ผ่าอาณาจักร "เจมาร์ท" ลบคำสบประมาทจากห้องแถว ผงาดมาร์เก็ตแคปแสนล้าน

ผ่าอาณาจักร "เจมาร์ท" ลบคำสบประมาทจากห้องแถว ผงาดมาร์เก็ตแคปแสนล้าน เดินหน้ารุกธุรกิจสินเชื่อหลังได้เขี้ยวเล็บ "KB Kookimin Card" และ TIS เสริมแกร่ง

“ลบคำสบประมาทจากห้องแถวคูหาเล็กๆ แต่ตอนนี้ เจมาร์ท มีมาร์เก็ตแคปแสนล้าน” นั่นคือคำให้สัมภาษณ์ของ อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) ที่ให้สัมภาษณ์ "ฐานเศรษฐกิจ"

ฝ่าคลื่นลมผงาด"เกาหลี"ร่วมทุน

อดิศักดิ์ เล่าว่า เจมาร์ท ก่อตั้งมากว่า 25 ปี (เริ่มก่อตั้งวันที่ 21 ธ.ค.2531 จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า แบบเงินผ่อน มีคูหาเล็กๆเท่านั้น) ที่ผ่านมาล้ม ลุก คลุกคลาน ผ่านอุปสรรคต่างๆ มากมาย (ปัจจุบัน อาณาจักรของเจมาร์ท ตั้งอยู่ถนนรามคำแหง เขตสะพานสูง) แต่ ณ วันนี้แบงก์เกาหลี KB Kookmin Card Co., Ltd ร่วมทุนในบริษัท เจ ฟิน เทค จำกัด (J Fintech) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มเจมาร์ท ด้วยเงินลงทุน 650 ล้านบาท

KB Kookimin Card ถือหุ้น49%

ทั้งนี้ KB Kookmin Card จะเข้ามาถือหุ้นใน บริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ในสัดส่วน 49% ส่วนบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) คงเหลือถือหุ้น 45.09% และบริษัท

เจ เอ็ม ที เน็ทเวอรค์ เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) คงเหลือถือหุ้น 4.92% จากเดิมกลุ่มเจมาร์ทถือหุ้นทั้งหมด 100%

"ก่อนที่จะร่วมทุนกับ KB Kookmin มีนักลงทุนจากญี่ปุ่นขอเจรจาร่วมทุนก่อนแต่สุดท้ายตัดสินใจร่วมลงทุนกับเกาหลี เนื่องจากให้เงื่อนไขที่น่าสนใจเพราะรับซื้อหนี้มาบริหารและปล่อยดอกเบี้ยเพียง 2% เท่านั้น"

ผนึกพันธมิตรญี่ปุ่น TIS Inc.เขย่าวงการ FinTech

หลังจากร่วมลงทุนกับ KB Kookmin ไปแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของเจมาร์ทที่ถือหุ้น 80% ร่วมลงทุนกับ

บริษัทTIS Inc. ซึ่งเป็นบริษัทไอทีระดับโลกจากประเทศญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญในการพัฒนาโซลูชั่นทางด้านไอที (IT Solution Provider)ให้กับลูกค้าองค์ก

เอกชนระดับโลก ทั้งในอุตสาหกรรมการเงิน การผลิต การบริการ รวมถึงองค์กรของภาครัฐ ดังนั้นการเข้ามาร่วมลงทุนครั้งนี้ จะทำให้เจมาร์ทมีแต้มต่อเหนือคู่แข่

ในประเทศไทย

เดินหน้า Synergy

หลังจากได้พันธมิตร คือ KB Kookmin Card "อดิศักดิ์" บอกว่า ธุรกิจในเครือไล่เลียงตั้งแต่ เจมาร์ท,เจเอ็มที,ซิงเกอร์, เจ เอเอสแอสเซท,เจ ฟินเทก และ เจ เวนเจอร์ส ภาพเห็นชัดเจนมากขึ้นสำหรับการ Synergy บริษัทฯในเครือ เช่น ให้ ซิงเกอร์เป็นตัวแทนขายสินค้า และ ปล่อยสินเชื่อ รวมไปถึงการรับชำระจำนำทะเบียนรถ แล้วนำมาปล่อยให้ เจเอ็มที รับทำหน้าที่ตามเก็บสินเชื่อ หรือ ลูกค้าซื้อโทรศัพท์เคลื่อนที่จากร้านเจมาร์ท เราจะให้บัตรเครดิตไปใช้ก่อนจะใช้หรือไม่ใช้ไม่เป็นไร โดยการผสมผสานธุรกิจของกลุ่มเจมาร์ทใช้เทคโนโลยี KB Kookmin Card และ TIS พัฒนาระบบ Credit Scoring และ ไอที เพื่อต่อยอดธุรกิจด้านการเงินปล่อยสินเชื่อผ่าน "เจ ฟินเทก"

"ต้องบอกว่า ผม ทำธุรกิจคนเดียวไม่ได้หรอก ผม โชคดีที่มีทีมงานที่ดีและนำพาเจมาร์ท มาถึงจุดนี้ได้" นายอดิศักดิ์ กล่าว

"เก็บเงินได้หรือเปล่า" คือหัวใจธุรกิจติดตามหนี้

อดิศักดิ์ บอกว่า แม้ธุรกิจหลายๆธุรกิจมารวมกันท้ายที่สุดทุกคนต้องมาจบที่เก็บเงินได้หรือเปล่า สิ่งนี้คือ หัวใจของธุรกิจ หลังจากได้เจรจากับกับแบงก์ ล่าสุดแบงก์เริ่มเปลี่ยนโมเดล เพราะทำธุรกิจรูปแบบเดิมไม่ได้แล้ว องค์กรใหญ่แต่ผลลัพทธ์ที่ได้กับลดลง สิ่งที่ แบงก์ ทำไม่ได้ คือ เก็บเงิน โดยรอบแรกเก็บหนี้ได้ 60-70% แต่ไม่สามารถไล่บี้หนี้หรือไล่จี้หนี้ได้ แล้วหนี้พวกหนี้ถึงเวลาตั้งสำรอง สุดท้ายต้องมาขายหนี้มาให้ JMT บริหารจัดการโดยเราไม่ต้องตั้งสำรองเราก็มาช่วยธนาคารเก็บเงินแทน

ปลื้มสุดซื้อหุ้นซิงเกอร์

อดิศักดิ์ บอกว่า สำหรับซิงเกอร์ เป็นสิ่งที่ไม่เคยเชื่อว่าจะมีโอกาส แต่สุดท้ายได้เข้าไปถือหุ้นใน บมจ.ซิงเกอร์ ประเทศไทย (SINGER) จาก SINGETHAILAND ) B.V. จำนวน 67,499,900 หุ้น หรือ 24.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด 270,000,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 14.00 บาท คิดเป็นมูลค่า 944,998,600 บาท

"ตอนนั้นใครบอกว่าแพงไม่สนใจ เพราะบริษัทฯนี้เป็นต้นแบบการขายสินค้าเงินผ่อนของผมเลยนะ เราเองยังก๊อปปี้เขาเลยคุณปิยะ (ปิยะ พงษ์อัชฌา กรรมการบริหารและรองประธานบริหาร) ทำหน้าที่ทั้งขายสินค้าและเก็บเงินในตอนนั้น ตอนเข้าไปซื้อไป 40% เงินไม่พอ บอกเควิน (เควิน-กวิน กาญจนพาสน์ จากบีทีเอส) และ สหพัฒนฯ มาร่วมกันซื้อหุ้น แต่ทั้งสองกลุ่มไม่มีความชำนาญ เจมาร์ทฯ ก็เข้ามาบริหารแทน"

เปิดมาร์เก็ตแคปแสนล้าน

อย่างไรก็ตาม เมื่อพลิกดูมาร์เก็ตแคปของกลุ่มเจมาร์ท ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562,ธันวาคม 2563 ถึง 10 มีนาคม 2563 อยู่ที่ 130,000 ล้านบาท แบ่งเป็นเดือ

ธันวาคม 2562 อยู่ที่ 28,217 ล้านบาท,ธันวาคม 2563 อยู่ที่ 65,611 ล้านบาท และ วันที่ 10 ธันวาคมอยู่ที่ 99,720 ล้านบาท

มูลค่าทางธุรกิจกลุ่มเจมาร์ท