กันที่สภาบัญชีฯ.... 

นังบ่าง นังชะนี และอีเห็น ป้องปากโห่ร้อง เต้นรำกันว่า นับตั้งแต่ มีการตราพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ 2547 เป็นต้นมา จนเกิด “สภาวิชาชีพบัญชี” สถาบันวิชาชีพทางการบัญชี  สมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย ก่อนบรรดานักบัญชีจะรวมพลังกันลงมติวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2548 ยกเลิกสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย

ก่อนจะมีการโอนสินทรัพย์สุทธิและกิจการทั้งหมดของสมาคมนักบัญชีมาเป็นของ “สภาวิชาชีพบัญชี” และมีการลงมติแบบเอกฉันท์เลือก ศาสตราจารย์เกษรี ณรงค์เดช เป็นนายกสภาวิชาชีพบัญชีคนแรก

ไม่เคยมีครั้งไหนที่การเลือกนายกสภาวิชาชีพบัญชี จะคึกคักเปี่ยมไปด้วยสีสัน มีการระดมขุมกำลังกันเพื่อเลือก “นายกสภาวิชาชีพบัญชี” คนใหม่ ในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมไบเทค เรียกว่ามีการขนคน สร้างทีมแข่งกันหนักหน่วงมากมายเหมือนกับการเลือกตั้ง ส.ส.ก็ไม่ผิด

เสียงอื้ออึงออกมาจากบรรดาสมาชิกสภาวิชาชีพบัญชี 85,597 คน แยกเป็นก กทม. 46,764 คน สมาชิกใน 13 สาขาอีก 17,798 คน สมาชิกในต่างจังหวัดนอกเหนือจาก 13 สาขาในหัวเมืองอีกราว 21,035 คนว่า “การเลือกนายกฯ ครั้งนี้หนักหน่วง มันส์ยกร่อง ฟักทองแตงไทย” โดยการเลือกตั้งคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชีรอบนี้แข่งกัน 2 ทีม
 

ทีมแรก นำทัพโดย เสี่ยจุ๊ก-จักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล นายกสภาวิชาชีพบัญชีคนปัจจุบัน ที่หมดวาระลงหลังดำรงตำแหน่งมาตั้งแต่ปี 2560-2563 ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลัง และรองประธานกรรมการคนที่ 2 บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) อดีตรักษาการดีดีการบินไทย จะเกษียณอายุราชการลงในปีนี้นี่แหละ

นางสุวิมล กฤตยาเกียรณ์ นายทะเบียน เป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท สอบบัญชี ดี ไอ เอ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และกรรมการตรวจสอบบริษัทจดทะเบียน

นางสาวชวนา วิวัฒน์พนชาติ เหรัญญิกคนปัจจุบัน เป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท สำนักงานปิติเสวี จำกัด ผู้ตรวจสอบบัญชีชื่อดัง และกรรมการตรวจสอบบริษัทจดทะเบียน

อัญชลี มณีท่าโพธิ์ ปัจจุบันเป็นนายกสมาคมสำนักงานบัญชีไทย และกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ.เอ็ม.บิส จำกัด

นายสุพจน์ สิงห์เสน่ห์ อุปนายกคนที่หนึ่ง และประธานคณะกรรมการวิชาชีพบัญชี ด้านการสอบบัญชี ปัจจุบันเป็นกรรมการตรวจสอบ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประธานกรรมการตรวจสอบกองทุนประกันสังคม สุพจน์นั้นถือว่าเครดิตดีเป็นประธานบริษัท เคพีเอ็มจี ภูมิไชย สอบบัญชี จำกัด

นายสุริยะ ธีรวัฒนสาร กรรมการมูลนิธิผู้สอบบัญชีภาษีอากร และที่ปรึกษาสมาคมผู้สอบบัญชีภาษีอากรแห่งประเทศไทย

นายประเสริฐ หวังรัตนปราณี อุปนายกคนที่สาม และประธานคณะกรรมการวิชาชีพบัญชีด้านการทำบัญชี ที่ปรึกษาประจำคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา และกรรมการในคณะกรรมการตรวจสอบกองทุนประกันสังคม อดีตรองกรรมการผู้จัดการธนาคารซีไอเอ็มบีไทย

นายวินิจ ศิลามงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KPMG ในประเทศไทย

น.ส.ภัทรลดา สง่าแสง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ด้านบัญชีและการเงิน บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

นายธนะชัย สันติชัยกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) และกรรมการตรวจสอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

นายอนันต์ สิริแสงทักษิณ กรรมการและประธานคณะกรรมการวิชาชีพบัญชีด้านการบัญชีภาษีอากร คนปัจจุบัน อดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร กระทรวงการคลัง

นายศิลปพร ศรีจั่นเพชร หัวหน้าภาควิชาบัญชี คณะพาณิชย ศาสตร์และบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ทีมนี้เครดิตดีและส่วนใหญ่เป็นเคราะห์กรรมการสภาวิชาชีพบัญชีชุดที่กำลังจะหมดวาระลงนี่แหละ แต่

ทีมที่ 2 นำทัพโดย นายวรวิทย์ เจนธนากุล อุปนายกคนที่สอง และประธานคณะกรรมการวิชาชีพบัญชี ด้านการบัญชีบริหาร ในคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชีชุดปัจจุบันนี่แหละที่ชักธงรบ  วรวิทย์นั้นปัจจุบันเป็นกรรมการบริหาร และรองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF และเป็นเจ้าของ 88 การ์มองเต้ รีสอร์ต ที่โคราช

ไม่รู้อะไรดลใจ หรือขัดหูขัดตากับการทำงานของคณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชีอะไร แต่วรวิทย์จึงขนทัพนักบัญชีจากเครือเจริญโภคภัณฑ์มาแบบยกเข่งร่วม 6 คน เพื่อชิงชัยในเก้าอี้นายกสภาวิชาชีพบัญชีให้ได้ ทีมที่ขนมาประกอบด้วย

นายฉัตรชัย วิไลรัตนสุวรรณ ปัจจุบันทำงานที่บริษัท ซีพีแรม จำกัด หนึ่งในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ดำเนินการผลิตและจัดจำหน่ายอาหารพร้อมรับประทาน และเบเกอรี่อบสด

นายเฉลิมชนม์ กุณฑลวรรณ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF

นางสาวสุภาณี ศรีสถิตวัตร ปัจจุบันทำงานที่บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF

นางสาวเยาวลักษณ์ ชาติบัญชาชัย อดีตพนักงานบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จำกัด และเคยเป็นที่ปรึกษาคณะกรรมการบรรษัทภิบาลของ บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) หรือ CPALL


นายธีรชัย อรุณเรืองศิริเลิศ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ประจำภาควิชาการบัญชี คณะพาณิชยศาสตร์และบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

นายปิยะพงศ์ แสงภัทราชัย ผู้บริหารงานที่ปรึกษางานขายผลิต ภัณฑ์ตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)

นายพิชิต ลีละพันธ์เมธา ผู้อำนวยการสำนักงานบัญชีกลาง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน)

นางสาวกรรณิการ์ วิภาณุรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรินทร์ ออดิท จำกัด

นายพงษ์อมร นิ่มพูลสวัสดิ์ อดีตผู้บริหารด้านบัญชีและการเงิน (CFO) บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จํากัด (มหาชน) หรือเอไอเอส

นายสมพงษ์ ตัณฑพาทย์ อดีตที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ การจัดเก็บภาษี กรมสรรพากร

นายเกรียงไกร บุญเลิศอุทัย รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หลายคนสงสัยว่า คณะกรรมการสภาวิชาชีพบัญชีมีอำนาจหน้าที่อะไร ทำไมยักษ์ใหญ่อย่างผู้บริหารกลุ่มซีพีจึงขยายอาณาจักรออกมาด้วยการระดมคนมากว่า 

สภาวิชาชีพบัญชีมีหน้าที่ บริหารกิจการของสภาวิชาชีพบัญชีให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ทํากิจการที่อยู่ในอํานาจหน้าที่ของสภาวิชาชีพบัญชีตามพ.ร.บ. มีอำนาจเสนอร่างข้อบังคับสภาวิชาชีพบัญชีในกิจการต่างๆ ที่กําหนดไว้ในพ.ร.บ.ต่อที่ประชุมใหญ่สภาวิชาชีพบัญชี จัดให้มีการประชุมใหญ่ ออกระเบียบเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามพ.ร.บ.วิชาชีพบัญชี

หน่วยงานนี้มีอำนาจออกใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี รับรองประกาศนียบัตรสถานศึกษาที่สอนการบัญชี รับรองนักบัญชีแต่ละคนว่าชำนายอะไรแค่ไหน ออกข้อบังคับด้านบัญชี ออกมาตรฐานด้านบัญชี เป็นตัวแทนของนักบัญชีทั่วประเทศเชียวแหละ

เบี้ยประชุมกรรมการก็น้อยแค่ปีละ 285,000 บาท เฉลี่ยคนละ 2-3 หมื่นบาทเท่านั้น มีรายได้ปีละ 199 ล้านบาท มีรายจ่ายปีละ 142 ล้านบาท แถมมีภาระค่าคดีความอยู่กว่า 16 ล้านบาท มีทุนสะสมแค่ 470 ล้านบาท

ร้ายกว่านั้นยังมีมรสุมรุมเร้าจากการนำเงินรายได้ไปลงทุนในหุ้นกู้อายุ 3 ปี ของการบินไทยที่ต้องถือจนครบวาระอีก 30 ล้านบาท ปัจจุบันต้องถูกชักดาบแช่แข็งไว้จากคำสั่งของศาลล้มละลายกลาง

ไม่รู้มีอะไรดี นังบ่าง นังชะนี และอีเห็นทราบข่าวมาว่า กลุ่มผู้สมัครบางทีมขนคน พนักงาน นักบัญชีที่ขึ้นทะเบียนไว้กว่า 6,000 คนมาลงคะแนนเพื่อโหวตลงมติเลือก “คณะกรรมการ” และเป็นกระดานหกไปสู่ “นายกสภาวิชาชีพบัญชี”

มันต้องมีของดีในอนาคตแน่ๆ เชื่อหัวพ่อพรานเถอะ