ปลื้ม “ยางแผ่น” ทะลุ 60 บาท/กิโลกรัม

01 ก.ย. 2563 | 08:20 น.

บิ๊ก กยท. ลั่นโลก เผยยางแผ่นทุกตลาด ปรับขึ้น ทะลุ 60 บาทต่อกิโลกรัม ยกแผง ทุบสถิติในรอบ 3 ปี เผยความต้องการสูง ซัพพลายมีน้อย ดันราคา

ณกรณ์ ตรรกวิรพัท

 

นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท เป็นผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า  สถานการณ์ราคายาง ณ วันที่ 1 กันยายน  2563 ราคา "ยางแผ่นรมควันชั้น 3"  ปรับขึ้นยกแผง ได้แก่ ตลาดกลางยางพาราหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ราคาบวก 1.80 บาท/กิโลกรัม ทำให้ราคา 60.05 บาท/กิโลกรัม ,สำนักงานตลาดกลางยางพาราจังหวัดสุราษฎร์ธานี  ราคาปรับขึ้น 1.66 บาท ทำให้ราคายาง 60.05 บาท/กิโลกรัม เช่นเดียวกับสำนักงานตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราช ปรับขึ้น 1.80  บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลทำให้ราคา ปรับที่ 60.05 บาทต่อกิโลกรัม สูงสุดในรอบ 3 ปี สอดรับกับ ตลาดล่วงหน้า ยางแผ่นรมวัน (เอฟโอบี) ปรับราคาขึ้น 1.40 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ราคาปรับขึ้นเป็น 62.90 บาทต่อกิโลกรัม เช่นเดียวกับ "น้ำยางก้อนถ้วย" (อีสาน) ปรับขึ้น 0.50 บาทต่อกิโลกรัม เป็นราคา 38 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนน้ำยางสด ปรับขึ้นมา 1 บาท ทำให้ราคาอยู่ที่ 45 บาทต่อกิโลกรัม

 

ส่วนราคาราคายางแท่ง  1 ก.ย. 2563   แบ่งเป็น  STR20(ไทย) ราคาอยู่ที่  46.45 บาทต่อกิโลกรัม ปรับราคาจากเมื่อวาน  บวก 0.70  บาทต่อกิโลกรัม TSR-20(สิงคโปร์)  ราคาอยู่ที่ 41.18  บาทต่อกิโลกรัม บวกเพิ่มจากเมื่อวาน0.34  บาท ต่อกิโลกรัม และSMR20 (มาเลเซีย ) ราคาอยู่ที่ 40.74  บาทต่อกิโลกรัม ราคายางทรงตัว

 

นายณกรณ์ กล่าวว่า สถานการณ์ราคายางขยับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ต้องขอขอบคุณรัฐบาล นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน แทนพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ให้ความสำคัญและผลักดันราคายางพารามาตลอด กระทั่งในวันนี้ราคายางสูงขึ้นกว่า 60 บาท/กก. ช่วยแก้ปัญหาให้พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งใจไว้

 

ปลื้ม “ยางแผ่น” ทะลุ 60 บาท/กิโลกรัม

ปลื้ม “ยางแผ่น” ทะลุ 60 บาท/กิโลกรัม

อนึ่ง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายสถานการณ์ยางพารา วันที่ 1 ก.ย. 2563   ราคากลางยางพารา ยางแผ่นดิบอยู่ที่ 54.98บาท/กก. ยางแผ่นรมควันอยู่ที่ 58.29บาท/กก. ส่วนราคาประมูลเฉลี่ย ณ ตลาดกลาง ยางพารายางแผ่นดิบอยู่ที่ 55.83บาท/กก. ราคายางแผ่นรมควัน อยู่ที่ 60.05บาท/กก.ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นเงินเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐรวมถึงนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นมาในช่วงที่ผ่านมา

 

เมื่อพิจารณาตลอดเดือน ส.ค.พบว่าดัชนีดาวโจนส์ท้าสถิติแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 36 ปี โดยส่วนใหญ่เป็นผลมาจากไวรัส โควิด-19 ราคายางล่วงหน้าญี่ปุ่นปรับเพิ่ม สินค้ายุทธภัณฑ์ ถุงมือยาง ยางยืด สินค้ามีความต้องการมากขึ้น ประกอบกับพายุฝนตกหนักในประเทศผู้ผลิตยางแรงงานกรีดและผลิตยางแห้งขาดแคลนเป็นปัจจัยสนับสนุนราคายาง อย่างไรก็ตามจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า เมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐ ราคาน้ามันที่ปรับตัวลดลงยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคายางในระยะนี้