เปิดไทม์​ไลน์แผนฉีดวัคซีนโควิด-19 ในไทย ใครจะได้ฉีดก่อน เช็กเลย

22 ก.พ. 2564 | 13:05 น.

อัพเดทแผนวัคซีนโควิด-19 ประเดิม 24 ก.พ.นี้ "ซิโนแวค" 2 แสนโดส ส่งตรงจากจีนถึงไทย ใครได้ฉีดก่อน กลุ่มไหน จังหวัดอะไร เช็กเลย!

ในที่สุดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ลอตแรกจากซิโนแวค (Sinovac )จำนวน 2 แสนโดสก็จะเดินทางมาถึงประเทศไทย โดยเฟซบุ๊กของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โพสต์ภาพของวัคซีนซิโนแวคจากประเทศจีนจะส่งมาถึงไทยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 


แน่นอนว่าเมื่อวัคซีนโควิด-19 ลอตแรกจากซิโนแวคมาถึงประเทศไทย จะต้องมีคำถามว่าแล้วใครละที่จะเป็นผู้ได้รับการฉีดวัคซีนในลอตแรกนี้ ซึ่งในวันนี้ก็มีกระแสข่าวว่า "นายกฯตู่"จะขอเป็นผู้ฉีดวัคซีนเข็มแรกเพื่อเป็นการแสดงความมั่นใจให้กับประชาชนในประเทศ 


อย่างไรก็ตามทางนายอนุทิน เจ้ากระทรวงฯ ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ในครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับมาตรการความปลอดภัยและดุลยพินิจของแพทย์ เพราะวัคซีนแต่ละชนิดมีข้อบ่งใช้แตกต่างกัน


เอาเป็นว่าในเบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลว่าการฉีดวัคซีนโควิด-19เข็มแรกในไทยจะเป็นใคร แต่วันนี้ทาง"ฐานเศรษฐกิจ"จะมารวบรวมข้อมูลแผนงาน-ความคืบหน้าของวัคซีนโควิด -19 ในไทยแบบละเอียดว่าหลังจากนี้จะมีอะไรกันบ้าง
 

แผนงานวัคซีนโควิด-19 ในไทย 
รัฐบาลมีแผนจัดหาวัคซีน 63 ล้านโดสเพื่อรองรับประชาชนทั้งประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ 

 

-แผนงานระยะแรก เริ่ม ก.พ.
วัคซีนซิโนแวคจากจีน 2 ล้านโดส จะเข้ามาประเทศไทยในวันที่ 24 ก.พ. โดยลอตแรกจะมีจำนวน 2 แสนโดส และในเดือนมี.ค.จะเข้ามาอีก  8 แสนโดส และเมษายน 1 ล้านโดส 

 

สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้แก่


กลุ่มที่ 1 บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน


กลุ่มที่ 2 ประชาชนที่มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรังรุนแรง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง มะเร็งที่อยู่ในระหว่างเคมีบำบัด รังสีบำบัด ภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน โรคอ้วน น้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมหรือ BMI มากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
กลุ่มที่ 3 ประชาชนที่มีอายุ 60 ขึ้นไป 


กลุ่มที่ 4 เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรคโควิด-19 ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย


กลุ่มที่ 5  ประชาชนทั่วไปและแรงงานในพื้นที่ระบาดของโควิด-19

 

-พื้นที่เป้าหมายการฉีดในระยะเร่งด่วน 


เดือน ก.พ.-เม.ย.2564 จะกระจายใน 10 จังหวัดที่เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด,พื้นที่ที่เคยเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด และพื้นที่ที่มีการพบการติดเชื้อต่อเนื่อง โดยจะให้บริการในสถานพยาบาลที่มีแพทย์และห้องฉุกเฉินทั้งรัฐและเอกชน ได้แก่ 

 

  • สมุทรสาคร 10 แห่ง 
  • กรุงเทพฯ 62 แห่ง 
  • สมุทรปราการ 30 แห่ง 
  • นนทบุรี 21 แห่ง 
  • ปทุมธานี 22 แห่ง 
  • ระยอง 13 แห่ง 
  • ชลบุรี 32 แห่ง 
  • จันทบุรี 14 แห่ง 
  • ตราด 8 แห่ง
  • ตาก 11 แห่ง

ทั้งนี้ แผนการกระจายวัคซีนโควิด-19 จำนวน 2 ล้านโดสที่จะเข้ามาในประเทศไทย (1 คนจะฉีด 2 เข็ม ) ใน 10 จังหวัด  ประกอบด้วย


1.สมุทรสาคร 8.2 แสนโดส จำนวน 4.1 แสนคน 
-บุคลากรทางการแพทย์ 8,000 คน 
-เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 6,000 คน 
-ผู้ที่มีโรคประจำตัว 36,000 คน 
-ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 1.5แสนคน 
-ประชาชนทั่วไปและแรงงาน 2.1 แสนคน 


2.กรุงเทพฯ 8 แสนโดส จำนวน 4 แสนคน 
-บุคลากรทางการแพทย์ 32,000 คน 
-เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 8,000 คน 
-ผู้ที่มีโรคประจำตัว 1แสน คน 
-ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 1แสนคน 
-ประชาชนทั่วไปและแรงงาน 1.6 แสนคน


3.นนทบุรี 26,000 โดส จำนวน 13,000 คน 
-บุคลากรทางการแพทย์ 9,000 คน 
-เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 4,000 คน 


4.ปทุมธานี 26,000 โดส จำนวน 13,000 คน 
-บุคลากรทางการแพทย์ 9,000 คน 
-เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 4,000 คน


5.สมุทรปราการ 28,000 โดส จำนวน 14,000 คน 
-บุคลากรทางการแพทย์ 9,000 คน 
-เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 5,000 คน 


6.ระยอง 18,000 โดส จำนวน 9,000 คน 
-บุคลากรทางการแพทย์ 5,000 คน 
-เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 4,000 คน 


7. ชลบุรี 28,000 โดส จำนวน 14,000 คน 
-บุคลากรทางการแพทย์ 10,000 คน
-เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 4,000 


8.จันทบุรี 16,000 โดส จำนวน 8,000 คน 
-บุคลากรทางการแพทย์ 6,000 คน 
-เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 2,000 คน 


9.ตราด 12,000 โดส จำนวน 6,000 คน 
-บุคลากรทางการแพทย์ 5,000 คน 
เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 1,000 คน


10.ตาก 1.6 แสนโดส จำนวน 80,000 คน
-บุคลากรทางการแพทย์ 8,000 คน
-เจ้าหน้าที่ที่มีโอกาสสัมผัสผู้ป่วย 2,000 คน 
-ผู้ที่มีโรคประจำตัว 10,000 คน 
-ผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 10,000 คน 
-ประชาชนทั่วไปและแรงงาน 50,000 คน 

 

รวมในระยะแรก 1,934,000 โดส จำนวน 967,000 คน ส่วนอีก 66,000 โดส สำหรับ 33,000 คนนั้นจะสำรองไว้เผื่อมีพื้นที่อื่นระบาดเกิดขึ้น โดยจะให้กับพื้นที่ที่อยู่โดยรอบพื้นที่ระบาดเพื่อเป็นการสกัดวงการแพร่เชื้อ

 

แผนงานระยะ 2 เริ่มมิ.ย.

ส่วนระยะที่ 2 จำนวนวัคซีนที่เตรียมไว้  61 ล้านโดส (วัคซีนของแอสตราเซเนก้า)จะดำเนินการกระจายในช่วงเดือนมิ.ย.และให้แล้วเสร็จภายในปี 2564 โดยมีอัตราการฉีดในรพ.ที่แพทย์และห้องฉุกเฉินทั่วประเทศ 1,000 แห่ง วันละ 500 โดส 20 วันต่อเดือน เฉลี่ย 10 ล้านโดสต่อเดือน 


อย่างไรก็ตามหากในอนาคตเมื่อวัคซีนมีความปลอดภัยมากขึ้นอาจพิจารณาขยายการให้บริการในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำล(รพ.สต.)บางแห่งที่มีอุปกรณ์ฟื้นคืนชีพ

 

-แผนงานระยะ 3 ปลายปี 64
ต่อเนื่องมาจากระยะ 2 โดยในระยะที่ 3 เมื่อมีวัคซีนอย่างกว้างขวางจะเร่งรัดการฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุดและครอบคลุมประชากรคนไทยให้มากที่สุด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"อนุทิน"ให้แพทย์ชี้ขาดฉีดวัคซีนนายกฯ ได้หรือไม่ได้

นายกฯ พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 คนแรก  พร้อมประชุมศบค.บ่ายนี้

ไทยสั่งซื้อวัคซีนโควิด 19 จำนวน 63 ล้านโดส

รพ.ราชวิถี ชวนกลุ่มเสี่ยงลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิดฟรี ตั้งแต่มี.ค.นี้

เปิดแผน"วัคซีนโควิด" ระยะ 1 - 2 ใครได้รับสิทธิ์ฉีดก่อนหลัง เช็กได้ที่นี่