กฤษฎีกาแจงคำวินิจฉัยแบงก์กรุงไทย ไม่ใช่คำตัดสิน ไม่ขอแจ้งล่วงหน้า

27 พ.ย. 2563 | 02:23 น.

"นพดล เภรีฤกษ์" โฆษกกฤษฎีกาชี้แจง การวินิจฉัยแบงก์กรุงไทยไม่ใช่คำตัดสินเหมือนอย่างศาล ไม่ขอแจ้งล่วงหน้า เพื่อปิดช่องการแทรกแซงทางการเมือง

กรณีการวินิจฉัยตีความสถานภาพของธนาคารกรุงไทยว่าเป็นรัฐวิสาหกิจหรือไม่ ซึ่งภายหลังมีผู้เสนอแนะให้กฤษฎีกาทำงานให้แน่นแฟ้นกับรัฐบาลก่อนมีคำวินิจฉัยนั้น โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ออกมาชี้แจงแล้ววานนี้ (26 พ.ย.)ว่า การให้ความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นการวินิจฉัยเฉพาะในประเด็นข้อกฎหมายที่ได้รับการหารือ ไม่ใช่การชี้ขาดตัดสินอย่างศาล ยันไม่ขอแจ้งผลวินิจฉัยล่วงหน้า หรือหารือครม.ก่อนมีคำวินิจฉัยตามข้อเสนอแนะ เพื่อปิดช่องการแทรกแซงทางการเมือง

 

นายนพดล เภรีฤกษ์ โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีมีข้อเสนอแนะสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ว่าควรหารือกับคณะรัฐมนตรีก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยความเห็นทางกฎหมายในเรื่องต่าง ๆ เนื้อหาระบุว่า

 

ตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาควรทำงานที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาล และควรบอกกล่าวคณะรัฐมนตรีล่วงหน้าก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยออกมา นั้น

 

สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ขอเรียนชี้แจง ดังนี้

1.การให้ความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นการวินิจฉัยเฉพาะในประเด็นปัญหาข้อกฎหมายและเฉพาะประเด็นที่หน่วยงานของรัฐ ผู้รับผิดชอบกฎหมายได้หารือเท่านั้น ไม่วินิจฉัยนอกประเด็น โดยในการให้ความเห็นทางกฎหมายนั้น จะเป็นการให้ความเห็นทางกฎหมายที่อยู่บนพื้นฐานของหลักกฎหมาย และความเห็นนั้นเป็นการให้คำปรึกษา ไม่ใช่การวินิจฉัยชี้ขาดตัดสินคดีอย่างศาล และที่สำคัญการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการกฤษฎีกายึดหลักความเป็นกลางทางการเมืองอย่างเคร่งครัด

 

2. สำหรับกรณีมีผู้แสดงความคิดเห็นว่าสมควรให้แจ้งผลการให้ความเห็นทางกฎหมายล่วงหน้า หรือควรหารือกับคณะรัฐมนตรีก่อนที่จะมีคำวินิจฉัยนั้น เป็นเรื่องที่สำนักงานฯ ไม่เคยดำเนินการและจะไม่ดำเนินการเพราะเป็นการเปิดช่องให้มีการแทรกแซงทางการเมืองได้

 

จึงเรียนมาเพื่อทราบทั่วกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ดร.พิสิฐ" ติงกรณีการตีความสถานภาพ ธ.กรุงไทย 

"มาดามเดียร์" เผย กมธ. สั่งสอบหาความจริงเพิ่มปมกรุงไทยพ้นรัฐวิสาหกิจ

คลังเสนอให้กรุงไทยเป็นหน่วยงานของรัฐ

พนักงานแบงก์ KTB พ้นสภาพรัฐวิสาหกิจ

อนาคตกรุงไทยหลังพ้นรัฐวิสาหกิจ

 

กฤษฎีกาแจงคำวินิจฉัยแบงก์กรุงไทย ไม่ใช่คำตัดสิน ไม่ขอแจ้งล่วงหน้า

 

แม้ว่าโฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จะไม่ได้ระบุว่า การวินิจฉัยประเด็นข้อกฎหมายที่มีผู้เสนอมาว่าคณะกรรมการกฤษฎีกาควรมีการหารือกับคณะรัฐมนตรีก่อนนั้นคือเรื่องใด แต่ก่อนหน้านี้ ได้มีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับกรณีเมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา  ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ  KTB ได้ทำหนังสือชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เกี่ยวกับกรณีที่กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ได้หารือขอความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับสถานภาพของกองทุนฯ และธนาคารกรุงไทย

 

โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้แจ้งผลการพิจารณาว่า ธนาคารกรุงไทย ไม่มีลักษณะเป็นบริษัทหรือบริษัทมหาชนจำกัดที่เป็นรัฐวิสาหกิจตาม (2) และ (3) ของบทนิยามคำว่า "รัฐวิสาหกิจ" ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561ซึ่งทางธนาคารเห็นว่า การเปลี่ยนสถานภาพของธนาคารตามความเห็นข้างต้น อาจมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร และต่อการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจหลายฉบับ

ประเด็นดังกล่าวก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งได้เกิด ข้อเสนอแนะของดร.พิสิฐ ลี้อาธรรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุว่า กฤษฎีกาควรทำงานแน่นแฟ้นกับรัฐบาลให้มากกว่านี้ ควรมีการหารือ พร้อมชี้ให้เห็นถึงความไม่สมบูรณ์ในระบบบริหารราชการ ซึ่งรัฐวิสาหกิจไม่ควรซ่อนอยู่ในกฎหมายงบประมาณแผ่นดิน