ข้าวเปลือกราคาสูงสุดรอบ 5 ปี โค่นอ้อยปลูกข้าว

29 เม.ย. 2564 | 19:10 น.

ฝนมา กระแสปลูกข้าวข้าวบูม ชาวนาฟื้นนาร้าง ชาวไร่โค่นอ้อยปลูกข้าว กรมการค้าภายใน เอกซเรย์ผลผลิต ความต้องการข้าวโลกปี 2564 พุ่ง คาดผลผลิตข้าวเปลือกไทยกว่า 30 ล้านตัน นายกฯโรงสี ย้ำซื้อทุกสายพันธุ์ “เกรียงศักดิ์” ชี้แม้ราคาปรับลดลงเหลือ 7 พัน แต่ยังสูงสุดรอบ 5 ปี

กรมอุตุนิยมวิทยา  เตรียมประกาศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนของปี 2564 ประมาณกลางสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคมนี้ ชาวนาส่วนใหญ่เริ่มเพาะปลูกข้าวหรือเตรียมแผนเพาะปลูกข้าวในช่วงต้นฤดูฝนเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝนที่จะสิ้นสุดราวกลางเดือนตุลาคม ทั้งนี้ เพื่อลดผลกระทบราคาข้าวเปลือกที่อาจลดลง ข้าวชนิดไหน ปลูกแล้วโรงสีต้องการ ไม่ซ้ำรอยโดนแบนอย่าง “ข้าวหอมพวง” หรือ “ข้าว กข61” ที่โรงสีปฏิเสธการรับซื้อ หรือยังรับซื้อแต่โดนกดราคาต่ำกว่าข้าวชนิดเดียวกันทุกฝ่ายต้องเตรียมแผนรองรับ

แหล่งข่าวกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การผลิตข้าวโลกปี 2563/64 คาดการณ์จะเพิ่มขึ้น โดยผลผลิตข้าวของประเทศผู้ผลิตหลักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ได้แก่ จีน อินเดีย ไทย และสหรัฐฯ สอดคล้องกับการบริโภคข้าวโลกคาดจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากแนวโน้มการบริโภคในประเทศหลัก เช่น จีน อินเดีย สหรัฐฯ และบังกลาเทศ ยังคงเพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้การค้าข้าวโลกเพิ่มขึ้น จากประเทศผู้ส่งออกสำคัญ เช่น ไทย อินเดีย เวียดนาม ปากีสถาน สหรัฐฯ และจีน มีแนวโน้มส่งออกเพิ่มขึ้น และผู้นำเข้าหลัก เช่น บังกลาเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โกตดิวัวร์ ไนจีเรีย สหภาพยุโรป มีแนวโน้มนำเข้าเพิ่มขึ้นด้วย ขณะสต๊อกข้าวโลกคาดการณ์ว่าลดลง โดยจีนมีสต็อกข้าวมากที่สุดราว 116.40 ล้านตัน รองลงมา คือ อินเดีย 28.90 ล้านตัน และ ไทย 4.28 ล้านตัน

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการวางแผนการผลิตข้าว ปีการผลิต 2563/64 รวม 69.409 ล้านไร่ คาดการณ์ผลผลิตรวม 30.86  ล้านตันข้าวเปลือก จำแนกเป็น รอบที่ 1 พื้นที่ 59.88 ล้านไร่ คาดการณ์ผลผลิต 24.73 ล้านตันข้าวเปลือก และรอบที่ 2 พื้นที่ 9.52 ล้านไร่ คาดการณ์ผลผลิต 6.12 ล้านตันข้าวเปลือก โดยสามารถปรับสมดุลการผลิตได้ในการวางแผนรอบที่ 2 หากราคามีความอ่อนไหว ความต้องการใช้ข้าวลดลง และสถานการณ์น้ำน้อย รวมทั้งการปรับลดพื้นที่การปลูกข้าวไปปลูกพืชอื่น โดยจะมีการทบทวนโครงการลดรอบการปลูกข้าวก่อนฤดูกาลเพาะปลูกข้าวรอบที่ 2

สำหรับการจัดทำพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการจัดทำพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าว ปี 2563/64 รอบที่ 1 จำนวน 59.88 ล้านไร่ แยกเป็น 1. ข้าวหอมมะลิ 27.50 ล้านไร่ ผลผลิต 9.16 ล้านตันข้าวเปลือก 2. ข้าวหอมไทย 2.08 ล้านไร่ ผลผลิต 1.39 ล้านตันข้าวเปลือก 3. ข้าวเจ้า 13.48 ล้านไร่ ผลผลิต 8.19 ล้านตันข้าวเปลือก 4. ข้าวเหนียว 16.25 ล้านไร่ ผลผลิต 5.77 ล้านตันข้าวเปลือก และ 5.ข้าวตลาดเฉพาะ 0.55 ล้านไร่ ผลผลิต 0.21 ล้านตันข้าวเปลือก

ในภาพรวมพื้นที่เพาะปลูก พื้นที่เก็บเกี่ยว และผลผลิตข้าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยในช่วงนาปีมีการเพาะปลูกข้าวเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีปริมาณน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก ประกอบกับราคาข้าวเปลือกที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์ดี รวมทั้งภาครัฐมีมาตรการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จูงใจเกษตรกรขยายเนื้อที่เพาะปลูกจากที่นาที่ปล่อยว่างเมื่อปีที่แล้ว และบางส่วนปลูกแทนอ้อยโรงงานที่ครบอายุและราคามีแนวโน้มลดลง และในช่วงนาปรังเกษตรกรยังคงปลูกข้าวนาปรังเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาที่เกษตรกรขายได้ยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่มีปัญหาที่ข้าวหอมมะลิ ราคายืนนิ่งทั้งปี ราคาข้าวสารไม่พุ่งหวือหวาเช่นปีที่ผ่าน เพราะส่วนใหญ่ไทยส่งออกโดยใช้ตู้คอนเทน เนอร์ มีผลกระทบจากตู้ขาดแคลนและค่าระวางเรือสูง

ข้าวเปลือกราคาสูงสุดรอบ 5 ปี โค่นอ้อยปลูกข้าว

ส่วนปัจจัยลบ เป็นความเสี่ยงที่มีผลต่อราคาในประเทศคือ ปี 2564 สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยคาดว่าไทยจะส่งออกข้าวได้ 6 ล้านตัน แต่ยังมีปัญหาขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ส่งออกและค่าระวางเรือยังอยู่ในระดับสูง ประเทศผู้นำเข้า อาทิ ฟิลิปปินส์ มีนโยบายเพิ่มปริมาณการผลิตข้าวในประเทศ และลดการนำเข้า

ด้านนายรังสรรค์ สบายเมือง นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวยืนยันว่า โรงสีต้องการข้าวเปลือกทุกสายพันธุ์ แต่ราคาก็จะแตกต่างกันไปตามเอกลักษณ์ของแต่ละสายพันธุ์ เมื่อสีแปรแล้วจะคุ้มกับต้นทุนหรือไม่ ซื้อเท่าไร ปริมาณเท่าไร ทั้งนี้ในมุมมองของโรงสี ข้าวเปลือกที่ขายง่ายคือ ข้าวขาวที่มีเมล็ดยาว จะแข็งหรือนิ่มไม่มีปัญหา ขอให้ได้ผลผลิตต่อไร่ดี พันธุ์ข้าวจะผ่านการรับรองหรือไม่ได้รับการรับรองจากกรมการข้าวก็ซื้อทุกพันธุ์ จากต้องการให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดีและขายมีกำไร

นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ ที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า แม้ว่าวันนี้ ( 26 เม.ย.64) ราคาข้าวเปลือกได้ปรับลงมาแล้ว แต่ก็ยังอยู่ในระดับสูงและชาวนายังพอรับได้ โดย ข้าวเปลือกเจ้าเกี่ยวสด อยู่ที่ 6,800-7,000 บาทต่อตัน หรือคิดเป็นข้าวแห้ง 8,000 กว่าบาทต่อตัน จากก่อนหน้านี้หากจำกันได้ราคาเคยตกต่ำเหลือเพียง 6,500 บาทต่อตัน เมื่อมาดูภาพรวมในกลุ่มของข้าวชนิด 5% และข้าวนึ่ง ราคานี้ยังเป็นราคาสูงสุดรอบ 5 ปี

หน้า 9 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,674 วันที่ 29 เมษายน - 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564