เร่งช่วยเหลือเกษตรกรมันสำปะหลัง หลังราคาในประเทศร่วงหนัก

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวภายหลังประชุม 3 ฝ่าย ร่วมกับเกษตรกร และผู้ประกอบการ เพื่อหารือแนวทางช่วยเหลือเกษตรกรมันสำปะหลัง ภายหลังพบว่าราคาจำหน่วยมันสำปะหลังที่เกษตรกรได้รับยังอยู่ในระดับต่ำ และไม่สอดคล้องกับแนวโน้มความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้นจากการนำมาผลิตแอลกอฮอลป้องกันเชื้อโรคโควิด-19 ว่า เพื่อสร้างความสมดุลทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ กรมฯจะคุมเข้มมาตรการนำเข้า-ส่งออกมันสำปะหลัง โดยเฉพาะในเรื่องคุณภาพ มาตรฐาน และความชื้น ที่จะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดเพื่อไม่ให้กระทบกับระดับราคามันฯ นอกจากนี้จะตั้งด่านตรวจตามแนวชายแดนใน 12 จังหวัด ย้ำการขนย้ายจะต้องมีใบอนุญาต ส่วนการช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกมันสะปะหลัง กำหนดให้ผู้รับซื้อปิดป้ายแสดงราคารับซื้อหัวมันฯให้ชัดเจน รับซื้อที่เชื้อแป้ง 25% ส่วนการนำเข้ามันสด และมันเส้นจากประเทศเพื่อนบ้านมาจำหน่ายจะต้องมีการตรวจวัดเชื้อแป้งและเป็นไปตามกฎระเบียบ 

ด้านนายบุณชัย ศรีชัยยงพาณิช นายกสมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนทั้ง 4 ฝ่าย เห็นชอบที่จะรับซื้อ หัวมันสดจากการเกษตรในราคากิโลกรัมละ 2.50 บาทต่อ สำหรับเชื้อแป้ง 25 %  เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้สามารถคุ้มทุนในการปลูกมันสำปะหลัง หลังจากที่โดนผู้นำเข้าในต่างประเทศฉวยโอกาส กดราคารับซื้อ ในช่วงที่มีผลผลิตมันสำปะหลังออกมามากทำให้ราคาหัวมันสำปะหลังสดราคาลดต่ำลง ส่งผลทำให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นทดแทนมากขึ้น  โดยคาดการณณ์ผลผลิตหัวมันสดปีการผลิต 2562/2563 มีจำนวน 25 ล้านตัน และ ในปีการผลิต 2563/2564 เบื้องต้น คาดว่าจะมีผลผลิต จำนวน 28.3 ล้านตัน แต่จากภัยแล้ง และการขาดแคลนท่อนพันธ์จากปัญหาโรคใบด่าง ประเมินว่าผลผลิตจะลดลงประมาณร้อยละ 5-10

นายรังษี  ไผ่สอาด นายกสมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้ให้ประสานให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทั่วประเทศกว่า 5.4 แสนครัวเรือน ชะลอการขุดมันสำปะหลัง หรือขุดเท่าที่จำเป็นออกมาจากจำหน่ายเพื่อแก้ปัญหาราคารับซื้อมันสำปะหลังที่ไม่เป็นธรรม หลังจากปัจจุบันนี้ราคามันสำปะหลังทั่วประเทศตกเหลือเฉลี่ย กก.ละ 2.10 บาท และหากหักค่าขนส่งไปขายแล้วจะเหลือกก. 1.80 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ไม่ได้เพราะต้นทุนการผลิตสูงถึงกก. 2.30 บาท

นอกจากนี้ เกษตรกรยังเผชิญปัญหาภัยแล้ง ทำให้ผลผลิตต่อไร่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้เหลือไม่ถึง 2.5 ตันต่อไร่ จากปกติที่ควรจะเกิน 3 ตันต่อไร่ จนทำให้ต้องขาดทุนทั้งราคา และปริมาณที่ลดลง ส่วนโครงการประกันรายได้มันสำปะหลังที่ออกมา ก็ไม่สามารถชดเชยรายได้ให้ชาวไร่ได้ทั้งหมด เนื่องจากรัฐบาลจำกัดการประกันรายได้มันสำปะหลังไว้ไม่เกินครัวเรือนละ 100 ตัน ซึ่งคิดเป็น 30% ของมันสำปะหลังที่เกษตรกรปลูกได้เท่านั้น ส่วนที่เหลือก็ต้องนำไปขายในตลาดเอง

“เกษตรกรกำลังเดือดร้อนจากกลไกตลาดที่ไม่เป็นธรรม เพราะขณะที่ราคาผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังยังส่งออกได้ดี และต่างประเทศมีความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงนี้โควิดระบาดที่นำมันไปผลิตเป็นแอลกอฮอล์ แต่ทำไมเกษตรกรยังขายไม่ได้ราคา และถูกกดราคารับซื้ออยู่ ดังนั้นช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.64 ซึ่งจะมีมันสำปะหลังออกมาก จะขอให้ชะลอขุดมันออกขายก่อน 3 เดือนเพราะมันเก็บได้ถึง 2 ปี และหากสถานการณ์ไม่ดีก็คงจะต้องเลิกปลูกมันไปเลย โดยราคาที่ผู้ปลูกมันอยู่ได้ต้องการที่ กก. 2.50 บาท”