เปิดรับฟังความคิดเห็น คุ้มครองผู้ลงทุน ”หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์”

21 ส.ค. 2563 | 08:27 น.

ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการปรับปรุงเกณฑ์กำกับดูแล “หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์” เพื่อเพิ่มการคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมยกระดับกระบวนการขาย มั่นใจว่าผู้ลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเพียงพอ

รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่าก.ล.ต.เปิดรับฟังความคิดเห็นหลักการปรับปรุงเกณฑ์กำกับดูแลหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุน(Perpetual Bond) หรือ “หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์” เพื่อเพิ่มการคุ้มครองผู้ลงทุนมากขึ้นและยังสามารถพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไปพร้อมกัน โดยกำหนดให้หุ้นกู้ประเภทดังกล่าวที่จะเสนอขายต่อผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนรายใหญ่ (HNW) ต้องได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในระดับลงทุน (investment grade) เท่านั้น ซึ่งเป็นการคัดกรองคุณภาพในเบื้องต้นว่าบริษัทผู้ออกหุ้นกู้มีความสามารถในการชำระหนี้ระดับหนึ่งเนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวไม่มีการกำหนดอายุไถ่ถอน ทำให้ผู้ลงทุนอาจต้องถือไว้นานกว่าหุ้นกู้ทั่วไป

นอกจากนี้ ยังยกระดับระบบกระบวนการขายเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ลงทุนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนอย่างเพียงพอ โดยปรับปรุงแบบลงนามรับทราบความเสี่ยงให้ชัดเจนและเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงเน้นคำเตือนที่สำคัญและกำหนดให้มีการทดสอบความรู้ของผู้ลงทุนก่อนการลงทุนครั้งแรก เพื่อประเมินความเหมาะสมในการลงทุน อีกทั้งเป็นเครื่องมือให้ผู้ขายอธิบายลักษณะความเสี่ยงและผลตอบแทนต่อผู้ลงทุน และ ส่งเสริมการความรู้ให้กับผู้ลงทุนเกี่ยวกับหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนผ่านช่องทางต่าง ๆ

“ภายใต้สถานการณ์ตลาดตราสารหนี้ไทยที่อยู่ในภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน ผู้ออกตราสารหนี้หลายรายจึงเสนอขายหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนที่มีความเสี่ยงและซับซ้อนมากกว่าหุ้นกู้ทั่วไปเพื่อให้ผลตอบแทนสูงขึ้น โดยตั้งแต่ปี 2555 จนถึงเดือนมิถุนายน 2563 พบมีการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีลักษณะคล้ายทุนรวม 119,000 ล้านบาท ขณะที่ ผู้ลงทุนส่วนใหญ่เป็นผู้ลงทุนรายย่อยประมาณ 81% และผู้ลงทุนรายใหญ่ (high net worth : HNW) 6%”

ทั้งนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารรับฟังความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าวที่เว็บไซต์ ก.ล.ต. https://www.sec.or.th/TH/Pages/PB_Detail.aspx?SECID=644 ผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจสามารถแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ หรือทาง e-mail: [email protected] จนถึงวันที่ 21 กันยายน 2563